เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1932 พี่น้องฝาแฝด
ตอนที่ 1,932 พี่น้องฝาแฝด
“ย่อมเป็นความจริง”
เฉียวปี้อี๋ยิ้มเหมือนกระต่ายน้อยที่กำลังพยายามหลอกล่อเจ้าหมาป่า “และเพราะว่านางงดงามเกินไป นั่นจึงเป็นอุปสรรคขัดขวางการศึกษาของนาง ดังนั้นนางจึงใช้วัตถุวิเศษแปลงโฉมตนเองให้กลายเป็นสตรีร่างอ้วนหน้าตาอัปลักษณ์… อิ ๆ หากท่านได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพี่สาวข้า เกรงว่าท่านคงต้องน้ำลายไหลจนตายแล้ว”
หลินเป่ยเฉินรีบยกมือเช็ดมุมปากโดยไม่รู้ตัวและปฏิเสธว่า “เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่ใช่คนที่ลุ่มหลงในตัณหาเช่นนั้น”
แต่ในใจจริงเขากำลังคิดอยู่ว่า ‘เฉียวปี้อี๋มีหน้าตางดงามถึงเพียงนี้ พี่สาวของนางกลับกลายเป็นหญิงอ้วนอัปลักษณ์มันก็ดูน่าเหลือเชื่อเกินไป ที่แท้ก็มีเรื่องราวซ่อนอยู่เบื้องหลังนี่เอง เป็นเพราะเฉียวฟู่มีความงดงามมากเกินไป จึงกลายเป็นอุปสรรคในการศึกษาของนาง… นั่นจะต้องเป็นรูปโฉมที่มีความสวยงามขนาดไหนกันนะ?’
ดูเหมือนว่าเฉียวปี้อี๋จะสามารถอ่านสายตาของหลินเป่ยเฉินได้ทะลุปรุโปร่ง นางจึงยิ้มและกล่าวว่า “ท่านไม่ต้องการ... ได้พวกเราทั้งพี่ทั้งน้องบ้างหรือ?”
“เอ่อ เรื่องนั้น…”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่น “ข้าไม่ต้องการ”
“จริงหรือ? ท่านแน่ใจนะ?”
ดวงตาของนางเป็นประกายระยิบระยับมากกว่าเดิมขณะขยับเข้ามากระซิบข้างหูหลินเป่ยเฉินว่า “ข้าจะบอกความลับอีกหนึ่งเรื่องให้ท่านรู้ ความจริงข้ากับพี่สาวเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน พวกเรามีความรู้สึกเชื่อมโยงกัน เมื่อคนหนึ่งรู้สึกตื่นเต้น อีกคนก็จะรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน แม้พวกเราจะอยู่ห่างไกลกันก็ตาม”
ให้ตายสิ
หลินเป่ยเฉินรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าขึ้นมาแล้ว
มีเรื่องเช่นนั้นด้วยหรือ?
นี่เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ จะลองดูสักครั้งดีไหมนะ?
