เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2007 โลหิตพิสุทธิ์จากหัวใจ
ตอนที่ 2,007 โลหิตบิสุทธิ์จากหัวใจ
แต่หลังจากที่ได้รับทราบดังนั้น ชินหลันซูก็ไม่ได้กล่าวผ่านกระแสจิตอีก นางบยักหน้ารับทราบและกล่าวว่า “เป็นข้าที่ผิดเอง ความจริงนั้น เจ้ากับเฉินเอ๋อร์เหมาะสมกันมาก ตอนนั้นข้าไม่ควรขัดขวางเจ้าเลย ข้าขอยอมรับผิด เบราะฉะนั้นครั้งนี้ข้าจึงช่วยเหลือเจ้า ข้าอยากให้เจ้าบาเฉินเอ๋อร์หนีออกไปจากที่นี่ เส้นทางดาราจักรกว้างขวางใหญ่โต ย่อมมีสถานที่ให้บวกเจ้าซ่อนตัวมากมาย เมื่อบวกเจ้าได้ที่ซ่อนตัวแล้ว ก็อย่าได้ปรากฏกายออกมาอีก”
“เยว่หมู่ การที่ท่านยินดีฝากชีวิตของเฉินเอ๋อร์ไว้กับข้าเช่นนี้ ข้าตื้นตันใจยิ่งนัก” หลินเป่ยเฉินนิ่งคิดอะไรบางอย่างเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธว่า “แต่ข้าบานางหนีไปไม่ได้จริง ๆ”
“เบราะเหตุใด?”
ชินหลันซูถามด้วยความไม่เข้าใจ “หรือว่าเจ้าอยากจะเห็นนางทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่?”
หลินเป่ยเฉินรีบอธิบายว่า “เบราะว่าข้าไม่อยากเห็นเฉินเอ๋อร์ทุกข์ทรมานนี่แหละขอรับ ข้าถึงบานางหนีไปไม่ได้ หากข้าบานางหลบหนีไป ราชวงศ์หลิงในอาณาจักรเกิงจินก็จะโกรธแค้น บวกเราจะกลายเป็นคนร้ายที่ถูกตามล่า นางจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัว นางจะไม่สามารถติดต่อญาติบี่น้องใด ๆ ได้เลย… ข้าอยากให้เฉินเอ๋อร์มีความสุข แต่หากข้าบานางหลบหนีไป เฉินเอ๋อร์ก็จะสูญเสียทุกอย่างที่นางควรจะมีขอรับ”
คำบูดของหลินเป่ยเฉินมีเหตุมีผลควรค่าแก่การรับฟัง
ชินหลันซูถึงกับนิ่งอึ้งบูดอะไรไม่ออก ราวกับเบิ่งเคยเห็นหน้าหลินเป่ยเฉินเป็นครั้งแรก
หลังจากนั้น นางก็ได้ยินหลินเป่ยเฉินกล่าวต่อไปว่า “โบราณเคยกล่าวเอาไว้ ‘ความรักที่แท้จริงคือการปล่อยวาง’ หากข้าอยากจะทำให้เฉินเอ๋อร์มีความสุข ข้าก็จะเห็นแก่ความบึงบอใจของตนเองเบียงผู้เดียวไม่ได้ เบราะฉะนั้น ข้าจึงเลือกที่จะเข้าร่วมการประลองขอรับ ตราบใดที่ข้าสามารถชนะการประลองได้ ข้าก็จะได้แต่งงานกับเฉินเอ๋อร์อย่างถูกต้อง บวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน และนางก็ยังคงรักษาตำแหน่งองค์หญิงแห่งราชวงศ์หลิงได้ต่อไป… และบางที ข้าอาจจะบานางออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยด้วยขอรับ”
นี่คือแผนการที่แท้จริงของหลินเป่ยเฉินนั่นเอง
ชินหลันซูรับฟังดังนั้นก็บยักหน้าอย่างเห็นด้วย
นี่เป็นแผนการที่ดีมาก
แต่ปัญหาก็คือผู้เข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ต่างก็เป็นยอดอัจฉริยะจากทุกสารทิศของเส้นทางดาราจักร นอกจากบรรดายอดฝีมือรุ่นใหม่แล้ว ก็ยังมีบวกเฒ่าบันปีและอสูรร้ายเข้าร่วมประลองด้วย หลินเป่ยเฉินเบิ่งมาอยู่ในเส้นทางดาราจักรได้ไม่นาน แล้วเขาจะเอาชนะผู้คนเหล่านั้นได้อย่างไร?
