เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1971 สิ่งที่อยู่ในครรภ์
ตอนที่ 1,971 สิ่งที่อยู่ในครรภ์
ฮันปู้ฟู่กลับไปจัดการกองทัพเป่ยเฉินและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประลองที่จะเกิดขึ้น
บัดนี้ พวกเขาจะต้องเข้าร่วมการประลองของจอมเทพอนันต์
การเตรียมตัวก่อนการประลองถือเป็นสิ่งสำคัญ
การวางแผนและการคำนวณ คือสิ่งที่จะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด
สำหรับกองทัพเป่ยเฉิน พวกเขาจะแพ้ไม่ได้ ยามมองเห็นหมอกควันในสนามรบคือสิ่งที่อันตราย แต่ยามมองไม่เห็นหมอกควันในสนามรบคือสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่า เผ่าพันธุ์มนุษย์ทะเลทรายขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าเล่ห์ เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงต้องเตรียมรับมือแผนร้ายทุกรูปแบบเอาไว้ให้ดี
นี่คือเรื่องที่ต้องเตรียมการและจะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด
แต่สำหรับหลินเป่ยเฉิน เขาไม่มีภาระใดให้เป็นกังวล เด็กหนุ่มจึงรีบกลับไปที่สุสานกษัตริย์เพื่อดูแลเฉียนเจินที่กำลังตั้งครรภ์
หลินเป่ยเฉินเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับหญิงสาวที่เป็นภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์จากอินเทอร์เน็ตในชาติภพที่แล้วมานับครั้งไม่ถ้วน
สิ่งที่ตามมาคือความเศร้าสลด
แม้ว่าหลินเป่ยเฉินจะเป็นคนเสเพล แต่เขาก็เป็นคนเสเพลที่ไม่เคยคิดร้ายต่อผู้ใด
ดังนั้น แม้โลกภายนอกจะมีสงครามนองเลือดร้อนระอุเพียงใด แต่สิ่งสำคัญที่สุดของหลินเป่ยเฉินในเวลานี้ คือการกลับมาอยู่เป็นเพื่อนภรรยาผู้กำลังตั้งครรภ์ต่างหาก
ในเวลาเช่นนี้ เขาสมควรอยู่ข้างกายเฉียนเจินมากที่สุด
“นายท่าน ข้าน้อยไม่เป็นไร นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าน้อยหรอกเจ้าค่ะ”
เฉียนเจินกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและอิ่มเอิบใจ
สตรีที่มีความสุขยิ่งมีสง่าราศีและความสวยงามเพิ่มมากขึ้น
“อย่าขยับนะ”
หลินเป่ยเฉินแนบหูลงไปบนหน้าท้องของเฉียนเจินและกล่าวว่า “ขอข้าฟังหน่อยสิ”
หลังจากนั้น หูของเขาก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังชัดเจน เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวภายในท้องของเฉียนเจิน
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ทำไมพลังชีวิตของทารกจึงได้แข็งแรงถึงเพียงนี้?
หลินเป่ยเฉินควรจะมีความสุข แต่เขากลับรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
สิ่งที่อยู่ในครรภ์ของเฉียนเจินเป็นตัวอะไรกันแน่?
เมื่อเขาลองโคจรพลังปราณเพื่อดูภาพจำลองในร่างกายของเฉียนเจิน เขาก็มองไม่เห็นเลยว่าสิ่งที่อยู่ในท้องของนางคืออะไรกันแน่
หลินเป่ยเฉินซื้อหายาบำรุงสำหรับหญิงตั้งครรภ์จากอินเทอร์เน็ตมาหลายชนิด และเลือกหญิงรับใช้ที่มีประสบการณ์ดูแลหญิงตั้งครรภ์มาจากแผ่นดินตงเต้าถึงยี่สิบคน
เขาให้พวกนางดูแลเฉียนเจินเป็นอย่างดี และหนึ่งในหญิงรับใช้เหล่านั้นก็เป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งเทพเจ้าจากหลินเป่ยเฉิน นางมีนามว่ารุ๋ยเอ๋อ รุ๋ยเอ๋อมีความภักดีต่อหลินเป่ยเฉินในระดับสูงสุด และยังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลุ่มแม่บ้านผู้ดูแลเฉียนเจินอีกด้วย
และรุ่ยเอ๋อก็ไม่ได้ทำให้หลินเป่ยเฉินผิดหวัง นางจัดการทุกอย่างได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
เฉียนเหมยเริ่มรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นเฉียนเจินได้รับการดูแลดีเป็นพิเศษ
แต่น่าเสียดายที่แม้ว่านางจะร่วมรักกับหลินเป่ยเฉินนับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้าย ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในช่องท้องของนางอยู่ดี
“กราบเรียนนายท่าน บ่าวค้นพบเรื่องที่ไม่เป็นมงคลบางประการเจ้าค่ะ”
ในวันนี้ รุ่ยเอ๋อได้แอบมาเข้าพบหลินเป่ยเฉินเป็นการส่วนตัวและกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มีอะไรหรือ?”
