เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2372 แต่งตั้งผู้สืบทอด
อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์
วิหารแห่งผู้ใช ้พิษ
อานมู่ซีเดินมาจากด้านนอก มุ่งตรงสู่ภายในวิหาร สีหน้าของ เขาเรียบเฉย ไม่ทุกข์ร ้อนหรือเริงร่า
“คารวะศิษย์พี่อาน”
“คารวะศิษย์พี่อานขอรับ”
“คารวะศิษย์พี่อานเจ้าค่ะ”
เมื่อบรรดาศิษย์ของบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษคนอื่น ๆ พบอานมู่ซี พวกเขาก็ต้องก้มศีรษะท าความเคารพทันที
ชายหนุ่มพยักหน้าตอบกลับขณะเดินต่อไป
เขาเดินเข้าไปภายในวิหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ด้านในวิหารมีแต่ความว่างเปล่าและความโดดเดี่ยว
หลังคาโค้งมนโปร่งแสง พื้นหินขาวประณีตไร ้ซึ่งลวดลาย แกะสลัก สถานที่กว้างขวาง ดูสวยงามอย่างเรียบง่ายและเป็ นระเบียบ
“คารวะศิษย์พี่”
มี่หรู่หยานเดินตรงเข้ามาหาและประสานมือทาความเคารพ
“อาจารย์เรียกข้ามาพบอย่างนั้นหรือ?”
อานมู่ซีถาม
มี่หรู่หยานตอบว่า “อาจารย์มีภารกิจต้องออกไปโลกภายนอก จึงเรียกตัวศิษย์พี่มาสั่งงานเจ้าค่ะ”
“อาจารย์มีภารกิจหรือ?”
อานมู่ซีหัวใจกระตุกวูบ “ใช่ออกไปโจมตีอาณาจักรเทียนอวี่ หรือไม่?”
มี่หรู่หยานส่ายหน้า “ข้าน้อยไม่ทราบเจ้าค่ะ”
ทั้งสองคนได้แต่มองตากันอย่างเงียบงัน
อานมู่ซีเดินลึกเข้าไปในวิหารมากขึ้นเรื่อย ๆ
หัวใจของเขากาลังสั่นระรัว อานมู่ซีกลัวว่าบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้ พิษจะได้รับภารกิจให้ออกไปโจมตีกองทัพเป่ยเฉิน เพราะถึงแม้พวก เขาจะมีชนชั้นบรรพบุรุษดั้งเดิมอย่างหวังจงกับโจวเทียนอวิ๋นคอยให้
การช่วยเหลือ แต่กองทัพเป่ยเฉินก็คงไม่สามารถรับมือการโจมตีครั้ง นี้ได้อย่างแน่นอน
หากบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษได้รับคาสั่งให้ออกไปสู้รบ เกรงว่า บรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้สายเลือดปีศาจและบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้เงาก็ต้อง ออกไปด้วยเช่นกัน
หมายความว่าสงครามด าเนินมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว
อานมู่ซีเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
การตกแต่งของวิหารชั้นในยิ่งดูเรียบง่ายมากกว่าเดิม
ภายในห้องศิลาแห่งนี้มีผนังสีขาว รอบข้างจัดตั้งด้วยชั้นวาง อุปกรณ์ที่ทาขึ้นจากโลหะ บนแท่นยกพื้นสูงใจกลางห้องเป็ นที่ตั้งของ ตู้กระจกใส่น้ายาวิเศษที่มีศพนอนแช่อยู่
นั่นคือศพของหลินเป่ยเฉิน
อานมู่ซีคุ้นเคยดีแล้ว
เขาเห็นเยว่เว่ยหยางยืนอยู่ข้างตู้กระจก สายตาของนางจ้องมอง ศพที่อยู่ในตู้กระจก เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า นางก็กล่าวโดยไม่ต้องหัน มามองว่า “ท่านมาแล้ว อาจารย์สั่งให้ข้ามารอคอยท่านอยู่ที่นี่”
ในฐานะที่เป็ นหนึ่งในศิษย์เอกเพียงไม่กี่คน เยว่เว่ยหยางเป็ นหนึ่ง ในคนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ห้องศิลาแห่งนี้ได้เป็ นพิเศษ และสถานะ ของนางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอานมู่ซี
“การทดลองมีความเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่?”