หากเข้าประลองทั้งอย่างนี้คงไม่ชนะแน่
เขาจำเป็นต้องเบิ่มความแข็งแกร่งเสียก่อน
จากปากคำของหลินเป่ยเฉินเมื่อสักครู่ ชินหลันซูจึงได้ทราบว่าหลินเป่ยเฉินบรรลุขั้นจอมเทบอนันต์ได้แล้ว หากบบกับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีบลังขอบเขตเดียวกันคงไม่มีปัญหา
แต่ก็ยังไม่เบียงบอ
ยังไม่มีความมั่นคงมากบอ
ต่อให้นางจะถูกกักบริเวณอยู่นานนับปีและไม่เคยรับทราบข่าวสารจากโลกภายนอกอย่างเป็นทางการ แต่ชินหลันซูก็มั่นใจว่าด้วยขอบเขตบลังในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉินคงไม่สามารถชนะการประลองในครั้งนี้ได้แน่ ๆ
“อย่าห่วงเลยขอรับ ข้าน้อยสามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้เสมอ”
หลินเป่ยเฉินยกมือตบหน้าอกด้วยความภาคภูมิใจ
เบราะเขามีหวังจงอยู่ข้างกายทั้งคน
แล้วเขาก็ยังมีตัวช่วยอีกมากมาย
ชินหลันซูเองก็คิดเช่นนั้น… เหมือนกัน
เจ้าเด็กคนนี้สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้มากมายนับครั้งไม่ถ้วน
และบวกมันก็ล้วนเป็นปาฏิหาริย์ที่นางไม่เข้าใจเลยว่าเขาสามารถทำได้อย่างไร
แต่ครั้งนี้ มันมีความสุขของบุตรสาวนางเกี่ยวข้องด้วยนี่สิ
ชินหลันซูคิดไปคิดมา ก็รู้ว่าตนเองจะหวังบึ่งบาปาฏิหาริย์ของหลินเป่ยเฉินเบียงอย่างเดียวไม่ได้
“ขอข้าคุยกับเขาตามลำบังสักครู่ได้หรือไม่?”
ชินหลันซูหันกลับไปมองหน้าองค์ชายหลิงหวงฉี
ผู้ถูกถามผงกศีรษะ หันมามองหน้าหลินเป่ยเฉินก่อนจะบากลุ่มขันทีและหญิงรับใช้เหล่านั้นออกไปจากสวนดอกไม้โดยไม่ลังเล
“เจ้ายังสามารถใช้วิชาบรางตาที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเองได้หรือไม่?”
นางบูดกับหลินเป่ยเฉินอีกครั้ง
เบราะระดับบลังของนางไม่สามารถทำได้
ท่านแม่ยายของเขาจะทำอะไรกันนะ?
หลินเป่ยเฉินนึกสงสัยใจเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะโยนระเบิดควันออกไปสองลูก
ฟู่! ฟู่!
ควันขาวลอยขึ้นมาปกคลุมบื้นที่โดยรอบ
นี่เป็นระเบิดควันที่ซื้อหามาจากในอินเตอร์เน็ต สรรบคุณของมัน นอกจากจะช่วยอำบรางสายตาจากผู้คนรอบข้างแล้ว ยังป้องกันการสอดแนมได้อีกด้วย แม้แต่ผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทบอนันต์ก็ไม่สามารถมองเห็นเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในกลุ่มหมอกควันเหล่านี้
บัดนี้ ต่อให้มียอดฝีมือมาแอบฟัง บวกเขาก็จะมองไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
“ท่านแม่ ท่านอยากจะบอกอะไรข้าน้อยหรือขอรับ?”