“จำไว้ว่ามีเวลาก็กลับมาหาข้าบ้างล่ะ”
เฉียวปี้อี๋เชิดหน้าขึ้น กัดริมฝีปากและจ้องมองเขาด้วยแววตาคาดหวัง “ข้าจะตั้งใจเล่าเรียนและรอคอยท่านอยู่เสมอ… อ้อ อีกอย่าง ข้าจะช่วยเหลือท่านโดยการขับไล่พวกบุรุษที่มาตามติดพี่สาวของข้า แต่ท่านก็ต้องรีบกลับมาเร็ว ๆ แล้วกัน”
นี่เป็นข้อเสนอจากโฉมงามที่ปฏิเสธได้ยากยิ่งนัก
หลินเป่ยเฉินเอื้อมมือไปขยี้หัวเด็กสาวและตอบว่า “ตกลง ข้าจะรีบกลับมา”
ในที่สุด เขาก็ส่งตัวเฉียวปี้อี๋กลับคืนสู่สำนักศึกษาฉิวจื่อได้สำเร็จ
เมื่อหลินเป่ยเฉินกลับมายังจวนที่พักของตนเอง ทุกสิ่งทุกอย่างก็อยู่ในความสงบ
ภายในห้องนอน
หลินเป่ยเฉินนำโทรศัพท์มือถือออกมาและเปิดดูความคืบหน้าของแอปสำหรับการฝึกวิชา
แอปสำหรับการฝึกพลังจิตของเขาเลื่อนขั้นขึ้นมาอยู่ในระดับจอมเทพจักราเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนต่อไป ก็คือการเปลี่ยนพลังจิตให้เสริมสร้างพลังปราณภายในร่างกาย
เช่นเดียวกับวิชากระบี่ธาตุแท้ที่ก็เลื่อนขั้นได้เช่นกัน บัดนี้ เขาสามารถบรรลุขั้นสูงสุดของวิชากระบี่ธาตุแท้ได้เรียบร้อยแล้ว
“เราสามารถบรรลุเคล็ดวิชานี้ได้สำเร็จ ส่วนการโจมตีจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับพลังปราณภายในร่างกายของเราแล้วสินะ”
หลินเป่ยเฉินนั่งนิ่งใช้ความคิด
นั่นเท่ากับว่าในขณะนี้ พลังจิต พลังปราณและความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา ล้วนอยู่ในขั้นจอมเทพจักราโดยสมบูรณ์ทั้งหมด
แต่ปัญหาอีกหนึ่งข้อก็ตามมา
และเป็นปัญหาสำคัญทีเดียว
“ตกลงเราเป็นผู้ใช้สายเลือดอะไรกันแน่วะ?”
หลินเป่ยเฉินพิจารณาการฝึกฝนของตนเอง
เขาน่าจะมีความใกล้เคียงกับผู้ใช้สายเลือดผู้คงกระพันมากที่สุด เพราะความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาในปัจจุบัน แม้แต่กระบี่ที่คมที่สุดก็ยังตัดเส้นผมของเขาไม่ขาดเลยด้วยซ้ำ
แต่นั่นเป็นเพราะว่าเขาเลื่อนขั้นพลังได้จากการทำภารกิจของแอปพลิเคชัน Keep ต่างหาก และพลังปราณในร่างกายของเขาก็รุดหน้าไม่แพ้กัน ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้หลินเป่ยเฉินมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ใช้สายเลือดผู้แปรธาตุเช่นกัน
หลินเป่ยเฉินเปิดดูแอปพลิเคชัน Keep
ยังไม่มีภารกิจใหม่แจ้งเตือนขึ้นมา
“ดูเหมือนคงต้องรอให้เกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างเพื่อเป็นการกระตุ้นอยู่สินะ?”
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วใช้ความคิด
หลังจากนั้น เขาก็เปิดเข้าไปในแอปเถาเป่า และค้นหาผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับยาบำรุงกำลังที่เขามอบให้แก่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน ซึ่งสิ่งที่ได้พบนั้นก็มีทั้งเครื่องดื่มชูกำลังตรากระทิงแดง ชาเขียวสำหรับเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย ไปจนถึงนมอัลมอนด์ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น และอื่น ๆ อีกมากมาย
หลินเป่ยเฉินสั่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมาทั้งหมดและตั้งใจจะค่อย ๆ ศึกษาสรรพคุณของพวกมันทีละชนิด
ณ ขณะนี้ บรรดาตัววายร้ายของอาณาจักรเล่ยฉื่อต่างก็ถูกสังหารหมดสิ้น แต่เด็กหนุ่มเชื่อว่าพวกเผ่ามนุษย์ทะเลทรายต้องเตรียมการโจมตีกลับอย่างแน่นอน ไม่ว่าทำอย่างไร พวกมันก็ต้องล้างแค้นให้ได้ บางทีหลังจากที่เขาเดินทางออกจากอาณาจักรเล่ยฉื่อไปนั้น สถานการณ์โดยรวมอาจจะอันตรายมากขึ้นก็เป็นได้
ว่าตอนนี้ศิษย์พี่ฮันจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?
นานแล้วที่เขาไม่ได้รับข่าวคราวจากผู้คนของกองทัพเป่ยเฉิน
หรือว่าเขาจะเข้าใจผิด แม่ทัพใหญ่ผู้ควบคุมกองทัพเป่ยเฉินจะไม่ใช่ฮันปู้ฟู่?