อานมู่ซีถามออกมาอย่างระมัดระวัง
เยว่เว่ยหยางส่ายศีรษะ
ทว่าอันที่จริง หญิงสาวก าลังพูดอยู่ในใจว่า ‘ย่อมมีการ เปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว’
ศพที่อยู่ในตู้กระจกนั้น หลินเป่ ยเฉินนาศพใหม่มาสลับ สับเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งบรรดาศิษย์แห่งบรรพบุรุษผู้ใช ้พิษ จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับซากศพอยู่เสมอ พวกเขาต่าง ก็พิศวงสงสัยว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ย่อมไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะมีบุคคลภายนอกสามารถเข้าออกที่นี่ เพื่อนาศพมาเปลี่ยนใหม่ได้ตามใจปรารถนา
อานมู่ซีกับเยว่เว่ยหยางเดินเข้าไปภายในห้องศิลา
นอกจากบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษแล้ว ก็ยังมีผู้อาวุโสอีกสี่ท่านยืน รอคอยพวกเขาอยู่ด้วย คนทั้งสี่นั้นแยกเป็ นบุรุษสองและสตรีสอง ทุก คนสวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีเขียว ไม่สามารถคานวณอายุได้จากใบหน้า ทุกคนก้มหน้านิ่ง สีหน้าเคร่งขรึมเป็ นอย่างยิ่ง
คนทั้งสี่ต่างก็เป็ นศิษย์รุ่นแรกของบรรพบุรุษผู้ใช ้พิษ
“คารวะท่านอาจารย์”
เยว่เว่ยหยางกับอานมู่ซีเดินเข้าไป ก้มศีรษะประสานมือค านับ ชายชรา
“คารวะศิษย์พี่ทั้งสี่”
หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปทาความเคารพชายหญิงทั้งสี่คน นั้น
ฝ่ายตรงข้ามรับการค านับอย่างดี
เมื่อบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษเห็นว่าลูกศิษย์ของตนเองมารวมตัว กันครบถ้วนแล้ว เขาก็พูดออกมาว่า “ข้าจ าเป็ นต้องออกไปท าภารกิจ ข้างนอกชั่วคราว วันนี้ จึงได้เรียกตัวพวกเจ้าทุกคนมามอบหมาย เรื่องสาคัญให้จัดการดูแล”
มอบหมายเรื่องสาคัญอย่างนั้นหรือ?
ชายหญิงผู้เป็ นลูกศิษย์ของบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษทั้งหกคนต่าง ต้องตกตะลึงไปในบัดดล
ศิษย์ที่มีอายุมากที่สุดนามว่าเจิ้งหรงกล่าวขึ้น “หรืออาจารย์ต้อง ออกไปจัดการบรรพชนที่เป็ นกบฏสองคนนั้นที่เข้าร่วมกับ กองทัพเป่ยเฉิน?”
บรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษพยักหน้า “การต่อสู้ที่อาณาจักรเทียวอวี่ จบลงแล้ว กองทัพเป่ ยเฉินพ่ายแพ้ย่อยยับ แต่กบฏทั้งสองคนนั้นยัง ดื้อด้านไม่เลิกรา พวกเขาเชิญตัวข้าไปต่อสู้ ข้าเองก็ยินดีรับค าท้า พวกเราจะไปต่อสู้กันที่นอกเส้นทางดาราจักร”
ไปต่อสู้กันนอกเส้นทางดาราจักร?
อานมู่ซีหัวใจกระตุกวูบขึ้นมาอีกครั้ง
ชนชั้นบรรพบุรุษดั้งเดิมเหล่านี้จะไปต่อสู้กันที่ใด?
อย่าบอกนะว่าจะไปต่อสู้กันที่แผ่นดินตงเต้า?
แผนการของฮันปู้ ฟู่ คืออะไรกันแน่? ทาไมเขาถึงเลือกที่นั่นเป็ น สมรภูมิการสู้รบของชนชั้นบรรพบุรุษดั้งเดิม? หากเป็ นเช่นนี้ แผ่นดิน ตงเต้าจะไม่ได้รับความเสียหายเอาหรือ?