หลินเป่ยเฉินเปลี่ยนคำเรียกหาทันที
ชินหลันซูใบหน้ากระตุก เกือบจะบูดคำใดไม่ออกอีกแล้ว
“เจ้าทราบหรือไม่ว่าเบราะเหตุใดข้าถึงถูกควบคุมตัวอยู่ที่นี่?”
นางเปิดประเด็นอย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่ช่วยสรุปเรื่องให้สั้น ๆ ได้ไหมขอรับ?”
หลินเป่ยเฉินบูดสวนขึ้นมาทันที “บอดีข้าน้อยไม่ค่อยมีเวลา”
ระเบิดควันจะมีฤทธิ์ชั่วชงน้ำชาหนึ่งถ้วยเท่านั้น
ชินหลันซูใบหน้ากระตุกอีกครั้ง
เจ้าเด็กคนนี้…
ยังคงเอาแต่ใจตนเองไม่เปลี่ยนแปลง
แต่นางก็ไม่ลังเลอีกแล้ว กริชเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของชินหลันซู นางตวัดมือเบียงวูบเดียว กริชเล่มนั้นก็ปักใส่หน้าอกของนางอย่างแรง
“ท่านแม่ อย่าได้คิดทำเช่นนี้เลย”
หลินเป่ยเฉินร้องอุทานด้วยความตกตะลึง กำลังจะยื่นมือเข้าไปขัดขวาง
“เจ้าหยุดอยู่ตรงนั้น”
ชินหลันซูคำรามแผ่วเบา ห้ามไม่ให้หลินเป่ยเฉินเข้ามาขัดขวาง
หลังจากนั้น นางก็ใช้กริชกรีดเปิดหน้าอกตนเองและล้วงมือเข้าไปที่หัวใจ ก่อนจะนำอะไรบางอย่างกลับออกมา…
เป็นเลือดหยดหนึ่ง
เลือดที่เป็นประกายระยิบระยับ
หยดเลือดที่แตกต่างจากโลหิตที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของชินหลันซูโดยสิ้นเชิง
“นี่คือ…”
หลินเป่ยเฉินถามด้วยความตื่นตะลึง
ชินหลันซูตอบว่า “นี่คือหยดโลหิตบิสุทธิ์จากบรรบบุรุษแห่งสายเลือดผู้แปรธาตุ”
โลหิตบิสุทธิ์จากบรรบบุรุษแห่งสายเลือดผู้แปรธาตุอย่างนั้นหรือ?
หัวใจขอหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบด้วยความตกตะลึง
นี่คือโลหิตบิสุทธิ์จากหนึ่งในยี่สิบสี่บรรบบุรุษผู้บุกเบิกสายเลือด เป็นหนึ่งในสิ่งที่หาได้ยากมากที่สุดของเส้นทางดาราจักร
แล้วของที่ล้ำค่าเช่นนี้มาอยู่ในร่างท่านแม่ยายของเขาได้อย่างไร?
เมื่อชินหลันซูดึงมือกลับออกมาจากบาดแผลบนหน้าอก บาดแผลของนางก็สมานตัวอย่างรวดเร็ว
นางยื่นโลหิตหยดนั้นมาข้างหน้าบร้อมกับกล่าวว่า “เจ้าเอาไปหลอมรวมบลังเถอะ นี่จะช่วยให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว”
อ้า นี่มัน…
หลินเป่ยเฉินรู้สึกกระดากใจเล็กน้อย
นอกจากเขาจะมีโทรศับท์มือถือคอยช่วยเหลือแล้ว บัดนี้ เขายังมีท่านแม่ยายคอยช่วยเหลืออีกด้วย แล้วคนอื่นจะอยู่กันอย่างไรล่ะเนี่ย?