เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2375 องค์ประกอบสามประการ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วแม่ทัพหญิงในชุดเกราะสีเงินผู้ มีใบหน้างดงามก็ปรากฏตัวขึ้นพร ้อมกับค้อนขนาดใหญ่ แน่นอนว่า นางย่อมปรากฏตัวพร ้อมกับนายทหารยอดฝีมืออีกกลุ่มหนึ่ง
หลี่หงอี้ที่ออกไปถ่ายทอดคาสั่งก่อนหน้านี้ก็ถูกควบคุมตัว กลับมาด้วยเช่นกัน
“ฮ่า ๆๆ พวกเจ้าเป็ นขุนนางระดับสูงของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แต่ กลับมีขวัญก าลังใจน้อยเหลือเกิน”
แม่ทัพหญิงหัวเราะเยาะ กวาดตามองหญิงสาวทั้งสองคนที่อยู่ใน ห้องและกล่าวว่า “การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ยังไม่ทราบผลแพ้ชนะ แต่พวกเจ้าก็ชิงขอยอมแพ้เสียก่อน…ว่าแต่เจ้าเป็ นผู้น ากรมสืบสวน ใช่หรือไม่?”
หลินถิงซานจ้องมองแม่ทัพหญิงผู้อยู่เบื้องหน้าตนเอง
นางรู ้จักแม่ทัพหญิงผู้นี้
นี่คืออดีตสาวรับใช ้ที่เคยติดตามอยู่ข้างกายหลินเป่ ยเฉิน และ บัดนี้ นางก็มีฝีมือการต่อสู้แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ
พลังในร่างกายของสาวรับใช ้ผู้นี้อยู่ในขั้นจอมเทพบรรพบุรุษ แล้ว
ทว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด หลินเป่ ยเฉิน เปรียบเสมือนบุตรแห่งโชคชะตา ผู้คนที่ติดตามเขาย่อมมีวาสนาดี มากกว่าคนทั่วไปเช่นกัน
“เป็ นข้าเอง”
หลินถิงซานกล่าว “ข้ารู ้จักเจ้า”
“เจ้าต้องรู ้จักข้าอยู่แล้ว”
เฉียนเหมยเหวี่ยงค้อนคว่านภาฟาดลงไปบนพื้นหิน ขณะกล่าว ด้วยน้าเสียงโอหังว่า “ข้ามีนามว่าแม่ทัพเฉียนเหมย เป็ นหนึ่งใน ขุนพลที่โด่งดังที่สุดของกองทัพเป่ ยเฉิน ยอดฝี มือของเผ่ามนุษย์ ทะเลทรายจานวนมากต้องตายด้วยน้ามือของข้า ชื่อเสียงของข้า แพร่กระจายไปทั่วเส้นทางดาราจักร ไม่มีผู้ใดไม่รู ้จักข้า นอกจากนี้
ข้ายังเป็ นท่านแม่ทัพหญิงที่มีหน้าตาสะสวยมากที่สุดอีกด้วย ถ้าเจ้า ไม่รู ้จักข้าสิถึงจะแปลก”
หลินถิงซานถึงกับพูดค าใดไม่ออก
เฉียนเหมยดูจะติดนิสัยของหลินเป่ยเฉินมาโดยไม่รู ้ตัวเสียแล้ว
สาวรับใช ้ผู้นี้ติดตามหลินเป่ ยเฉินมานานเกินไป นางจึง กลายเป็ นคนหลงตัวเองไปแล้ว
“ชื่อเสียงทางการทหารของเจ้านั้นโด่งดังจริง ๆ”
หลินถิงซานหัวเราะในลาคอ ก่อนจะกล่าวต่อไป “แต่ตอนที่เจ้า เป็ นสาวรับใช ้อยู่ในตาหนักไม้ไผ่ของสถานศึกษากระบี่ที่สามนั้น เจ้า ไม่ได้เป็ นเช่นนี้เลยนี่”
ตุบ!
ค้อนคว่านภาตกลงไปบนพื้นห้องทันที
เฉียนเหมยอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ปากของนางอ้า กว้างจนสามารถยัดไข่ต้มเข้าไปได้ทั้งฟอง
“เจ้า…”
เฉียนเหมยอุทานออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ “เจ้ารู ้เรื่องนี้ได้ อย่างไร?”
นี่คือข้อมูลที่แม้แต่ในกองทัพเป่ ยเฉิน ก็มีผู้คนที่ล่วงรู ้เพียงหยิบ มือเดียวเท่านั้น
หลินถิงซานกล่าวต่อ “ข้ารู ้ด้วยว่าเจ้ามีเพื่อนสนิทชื่อเฉียนเจิน ซึ่งก็เป็ นหญิงรับใช ้ข้างกายหลินเป่ ยเฉินเช่นกัน พวกเจ้าทั้งสองคน ต่างก็หลงรักเขา…”
“เจ้า…”
เฉียนเหมยมีสีหน้าตกตะลึงเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น “เจ้า เป็ นผู้ใดกันแน่?”
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลินถิงซาน “หลินเป่ ย เฉินเรียกข้าว่าพี่หญิงใหญ่ เจ้าคิดว่าข้าเป็ นผู้ใดกันเล่า?”
“ละ ละ…หลินถิงซาน ท่านคือนางมารร ้ายผู้นั้นหรือ?”
เฉียนเหมยพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“ว่าไงนะ?”
หลินถิงซานขมวดคิ้ว “เจ้าว่าข้าเป็ นนางมารร ้ายอย่างนั้นหรือ?”
