เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1958 นอกเหนือความคาดหมาย
ตอนที่ 1,958 นอกเหนือความคาดหมาย
“ได้ข่าวว่าท่านแม่ทัพมาหาข้าหลายรอบแล้ว”
หลินเป่ยเฉินหันกลับมามองหน้าฮันซางเซียงและถามว่า “ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือ?”
ฮันซางเซียงหยุดชะงักโดยทันที
สิ่งที่นางต้องการพูดกับเด็กหนุ่มนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพูดต่อหน้านายทหารทั้งกองทัพเด็ดขาด
“ข้าเพียงต้องการขอบคุณคุณชายอวี้เหวินที่ช่วยเหลือพวกเราไว้ก่อนหน้านี้”
นางตอบด้วยสีหน้าเย็นชา แต่มีความสุภาพและจริงใจ
นี่คือบุคลิกทั่วไปที่นายทหารทั้งกองทัพคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“ท่านอยากขอบคุณข้าอย่างนั้นหรือ?”
หลินเป่ยเฉินทวนคำด้วยความไม่อยากเชื่อ “ไม่ทราบว่าท่านอยากขอบคุณอย่างไร?”
ฮันซางเซียงพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
เรื่องนี้ไว้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวไม่ได้หรือไงนะ?
“ข้าเพิ่งช่วยเหลือท่านจัดการยอดฝีมือจากเผ่ามนุษย์ทะเลทราย ไม่ทราบว่าท่านแม่ทัพจะขอบคุณข้าอย่างไรดี?”
หลินเป่ยเฉินรีบถามกดดันอย่างไม่รอช้า
ฮันซางเซียงไม่ทราบเลยว่าตนเองสมควรตอบอย่างไร
นางไม่ทราบเลยว่าตนเองจะต้องขอบคุณอย่างไรถึงจะเพียงพอต่อบุญคุณที่อวี้เหวินซิวเซียนได้ช่วยเหลือพวกของนางเอาไว้
หลินเป่ยเฉินกล่าวขึ้นอีกครั้งว่า “และข้าก็ยังนำชุดเกราะของมารดาท่านกลับคืนมาอีกด้วย ไม่ทราบว่าท่านจะขอบคุณอย่างไร?”
ฮันซางเซียงรู้สึกเวียนหัวตาลายไปหมดแล้ว
ทันใดนั้น ไม่ทราบเลยว่าเป็นแม่ทัพคนใดในกลุ่มผู้ติดตามของนางตะโกนขึ้นมาว่า “ท่านแม่ทัพฮันเคยกล่าวเอาไว้ว่าหากมีผู้ใดสามารถนำชุดเกราะของมารดากลับมาส่งคืนให้แก่นางได้ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะแก่ชรา อ่อนแอหรือเป็นคนป่วยไข้ ตราบใดที่สามารถนำชุดเกราะของมารดามาคืนให้แก่ท่านแม่ทัพฮันได้สำเร็จ หากคนผู้นั้นเป็นสตรี ท่านแม่ทัพฮันก็จะดูแลเป็นพี่น้องไปตลอดชีวิต หากคนผู้นั้นเป็นบุรุษ นางก็จะยอมแต่งงานด้วย ต่อให้ต้องเป็นภรรยาน้อย ท่านแม่ทัพฮันก็ยินดี”
“หืม?”
