เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2373 นี่คือโอกาสสุดท้าย
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจิ้งหรง
ไม่มีความทะเยอทะยานเลยจริง ๆ
เขามองออกว่าอานมู่ซีลุ่มหลงในความงามของหยางเว่ยเยว่ แต่ เจิ้งหรงคิดไม่ถึงเลยว่า อีกฝ่ายจะลุ่มหลงในความงามจนสามารถมอบ ตาแหน่งสาคัญให้แก่พวกเขาได้อย่างง่ายดายเพียงนี้
ขณะเดียวกัน จางอวี้ก็กาลังคิดอยู่ในใจว่า ‘นับว่าศิษย์น้องอานมู่ ซีเป็ นคนที่ฉลาดยิ่งนัก เขารู ้ว่าอาจารย์จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น อานมู่ซีจึงมองว่านี่เป็ นบททดสอบจากอาจารย์ หาก ประพฤติตัวก้าวร ้าวมากเกินไป เมื่ออาจารย์กลับมา เขาก็จะต้องถูก หักคะแนนอย่างแน่นอน’
แต่ไม่ว่าจะเป็ นเพราะเหตุผลใดก็ตาม ตอนนี้ ศิษย์รุ่นแรกทั้งสี่คน ของบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษก็คลายความเป็ นศัตรูต่ออานมู่ซีลงมาก แล้ว
ทว่าทันใดนั้นเอง เมื่อพวกเขาหันมองหน้ากัน รอยยิ้มชั่วร ้ายก็ ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
อานมู่ซีไม่ใช่ภัยคุกคามส าหรับพวกเขาอีกต่อไป แต่พวกเขา เป็ นภัยคุกคามต่อกันและกันเสมอ เดิมที กลุ่มศิษย์รุ่นแรกทั้งสี่คน ต่อสู้กันทั้งอย่างเปิดเผยและลับหลังมาโดยตลอด บัดนี้ เมื่อพวกเขา ได้บรรจุเข้าเป็ นขุนนางใหญ่ในสภาบรรพบุรุษ การแย่งชิง ผลประโยชน์ย่อมดุเดือดมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
ทั้งสี่คนต่างสาบานอยู่ในใจว่าตนจะไม่มีทางพลาดท่าเสียทีให้กัน และกันอย่างเด็ดขาด!
ด้านนอกวิหาร
อานมู่ซียืนอยู่บนขั้นบันไดและจ้องมองลงไปด้านล่าง
เยว่เว่ยหยางเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างกายเขา
“ทุกอย่างเตรียมพร ้อมแล้วหรือไม่?”
“ทุกอย่างเตรียมพร ้อมแล้ว”
“หลังจากนี้ ข้าคงต้องยุ่งวุ่นวายอยู่กับเรื่องอื่น อย่าลืมแจ้งให้ พวกมี่หรู่หยาน เหยียนหรู่อี้ ซือเกินตั๋งแล้วก็คนอื่น ๆ ออกไปจากที่นี่ ด้วย พวกเขาจะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงไปด้วย”
“ทราบแล้ว”
“นี่คือโอกาสสุดท้าย”
“พวกเราต้องชนะอย่างแน่นอน”
“ท่านมั่นใจหรือไม่?”
“แล้วท่านไม่มั่นใจหรือ?”
“ข้ามั่นใจ แต่ยังไม่มากพอ หากเขาผู้นั้นอยู่ที่นี่ด้วย ทุกอย่าง อาจแตกต่างไปจากนี้”
“แล้วท่านรู ้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่?”
“ว่าไงนะ?”