เมื่อเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเฉียนเจิน หลินเป่ยเฉินก็ไม่กล้าละเลยเป็นอันขาด
รุ่ยเอ๋อตอบว่า “มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับทารกในครรภ์ของแม่นางเฉียนเจินเจ้าค่ะ…”
หลินเป่ยเฉินโบกมือตัดบทว่า “เรื่องนั้นข้ารู้อยู่แล้ว เจ้าแค่บอกสิ่งที่เป็นปัญหาออกมาเถอะ”
รุ่ยเอ๋อรีบกล่าวว่า “ทารกในครรภ์มีพลังชีวิตแข็งแรงมากเกินไป นับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ปัญหาก็คือยิ่งทารกมีพลังชีวิตแข็งแรงมากเท่าไหร่ ทารกก็ยิ่งดูดซับพลังจากมารดาไปมากเท่านั้น แม้ว่าแม่นางเฉียนเจินจะมีพลังในร่างกายมากพอสมควร แต่หากทารกในครรภ์ยังดูดซับพลังในอัตราความเร็วระดับนี้ นั่นก็หมายความว่า…”
หลินเป่ยเฉินพลันถามออกมาด้วยความร้อนใจ “หมายความว่าเฉียนเจินกำลังอยู่ในอันตรายใช่หรือไม่?”
รุ่ยเอ๋อตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่อันตรายหรอกเจ้าค่ะ แต่หากทารกเติบโตมากไปกว่านี้ สุดท้ายอาจจะเกิดอันตรายขึ้นจริง ๆ ก็เป็นได้”
“เจ้ากำลังพูดถึงอันตรายในรูปแบบใด?”
หลินเป่ยเฉินถามออกมาทันที
รุ่ยเอ๋อก้มศีรษะตอบว่า “หากทารกในครรภ์ยังคงเติบโตไปในอัตราความเร็วเช่นนี้ อีกสามเดือน ทารกจะดูดซับพลังจนเป็นอันตรายต่อชีวิตของแม่นางเฉียนเจินเจ้าค่ะ”
หลินเป่ยเฉินสูดหายใจลึก
นี่คือเรื่องที่เขาไม่ทันนึกถึงมาก่อน
สมแล้วที่รุ่ยเอ๋อเป็นมืออาชีพ
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่นและกล่าวว่า “หากเราใช้วิธีเพิ่มพลังให้แก่เฉียนเจิน ไม่ทราบว่านั่นพอจะช่วยเหลือได้หรือไม่?”