หลินเป่ยเฉินมีสีหน้าเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม
เขาจ้องมองฮันซางเซียงไม่วางตา
กลุ่มนายทหารที่ยืนอยู่โดยรอบส่งเสียงหัวเราะลั่น
ภายในระยะเวลาการปรากฏตัวไม่กี่ครั้ง หลินเป่ยเฉินก็สามารถเอาชนะใจนายทหารเหล่านี้ได้เรียบร้อยแล้ว
หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นมาทำกิริยาเช่นนี้ใส่แม่ทัพฮันซางเซียงของพวกเขา นายทหารทุกคนย่อมชักกระบี่ออกมาฆ่าฟันมันผู้นั้นอย่างแน่นอน
แต่คนผู้นั้นในขณะนี้คือคุณชายอวี้เหวินซิวเซียนซึ่งนอกจากจะเป็นคนที่พวกเขาเอาชนะไม่ได้แล้ว ทุกคนยังรู้สึกว่าคุณชายอวี้เหวินซิวเซียนมีความเหมาะสมกับท่านแม่ทัพฮันซางเซียงเป็นอย่างยิ่ง
ฮันซางเซียงยืนกอด ‘ชุดเกราะขนนกแห่งแสงสว่าง’ ของมารดา น้ำตาไหลรินอาบสองแก้ม
แม้ว่าตอนนั้นนางจะมีอายุได้เพียงห้าขวบ แต่ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างกลับประทับลงในความทรงจำ ฮันซางเซียงยังจดจำเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดของมารดาได้อย่างชัดเจน
และทุกครั้งที่ฮันซางเซียงนึกถึงความเป็นจริงว่ามารดาต้องตกไปอยู่ในกำมือของศัตรู นางก็มักจะมีอาการนอนไม่หลับเสมอ
แต่วันนี้ นางได้ชุดเกราะของมารดากลับคืนมาแล้ว
“ท่านแม่…”
ฮันซางเซียงร้องไห้น้ำตาไหลพราก
นางกอดชุดเกราะขนนกแห่งแสงสว่างราวกับกำลังได้สวมกอดมารดาอีกครั้ง
เมื่ออารมณ์ความรู้สึกสงบลงเล็กน้อย ฮันซางเซียงก็เงยหน้าขึ้นสบตามองหลินเป่ยเฉินและกล่าวว่า “ข้าเคยสาบานเอาไว้จริง ๆ ไม่ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร แต่หากสามารถนำชุดเกราะของมารดากลับมาส่งคืนข้าได้สำเร็จ ข้าจะยอมตกเป็นของเขาโดยไม่มีข้อแม้ คุณชายอวี้เหวิน ท่านอย่าได้เกรงใจอีกเลย… ต่อให้ข้าต้องเป็นคนรับใช้คอยแต่งตัวและล้างเท้าให้ท่าน ข้าก็จะไม่บ่นแม้แต่น้อย”
ที่นางกล่าวออกมาเช่นนี้ก็เพราะรู้สึกว่าอวี้เหวินซิวเซียนมีความสูงส่งมากเกินไป
โดยเฉพาะความหล่อเหลาของเขา…
การยินยอมมอบร่างกายให้แก่อวี้เหวินซิวเซียนก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายสักเท่าไหร่
“ท่านแม่ทัพฮันให้เกียรติข้าเกินไปแล้ว”
หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าช่วยเหลือท่านเพราะเห็นเป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน และข้าก็ไม่รู้ด้วยว่าในอดีตระหว่างท่านกับมือกระบี่เมินฟ้ามีความแค้นอะไรกันอยู่ ดังนั้น ข้าไม่ได้จะขับไล่เขาไปเพื่อหวังจะให้เป็นบุญคุณกับท่าน แล้วข้าจะฉวยโอกาสจากท่านได้อย่างไร… ท่านแม่ทัพฮัน กองทัพของท่านยังคงต้องการคำบัญชาจากท่านอยู่ ท่านอย่าได้คิดมาเป็นสาวใช้ของข้าอีกเลย”
สิ่งนี้เรียกว่าอะไร?
