เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1961 ท่านพ่อ
ตอนที่ 1,961 ท่านพ่อ
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
คมกระบี่ฟาดฟันกันอย่างต่อเนื่อง ประกายไฟสาดกระจายไม่หยุดยั้ง
กระบี่ของทั้งสองฝ่ายยิ่งใช้ยิ่งรวดเร็ว สุดท้ายก็มองเห็นเพียงเงาพร่าเลือน ทว่ามองไม่เห็นตัวกระบี่อีกแล้ว
บัดนี้ ฮันซางเซียงผู้ยืนอยู่หน้าประตูห้องได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวดังขึ้นภายในจึงรีบเปิดประตูเดินเข้ามาทันที
เมื่อเห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ฮันซางเซียงก็หยุดชะงักและรีบวิ่งเข้าไปร้องห้าม “พวกท่านอย่าสู้กันเลย ได้โปรดหยุดมือก่อน...”
วูบ!
หญิงสาวขยับเข้าไปยืนอยู่ตรงกลาง
หลินเป่ยเฉินกับชายวัยกลางคนรีบแยกออกจากกันทันที
พวกเขามองหน้ากันด้วยความตื่นเต้นและดีใจ
กาลเวลาช่างผ่านไปอย่างยาวนานเหลือเกิน
นี่พวกเขาไม่ได้เจอกันมานานเท่าไหร่แล้ว?
สำหรับหลินเป่ยเฉิน เขาแทบไม่มีหวังเลยที่จะได้พบเจอกับฮันปู้ฟู่อีกครั้ง ก่อนหน้านี้ เขาให้ผู้คนออกค้นหาศิษย์พี่ฮันแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ไม่พบเจอเบาะแสเลยสักนิดเดียว…
สำหรับฮันปู้ฟู่ หลังจากที่เขาตกลงไปในหุบเหวดาวตก ฮันปู้ฟู่ก็ต้องผ่านประสบการณ์แปลกประหลาดมากมายเป็นระยะเวลายาวนานถึงห้าร้อยปี เขาจึงมีประสบการณ์ชีวิตโชกโชน ดังนั้นฮันปู้ฟู่จึงไม่คิดเลยว่าตนเองจะได้พบกับมิตรสหายเก่าแก่อีกครั้ง และด้วยความที่เวลาล่วงเลยมาอย่างยาวนานถึงเพียงนี้ ฮันปู้ฟู่จึงเลิกล้มความคิดที่จะกลับบ้านเกิดไปหมดสิ้น…
พวกเขาต้องแยกจากกัน
พวกเขาแทบไม่มีหวังที่จะได้กลับมาพบเจอกัน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าในวันนี้ ความฝันได้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว
สหายเก่าได้กลับมาพบหน้า
สหายที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและเคยร่วมเป็นร่วมตายได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินกับฮันปู้ฟู่ไม่ทราบเลยว่าตนเองสมควรพูดอย่างไรดี
พวกเขาได้แต่จ้องมองกันเงียบ ๆ ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบข้างนั้นไร้ตัวตน
นี่ไม่ต่างจากความฝัน
จังหวะนั้น ฮันซางเซียงรีบขยับเข้าไปยืนป้องกันหลินเป่ยเฉิน ดวงตาจ้องมองฮันปู้ฟู่และพูดเสียงดังว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเขาเจ้าค่ะ เป็นข้าสาบานเอาไว้เอง ข้าเคยสาบานเอาไว้ว่าตราบใดที่มีผู้นำชุดเกราะของมารดากลับมาส่งมอบให้กับข้าได้สำเร็จ ข้าจะยอมมอบร่างกายให้กับเขา…”
ฮันปู้ฟู่ในฉบับชายวัยกลางคนถึงกับหยุดชะงัก
หลินเป่ยเฉินยืนตกตะลึงอยู่กับที่
“เรื่องนี้เราจะคุยกันในภายหลัง เจ้ากลับออกไปก่อน”
ฮันปู้ฟู่โบกมือไล่ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
“ข้าไม่ไป”
ฮันซางเซียงกล่าวด้วยความดื้อรั้น ไม่ยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างทหารที่ดีอีกแล้ว มิหนำซ้ำ ฮันซางเซียงยังเชิดหน้าขึ้นกล่าวด้วยความท้าทายว่า “ครั้งนี้ ข้าขอตัดสินใจด้วยตนเอง ท่านให้คำสัญญากับข้าแล้วและท่านก็เคยให้คำสัญญากับมารดาของข้าด้วย”
ฮันปู้ฟู่ถอนหายใจและยกมือกุมหน้าผาก
หลินเป่ยเฉินรีบกระตุกชายเสื้อของฮันซางเซียงขณะกระซิบว่า “ท่านพูดจาเช่นนี้กับท่านแม่ทัพใหญ่ได้อย่างไร? แม่ทัพฮันไม่เข้าใจหรอก ท่านออกไปก่อนเถอะ นี่คือเรื่องระหว่างพวกเราลูกผู้ชายสองคนเท่านั้น”
“คุณชายไม่ต้องพูด”
ฮันซางเซียงตอบรับกลับมาด้วยความหนักแน่น “คุณชายไม่ต้องสนใจเขาหรอก เขาก็คือเขา ข้าก็คือข้า เขาจะมาขัดขวางความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ได้”
หลินเป่ยเฉินยิ่งมึนงงสับสนมากไปกว่าเดิม
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
เท่าที่เขาได้รับทราบมา ท่านแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเป่ยเฉินคือวีรบุรุษที่นายทหารทุกคนให้ความเคารพไม่ใช่หรือ?
แล้วทำไมฮันซางเซียงถึงกล้าพูดจาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวใส่ศิษย์พี่ฮันของเขาเช่นนี้?