รุ่ยเอ๋อลังเลเล็กน้อยก่อนพยักหน้า “ย่อมสามารถช่วยเหลือได้เจ้าค่ะ”
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันที
รุ่ยเอ๋อกล่าวต่อไป “แต่นี่เป็นวิธีที่ข้าน้อยยังไม่เคยกระทำมาก่อน ข้าน้อยคงต้องรีบไปเตรียมตัวให้เร็วที่สุด”
หลินเป่ยเฉินพยักหน้าและกล่าวว่า “เข้าใจแล้ว คงต้องรบกวนเจ้าแล้วนะ”
รุ่ยเอ๋อรีบก้มศีรษะทำความเคารพเขาด้วยความยำเกรง ก่อนจะล่าถอยกลับไป
หลินเป่ยเฉินเปิดแอปเถาเป่าและเริ่มต้นซื้อของออนไลน์
หลินเป่ยเฉินทบทวนความรู้ขั้นพื้นฐานจากชาติภพที่แล้วของตนเอง ก่อนจะกดสั่งซื้อยาบำรุงและวิตามินชนิดต่าง ๆ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ที่จะช่วยลดอาการปวดหลังให้แก่มารดาของลูกน้อย
และเขาก็มอบสิ่งของทั้งหมดนั้นให้รุ่ยเอ๋อพร้อมด้วยกลุ่มแม่บ้านผู้ดูแล
หลินเป่ยเฉินเดินเล่นเป็นเพื่อนเฉียนเจินอยู่ในสุสานกษัตริย์พักใหญ่ หลังจากนั้น เขาก็ไปยืนดูการออกกำลังกายตามตารางฝึกของแอปพลิเคชัน Keep ก่อนจะกลับออกมาในที่สุด
…
ณ อาณาจักรเหนียนเซียง
อวี้เหวินซิวเซียนกำลังรู้สึกสับสนเป็นอย่างยิ่ง
“นี่เรามีชื่อเสียงโด่งดังถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เขาไม่อยากจะเชื่อ
ที่นี่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสงครามและความวุ่นวาย
ดวงดาวจำนวนมากถูกเผาไหม้และแตกสลาย ชีวิตของผู้คนไม่ต่างจากฝุ่นผงที่สามารถปลิวหายไปได้ตลอดเวลา
อวี้เหวินซิวเซียนไม่ได้ปิดบังชื่อเสียงที่แท้จริงของตนเอง
เพราะในดินแดนที่วุ่นวายโกลาหลอย่างนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังชื่อแซ่ของตนเองแม้แต่น้อย
แต่สิ่งที่ชายหนุ่มคิดไม่ถึงเลยก็คือเมื่อเขาบอกออกไปว่าตนเองมีนามว่า ‘อวี้เหวินซิวเซียน’ ไม่ว่าเขาพบเจอกับใคร ฝ่ายตรงข้ามหากไม่มีสีหน้าแสดงความเคารพเป็นอย่างสูง ก็ต้องแสดงความหวาดกลัวสุดขีดออกมา
โดยเฉพาะตอนที่อวี้เหวินซิวเซียนพบกับกองเรือเหาะลาดตระเวนของเผ่าอสูรโลหิต อวี้เหวินซิวเซียนไม่มีความคิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย เขาเพียงต้องการเข้าไปแนะนำตัวเท่านั้น แต่เมื่ออสูรเหล่านั้นได้ยินชื่อของเขา พวกมันก็ทำหน้าเหมือนเห็นผีและพร้อมใจกันตะโกนออกมาว่า
“อวี้เหวินซิวเซียนมาแล้ว พวกเราหนีเร็ว”
“แม่จ๋าช่วยลูกด้วย”
“เขาคืออวี้เหวินซิวเซียน”
แล้วอสูรเหล่านั้นก็รีบหลบหนีไปอย่างบ้าคลั่ง…
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
อวี้เหวินซิวเซียนยืนอยู่บนเรือเหาะที่ว่างเปล่าของอสูรโลหิต ขมวดคิ้วด้วยความพิศวง
ต่อให้เป็นหมูโง่ก็ยังต้องเข้าใจว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
หรือจะมีคนนำชื่อของเขาไปแอบอ้าง?
อวี้เหวินซิวเซียนนวดขมับด้วยความปวดหัว รู้แล้วว่าเขาจะใช้ชื่อจริงไม่ได้ชั่วคราว
เพราะชื่อเสียงของเขามันโด่งดังมากเกินไป
หากผู้คนรับทราบข่าวนี้ อวี้เหวินซิวเซียนก็จะไม่มีทางแอบไปปฏิบัติภารกิจอย่างเงียบ ๆ ในถิ่นฐานของศัตรูได้อีกเลย
“เราคงต้องเปลี่ยนชื่อสินะ”
อวี้เหวินซิวเซียนคิดด้วยความประหลาดใจ
แต่ในทันใดนั้น ชายหนุ่มก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
หลังจากปรับเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย เขาก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรเทียนอวี่ต่อไป