สิ่งนี้เรียกว่าจิตใจที่ดีงามของสุภาพบุรุษ
ฮันซางเซียงหยุดชะงัก แต่ในใจกลับรู้สึกผิดหวังขึ้นมาอย่างประหลาด
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณคุณชายอวี้เหวินซิวเซียนมากแล้ว”
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แต่ไม่ว่าอย่างไรมีบุญคุณก็ต้องทดแทน ต่อจากนี้หากคุณชายอวี้เหวินต้องการให้ข้าทำสิ่งใด ข้าก็พร้อมที่จะทำให้โดยไม่ลังเล”
หลินเป่ยเฉินยิ้มมุมปากและกล่าวว่า “เช่นนั้นท่านก็รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี ช่วยปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราและสังหารพวกอสูรให้หมดสิ้นไปซะ”
…
“เฮ้อ ปลอดภัยแล้วเรา”
เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีการไล่ตามมาจากด้านหลัง หัวใจของมือกระบี่เมินฟ้าจึงกลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง
กองทัพเป่ยเฉินกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่? ถึงกับส่งจอมเทพอนันต์สองคนมาที่อาณาจักรเหนียนเซียง นี่ต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่โตไม่ใช่น้อย
แต่มือกระบี่เมินฟ้ารู้สึกมึนงงยิ่งนัก
เห็นได้ชัดว่าแผนการครั้งนี้ ผู้บัญชาการระดับสูงของเผ่ามนุษย์ทะเลทรายไม่เคยระแคะระคายมาก่อน
ต้องรีบรายงานกลับไปให้เร็วที่สุด
และที่สำคัญก็คือ การที่กองทัพเป่ยเฉินมีขุมกำลังเป็นยอดฝีมือจากยุคโบราณ นี่ก็ถือเป็นสัญญาณอันตรายชนิดหนึ่งเช่นกัน
ยอดฝีมือยุคโบราณโดยเฉพาะจากช่วงยุคแห่งความล่มสลายครั้งที่สอง ส่วนใหญ่พวกเขาถูกเผ่ามนุษย์ทะเลทรายหักหลังและถูกสังหารจนเกือบหมดสิ้น
แต่บัดนี้ ‘เซียนกระบี่’ ผู้นั้นกลับปรากฏตัวขึ้นมาอย่างเหนือความคาดหมาย
เพียงไม่กี่อึดใจ เซียนกระบี่ก็สามารถแย่งชิงกระบี่ของเขาไปหน้าตาเฉย
มือกระบี่เมินฟ้ารู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก
อีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งถึงระดับนี้ได้อย่างไร?
นี่คือยอดฝีมือไร้เทียมทานแล้วไม่ใช่หรือ?
นี่แสดงให้เห็นถึงสิ่งใด?
นี่แสดงให้เห็นว่านอกจากยอดฝีมือจากยุคโบราณจะรอดชีวิตอยู่มาจนถึงบัดนี้แล้ว พวกเขายังยอมยินดีเข้าร่วมกองทัพเป่ยเฉินอีกด้วย
นั่นหมายความว่ากองทัพเป่ยเฉินยังซุกซ่อนขุมกำลังที่น่ากลัวเอาไว้อีกมากมาย
เผ่ามนุษย์ทะเลทรายจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนการครั้งใหญ่
“แต่เรากลับไปเช่นนี้ มีหวังคงต้องถูกลงโทษแน่ ๆ”
มือกระบี่เมินฟ้าเริ่มเกิดอาการลังเลเล็กน้อย
เพราะเผ่ามนุษย์ทะเลทรายเป็นผู้ที่เข้มงวดในกฎระเบียบและผู้ที่ทำผิดพลาดก็จะต้องถูกลงโทษ
เขาทั้งสูญเสียกระบี่คู่กายและไม่สามารถช่วยเหลือกลุ่มอสูรโลหิตปกป้องอาณาจักรเหนียนเซียง หากมือกระบี่เมินฟ้ากลับไปในตอนนี้ สิ่งที่เขาจะได้รับก็คือการลดตำแหน่งอย่างแน่นอน
แต่แล้วในทันใดนั้น ชายวัยกลางคนก็เกิดความคิดบางอย่าง
เขาตัดสินใจย้อนกลับไปหาพวกของฮันซางเซียง
ครั้งนี้ มือกระบี่เมินฟ้าแอบกลับไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่เปิดเผยถึงร่องรอยของตนเองแม้แต่นิดเดียว
ตราบใดที่ไม่ถูกค้นพบโดย ‘เซียนกระบี่’ ผู้นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาแล้ว!