“การต่อสู้ครั้งนี้มีอันตรายยิ่งนัก”
บรรพบุรุษผู้ใช ้พิษกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ข้าไม่รู ้เลยว่าจะได้ กลับมาอีกหรือไม่ ดังนั้นก่อนออกเดินทาง ข้าจึงเรียกตัวพวกเจ้าทุก คนมาจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ให้เรียบร ้อยเสียก่อน”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ชายหญิงทั้งหกคนก็ต้องกลั้นหายใจทันที
นี่คือการเลือกผู้สืบทอดตาแหน่ง
ศิษย์คนที่สองเป็ นหญิงสาวมีนามว่าจางอวี้ “อาจารย์มีความ แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ย่อมสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยอยู่แล้วเจ้า ค่ะ…”
บรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษโบกมือวูบ “การต่อสู้ระหว่างชนชั้นบรรพ บุรุษดั้งเดิมย่อมอันตรายมากกว่าการต่อสู้ทั่วไป โดยเฉพาะอีกฝ่ าย เป็ นถึงบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้สายเลือดผู้คงกระพันและบรรพบุรุษแห่ง ผู้ใช ้สายเลือดจอมเวท…ในช่วงเวลาที่ข้าไม่อยู่ อานมู่ซีจะขึ้นมาดารง ตาแหน่งแทนข้าเป็ นการชั่วคราว”
อานมู่ซีสะดุ้งเฮือก
เป็ นเขาอย่างนั้นหรือ?
สีหน้าของศิษย์คนอื่น ๆ ก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน
โดยเฉพาะสีหน้าของศิษย์พี่ใหญ่เจิ้งหรงกับศิษย์พี่รองจางอวี้ ซึ่ง เป็ นลูกศิษย์ผู้มีความอาวุโสที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด อีกทั้งยังติดตาม
ท่านอาจารย์มายาวนานมากที่สุด พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าตาแหน่งผู้ สืบทอดจะตกเป็ นของผู้มาทีหลังอย่างอานมู่ซี
แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคาถามกับการตัดสินใจของท่านบรรพบุรุษ แห่งผู้ใช ้พิษ
“พวกเจ้าควรช่วยเหลือและส่งเสริมอานมู่ซี ห้ามไม่ให้เกิดความ ผิดพลาดเด็ดขาด” บรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษกล่าวขึ้นอีกครั้ง “หาก สงครามยุติลงไปนานแล้วและข้ายังไม่กลับมา หากเป็ นเช่นนั้น ก็จง แต่งตั้งให้อานมู่ซีขึ้นดารงตาแหน่งบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษคนใหม่ได้ ในทันที”
สิ้นคา ร่างของชายชราก็อันตรธานไป
บรรยากาศกดดันเริ่มผ่อนคลายลง ศิษย์กลุ่มแรกทั้งสี่คนของ ชายชราหันมาจ้องมองบุรุษผู้ได้รับเลือกด้วยไม่เป็ นมิตรสักเท่าไหร่
อานมู่ซีรีบกล่าวทันทีว่า “ศิษย์พี่ทั้งสี่สมควรได้รับความเคารพ เป็ นอย่างสูง ขอบคุณทุกท่านที่ไม่คัดค้านการตัดสินใจของอาจารย์
ในครั้งนี้ เป็ นว่าข้าจะแต่งตั้งพวกท่านเป็ นขุนนางใหญ่ในสภาบรรพ บุรุษดีหรือไม่?”
เมื่อศิษย์กลุ่มแรกทั้งสี่คนได้ยินคานี้ พวกเขาก็รู ้สึกโล่งใจ
ตาแหน่งขุนนางใหญ่ในสภาพบรรพบุรุษเป็ นตาแหน่งที่มีอานาจ อยู่ในมือล้นฟ้ า
เมื่อได้ครอบครองตาแหน่งนั้น ก็ไม่จาเป็ นต้องหวาดกลัวผู้ใดอีก แล้ว
พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าอานมู่ซีจะใจกว้างถึงเพียงนี้
อานมู่ซีกล่าวต่อไปว่า “ศิษย์น้องหยาง เจ้าติดตามข้าไปที่โรง ปรุงพิษ มีบางวิชาที่เจ้าต้องฝึกฝนเพิ่มเติม เดี๋ยวข้าจะคอยชี้แนะให้ก็ แล้วกัน”
เยว่เว่ยหยางพยักหน้า
แล้วทั้งสองคนก็เดินติดตามกันออกไป