อานมู่ซีอุทานด้วยความตกตะลึงและหันไปมองหน้าเยว่เว่ยหยา งอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
หญิงสาวไม่พูดค าใด เดินลงบันไดไปในความเงียบ
อานมู่ซียังคงยืนอยู่ที่เดิมเนิ่นนาน ดวงตาที่เคยมีแต่ความเย็นชา กลับทอประกายระยิบระยับอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ราวกับว่าค าพูดของเยว่เว่ยหยางได้มอบชีวิตใหม่ให้กับอานมู่ซี อย่างไรอย่างนั้น
…
ณ ส านักงานใหญ่ของกรมสืบสวน
หลินถิงซานนั่งอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องประจา ต าแหน่ง ในมือของนางถือจอกสุรา ดวงตาจ้องมองออกไปห่างไกล สายตาเยือกเย็นสงบสุขุม ราวกับกาลังค้นหาบางสิ่งบางอย่างบน ท้องฟ้ า
แต่หลี่หงอี้ที่ยืนอยู่ด้านข้างสัมผัสได้ชัดเจนว่าอารมณ์ของอีก ฝ่ ายไม่ได้สงบเหมือนภายนอก คล้ายกับว่าหญิงสาวก าลังรอคอย อะไรบางอย่าง
เช ้าวันนี้ นางได้ถ่ายทอดคาสั่งที่แปลกประหลาดอย่างต่อเนื่อง สมาชิกคนส าคัญของกรมสืบสวนจ านวนมากได้รับภารกิจและแยก ย้ายกระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ของกรมสืบสวนกลับถูกเรียกตัวมายัง ส านักงานใหญ่
สานักงานใหญ่ของกรมสืบสวนในตอนนี้จึงมีผู้คนมารวมตัวกัน อย่างหนาแน่น มีข่าวลือว่าก าลังจะเกิดการเฉลิมฉลอง ทุกคนได้รับ เชิญให้มาร่วมชมการยิงดอกไม้ไฟ
หลี่หงอี้หันหน้าไปจ้องมองที่สวีอวิ๋น
สตรีผู้นี้ยังคงมีความสาคัญต่อหน่วยงาน แม้กรมกิจการภายใน จะถูกควบรวมกับกรมสืบสวนในที่สุด แต่ถึงกระนั้น สวีอวิ๋นก็ยังมี ตาแหน่งสูงไม่เปลี่ยนแปลง
และเวลานี้ นางก็กาลังขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเช่นกัน
การถ่ายทอดคาสั่งของหลินถิงซานล้วนแต่เป็ นคาสั่งที่แปลก ประหลาดทั้งสิ้น
และเห็นได้ชัดว่านางไม่ได้มีเจตนาจะอธิบายสิ่งใด
กาลเวลาเดินไปอย่างช ้า ๆ
ในที่สุด หลี่หงอี้ก็ทนเก็บความสงสัยไม่ได้อีกต่อไป เขากาลังจะ พูดอะไรบางอย่างออกมา…
ทว่าฉับพลันนั้นเอง…
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังมาจากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้
เกิดอะไรขึ้น?
นครศักดิ์สิทธิ์เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเสียจนอาคารของ กรมสืบสวนสั่นสะเทือน
หลินถิงซานน าแว่นกันแดดออกมาสวมอย่างรวดเร็ว
หลี่หงอี้จ้องมองไปยังท้องฟ้ าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้โดยไม่รู ้ตัว แล้วก็เห็นลาแสงระเบิดเกิดขึ้นห่างไกลออกไป รัศมีระเบิดแผ่ขยาย ออกไปเป็ นวงกว้าง
“นี่มันอะไรกัน…”
ชายวัยกลางคนพึมพ าในล าคอ
แสงเจิดจ้าจากแรงระเบิดนั้นทาให้เส้นเลือดในดวงตาของเขา แตกตัว โลหิตพุ่งออกมา
หลี่หงอี้รีบหลับตา ก่อนจะโคจรพลังปราณรักษาดวงตาที่ บาดเจ็บของตนเอง
เมื่อลืมตากลับขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าการระเบิดส่งผลให้เกิด กลุ่มหมอกควันโขมง ซึ่งภายนอกมีสีขุ่นมัว แต่ชั้นในกลับเป็ นสีแดง ฉานดูร ้อนระอุยิ่ง
คลื่นแรงระเบิดแผ่กระจายไปรอบบริเวณ
แม้ที่ตั้งของกรมสืบสวนจะอยู่ห่างไกลจากจุดระเบิด แต่หลี่หงอี้ยัง ต้องตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เพราะพลังทาลายล้างของแรง ระเบิดนั้นหนักหน่วงเกินไป
นี่เป็ นพลังทาลายล้างของชนชั้นบรรพบุรุษดั้งเดิม
ต้องไม่ผิดแน่ ๆ
“บริเวณนั้น…เป็ นที่ตั้งของวิหารแห่งผู้ใช ้พิษไม่ใช่หรือ?”