และสิ่งที่ฮันซางเซียงพูดออกมา สมองอันชาญฉลาดของหลินเป่ยเฉินก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
“นี่ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
ฮันปู้ฟู่พยายามอธิบายด้วยความอดทน
ฮันซางเซียงกัดฟันตอบกลับไปว่า “ข้าไม่เชื่อ เดี๋ยวพวกท่านก็ต่อสู้กันอีก...”
หลังจากหยุดชะงัก นางก็กล่าวต่อ “นี่เป็นการตัดสินใจของข้าเอง คุณชายอวี้เหวินเป็นผู้มีพรสวรรค์และมีฝีมือแข็งแกร่ง ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเขาช่วยเหลือกองทัพของข้าเอาไว้ และเขายังนำชุดเกราะของมารดากลับมาคืนข้าได้อีกด้วย นี่เป็นความยินยอมพร้อมใจของข้าเอง… ท่านพ่อ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า ท่านไม่ต้องมายุ่งได้หรือไม่…”
ยามที่ถ้อยคำเหล่านั้นพูดออกมา สีหน้าของบุรุษต่างวัยทั้งสองคนก็แปรเปลี่ยนไปทันที
“เจ้าจะยอมตกเป็นของเขาจริงหรือ?”
ฮันปู้ฟู่อุทานด้วยความเหลือเชื่อ
“ท่านพ่ออย่างนั้นหรือ?”
หลินเป่ยเฉินอุทานออกมาเหมือนถูกสายฟ้าฟาด
ให้ตายเถอะ… ดูเหมือนจะมีปัญหาใหญ่แล้วสิ
สิ่งที่หลินเป่ยเฉินเคยหวาดกลัวที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ
นอกจากเสียงหอบหายใจของฮันซางเซียงในห้องประชุมใหญ่ก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีก
สายตาของฮันปู้ฟู่จ้องสลับไปมาระหว่างใบหน้าของหลินเป่ยเฉินกับฮันซางเซียง
หลินเป่ยเฉินจ้องสลับไปมาระหว่างใบหน้าของฮันปู้ฟู่กับฮันซางเซียง
ฮันซางเซียงจ้องมองเพียงใบหน้าของฮันปู้ฟู่
อารมณ์ความรู้สึกของบุรุษต่างวัยทั้งสองคนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นถ้อยคำได้อีกแล้ว
ฮันปู้ฟู่ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า ‘เจ้าลูกหมาหลินเป่ยเฉินเคยเป็นคนเสเพลชื่อดังประจำเมืองหยุนเมิ่ง แม้แต่ผู้ที่อยู่ในศาสนาอย่างนักพรตหญิงชินเจ้าหมอนี่ก็ไม่สน คิดไม่ถึงเลยว่าเวลาผ่านไปนานหลายร้อยปี นิสัยของหลินเป่ยเฉินก็ยังไม่เปลี่ยนไป มิหนำซ้ำ เขายังคิดจะครอบครองบุตรสาวของข้าอีกด้วย’
ส่วนหลินเป่ยเฉินก็กำลังคิดอยู่ในใจเช่นกันว่า ‘เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮันซางเซียงเป็นบุตรสาวของท่าน เฮอะ แล้วข้าก็ไม่ได้หลอกลวงบุตรสาวท่านสักหน่อย เป็นบุตรสาวท่านมาตกหลุมรักข้าเอง นี่โทษว่าเป็นความผิดของข้าได้หรือ?’
ทางด้านฮันซางเซียงก็กำลังคิดอยู่ในใจว่า ‘ครั้งนี้ ข้าต้องยืนกรานให้มั่นคง!’
“อะแฮ่ม…”
หลินเป่ยเฉินครุ่นคิดอะไรบางอย่างเล็กน้อย ก็ตัดสินใจดึงแขนเสื้อของฮันซางเซียงเบา ๆ และกล่าวว่า “ท่านออกไปก่อนเถอะ เรื่องนี้ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด”
แต่ฮันซางเซียงยังคงไม่ยอมออกไป
นางรู้สึกว่าครั้งนี้นางไม่สมควรถอยหลังเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้น คุณชายอวี้เหวินซิวเซียนกำลังต่อสู้อยู่กับบิดาของนาง
เมื่อสักครู่นี้ ฮันซางเซียงเห็นมากับตาว่าพวกเขากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ในเมื่อคุณชายอวี้เหวินซิวเซียนมีความกล้าหาญถึงเพียงนี้ แล้วนางจะล่าถอยได้อย่างไร?
อีกอย่าง นี่เป็นเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของนาง ไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพของบิดาสักหน่อย
นางไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งของบิดาอีกแล้ว
“ท่านพ่อ ท่านไม่พอใจเรื่องอันใดหรือ?”
ฮันซางเซียงสอบถาม “คุณชายอวี้เหวินเป็นผู้มีพรสวรรค์ มีฝีมือการต่อสู้แข็งแกร่ง มีจิตใจฝักใฝ่คุณธรรม… ต่อให้ข้าต้องกลายไปเป็นหญิงรับใช้คอยล้างเท้าเขาทุกวัน ข้าก็ยินดี… หรือว่าท่านเห็นสิ่งใดที่ข้าไม่เห็น?”
ฮันปู้ฟู่แทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
จบสิ้นกัน!
บุตรสาวของเขาถลำลึกมากเกินไป
ฮันปู้ฟู่รู้ดีว่าบรรดาสตรีที่ลุ่มหลงในตัวของหลินเป่ยเฉินนั้นจะมีอาการเป็นเช่นนี้เอง
Comments for chapter "บทที่ 1961 ท่านพ่อ"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
puiphone
ศิษย์พี่พ่อตา555