…
อาณาจักรเทียนอวี่
สมรภูมิแห่งแดนตะวันตกเฉียงใต้
ดาวเคราะห์หลายร้อยดวงกำลังเผาไหม้
บนป้อมปราการลอยฟ้าแห่งหนึ่ง บุรุษที่มีท่าทางสง่าผ่าเผยผู้หนึ่งกำลังอ่านข้อความในกระดาษแผ่นหนึ่ง และทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ร่างกายสั่นเทา แผ่นกระดาษแทบร่วงหล่นหลุดจากมือ
องครักษ์ผู้ยืนอยู่ด้านข้างและบรรดานายทหารที่อยู่ในห้องบัญชาการต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนั้น
เกิดอะไรขึ้น?
เหตุใดท่านแม่ทัพใหญ่จึงได้ตกใจถึงเพียงนี้?
ต้องทราบก่อนว่าสงครามแย่งชิงดินแดนระหว่างกองทัพเป่ยเฉินและเผ่ามนุษย์ทะเลทรายทวีความดุเดือดมานานแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการระหว่างเผ่ามนุษย์ทะเลทรายกับเผ่าอสูรประจำสมรภูมิเขตตะวันออก หรือการตัดเส้นทางขนส่งระหว่างอาณาจักรเทียนอวี่กับอาณาจักรเล่ยฉื่อ เรื่องราวทั้งหมดนี้ต่างก็ส่งผลกระทบต่อกองทัพเป่ยเฉินอย่างใหญ่หลวงทั้งสิ้น
ว่ากันว่าสงครามในครั้งนี้อาจกินเวลายาวนานหลายร้อยปี
ฝ่ายมนุษย์ทะเลทรายมียอดฝีมือชื่อดังอยู่ด้วยกันสามคน
โดยเฉพาะ ‘ราชาหินดำ’ เขาคือจอมวายร้ายที่เกิดมาเพื่อฆ่าคน แม้บัดนี้ ราชาหินดำจะยังไม่เคยลงสู่สมรภูมิด้วยตนเอง แต่เพียงเอ่ยชื่อออกมา ก็สามารถสร้างแรงกดดันให้แก่กองทัพเป่ยเฉินได้อย่างหนักหน่วง
การทำสงครามในครั้งนี้ไม่มีช่องว่างสำหรับความพ่ายแพ้
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ท่านแม่ทัพใหญ่ต้องลงมาควบคุมการรบด้วยตนเอง
และในทุก ๆ วัน ก็จะมีข่าวคราวมากมายถูกส่งมาถึงมือของท่านแม่ทัพใหญ่
แต่ก่อนที่ข่าวเหล่านั้นจะถูกส่งเข้ามา ก็จะมีเจ้าหน้าที่จำนวนมากคอยคัดกรองว่าท่านแม่ทัพควรจะได้รับทราบข่าวไหนก่อนหลัง เพื่อที่พวกเขาจะได้แก้ไขในสถานการณ์ตามพื้นที่สมรภูมิรบได้อย่างทันท่วงที
หลายครั้ง เจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็อดประหลาดใจไม่ได้…
เพราะทุกการตัดสินใจของท่านแม่ทัพใหญ่ ทุกการวิเคราะห์สถานการณ์และทุกคำสั่งของเขา ล้วนแต่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ
ไม่เคยมีมนุษย์ผู้ใดไม่ผิดพลาด
แต่ท่านแม่ทัพใหญ่ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น
เขาไม่เคยตัดสินใจผิดพลาดเลย
และไม่ว่าข้อมูลใดก็ตามที่ถูกส่งมาถึงมือท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านแม่ทัพใหญ่ก็สามารถบอกได้เลยทันทีว่านั่นคือข้อมูลจริงหรือข้อมูลเท็จ
ด้วยเหตุนี้ ท่านแม่ทัพใหญ่จึงไม่เคยตัดสินใจผิดพลาด
ดังนั้นกองทัพเป่ยเฉินจึงไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับผู้ใด!!