หลี่หงอี้พูดออกมาด้วยความพิศวง “หรือว่าบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้ พิษจะแสดงฝีมือแล้ว? ไม่สิ หากเขาแสดงฝีมือจริง ๆ ท าไมต้องระเบิด วิหารของตนเองด้วย? หรือนี่จะเป็ นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการปรุง ยาพิษ?”
หลี่หงอี้หันกลับมามองหน้าหลินถิงซานและถามว่า “ซานเอ๋อร ์ พวกเราควร…”
หลินถิงซานขัดจังหวะโดยเร็วว่า “เรียกข้าว่านายท่าน”
หลี่หงอี้แทบพูดคาใดไม่ออก
“นายท่าน พวกเราควรส่งคนออกไป…”
หลินถิงซานขัดจังหวะขึ้นอีกครั้ง “ไม่จาเป็ น”
สีหน้าของหญิงสาวไม่ได้ปรากฏความประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่น้าเสียงของนางกลับแฝงความกระตือรือร ้นอยู่หลายส่วน
หลี่หงอี้หรี่ตาลงในทันที เหมือนเขาพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แล้ว
หลังจากนั้น…
ตู้ม!
ตู้ม!!
ตู้ม!!!
การระเบิดที่น่าหวาดกลัวเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง
หลังจากนั้น กลุ่มหมอกควันก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ าจากตาแหน่ง ที่ตั้งของสภาศักดิ์สิทธิ์สภาบรรพบุรุษ วิหารแห่งผู้ใช ้สายเลือดปีศาจ วิหารแห่งผู้แปลงกายและวิหารแห่งผู้ใช ้เงา
รัศมีแรงระเบิดกวาดล้างไปทุกสารทิศไม่ต่างจากพายุหมุนลูก ใหญ่
“นี่มัน…”
หลี่หงอี้ตัวสั่นเทา ไม่สามารถพูดคาใดออกมาได้อีก
น่ากลัวเกินไป
พลังทาลายล้างในระดับนี้…
นี่คือการลงมือของชนชั้นบรรพบุรุษดั้งเดิม ไม่รู ้เลยว่ามีอาคาร บ้านเรือนถูกทาลายไปมากเพียงใด และมีสิ่งมีชีวิตต้องตายไปในการ ระเบิดครั้งนี้มากมายแค่ไหน
โชคดีที่การโจมตีรุนแรงระดับนี้เกิดขึ้นในนครศักดิ์สิทธิ์ หาก เปลี่ยนเป็ นสถานที่อื่น แม้แต่ดวงดาวขนาดใหญ่คงถูกทาลายไม่ เหลือซาก
ตอนนี้ ค่ายอาคมภายในนครศักดิ์สิทธิ์ถูกทาลายลงเป็ นจานวน มาก สถาบันใหญ่ถูกโจมตี ค่ายทหารถูกทาลาย นครศักดิ์สิทธิ์ตก อยู่ท่ามกลางความโกลาหลโดยสมบูรณ์
ไม่เพียงเท่านั้น การระเบิดเหล่านี้ยังเกิดขึ้นด้วยมวลพลังที่เท่า เทียมกันและมีรูปแบบเดียวกัน
ชัดว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้พิษ
และไม่ใช่ฝีมือของบรรพบุรุษสายเลือดอื่น ๆ ของชาวเผ่ามนุษย์ ทะเลทราย
หรือว่าจะมีชนชั้นบรรพบุรุษดั้งเดิมคนใหม่ปรากฏตัวขึ้น?
การโจมตีนครศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ถือเป็ นการประกาศสงคราม โดยตรง!