“เอ่อ…ข้าน้อยหมายความว่าคุณหนูใหญ่เป็ นยอดหญิงงามเจ้า ค่ะ”
เฉียนเหมยมีท่าทางอ่อนโยนในทันที นางยิ้มกว้างและวิ่งเข้าไป สวมกอดหลินถิงซานราวกับได้พบเจอพี่สาวที่พลัดพรากกันมานาน “ในที่สุด ข้าน้อยก็ได้พบเจอคุณหนูใหญ่แล้ว…ว่าแต่ คุณหนูมาอยู่ ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ? คุณหนูมาทาอะไรอยู่ที่นี่ รีบตามข้าน้อยไปจาก ที่นี่ดีกว่าเจ้าค่ะ”
บรรดาขุนพลผู้ติดตามเฉียนเหมยล้วนยืนตกตะลึง
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป พวกเขาไม่รู ้เลยว่า ตนเองควรจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไรดี
แต่นี่เป็ นเรื่องราวความมั่นคงทางการทหาร พวกเขาจะทาสิ่งใด วู่วามไม่ได้เป็ นอันขาด
หลินถิงซานคุ้นเคยกับการประจบเอาใจเช่นนี้เป็ นอย่างดี
“ข้าชื่นชอบเจ้าในฐานะแม่ทัพหญิงเมื่อสักครู่นี้มากกว่า กลับไป เป็ นคนเดิมเถอะ” นางกล่าว
เฉียนเหมยตอบรับอย่างรวดเร็ว “ได้เลยเจ้าค่ะ”
หลังจากนั้น นางก็กลับไปเป็ นแม่ทัพหญิงผู้น่าเกรงขามดังเดิม อีกครั้ง
หลินถิงซานพยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนจะน าม้วนกระดาษ แผ่นหนึ่งออกมายื่นส่งให้เฉียนเหมยพร ้อมกับกล่าวว่า “นี่เป็ น แผนการขั้นต่อไปที่ฮันปู้ ฟู่ ฝากเอาไว้กับข้า เมื่ออ่านจบแล้ว เจ้าจะรู ้ เองว่าควรจะทาสิ่งใดต่อไป”
เฉียนเหมยไม่ได้เล่นลวดลายอันใดอีกแล้ว
หลังจากรับม้วนกระดาษนั้นมาตรวจสอบอย่างละเอียด เฉียน เหมยก็มั่นใจว่านี่เป็ นเอกสารลับสุดยอดจากฐานบัญชาการของ
กองทัพเป่ ยเฉินจริง ๆ ดังนั้นนางจึงรีบเปิดอ่านดูเนื้อหาด้านในอย่าง รวดเร็ว
“ข้าน้อยอ่านเรียบร ้อยแล้วเจ้าค่ะ”
เฉียนเหมยเงยหน้าขึ้น รับปากด้วยความมั่นใจ “คุณหนูใหญ่ไม่ ต้องเป็ นกังวล ต่อให้เหลือข้าน้อยเป็ นคนสุดท้าย ข้าน้อยก็จะ พยายามปกป้ องที่นี่ให้ดีที่สุด!”
กล่าวจบ นางก็หมุนตัวน านายทหารผู้ติดตามเดินออกไป
แล้วเฉียนเหมยก็น ากลุ่มคนของตนเองกระจายก าลังกันปกป้ อง ส านักงานใหญ่ของกรมสืบสวนอย่างเข้มงวด
หลินถิงซานพยักหน้า
นางเคยเป็ นผู้ดูแลแผ่นดินตงเต้า
ใน ‘สนามทดลอง’ แห่งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็ นไปตามการ ชักใยของนาง นี่จึงเป็ นขั้นตอนที่หลินถิงซานมีความคุ้นเคยเป็ นอย่าง ดี
และตอนนี้ก็ได้เวลาดูผลการทดลองแล้ว
สิ่งที่หลินถิงซานกาลังทาอยู่ในขณะนี้ คือการใช ้เตาหลอม ศักดิ์สิทธิ์ในการหลอมรวมมวลพลังแห่งการกาเนิดใหม่ในเส้นทาง ดาราจักร
ดวงวิญญาณคนตายจ านวนมากถูกดูดเข้ามาสู่เตาหลอม ศักดิ์สิทธิ์
มวลปราณผสานกาลังหลอมรวมเป็ นหนึ่งเดียวกัน
หลังจากนี้ นางจาเป็ นต้องใช ้องค์ประกอบอีกสามอย่าง
มวลปราณผสานจากสิ่งมีชีวิตแดนมัชฌิม
พลังปราณปีศาจในจานวนที่มากพอสาหรับการตกผลึก
เช่นเดียวกับ…การกลับมาของคนผู้นั้น
หลินถิงซานรู ้ดีว่าตนเองกาลังรอคอยสิ่งใด
นางกาลังรอคอยให้องค์ประกอบทั้งสามอย่างนี้กลับมาเติมเต็ม กันและกัน
หญิงสาวได้แต่หวังว่าสมรภูมิรบอีกแห่งที่กาลังดาเนินอยู่ใน ขณะนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างคงเป็ นไปตามแผนการอย่างราบรื่น
…
ณ แผ่นดินตงเต้า
ความสงบสุข
เมื่อไม่มีการแย่งชิงอานาจระหว่างอาณาจักรต่าง ๆ ผู้คนก็ใช ้ ชีวิตอย่างมีความสุข
พวกเขาเป็ นสาวกที่มีศรัทธาต่อเซียนกระบี่หลินเป่ ยเฉินอย่าง หมดหัวใจ ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นก็ตาม พวกเขาไม่คิดที่จะทาสงคราม กันอีกแล้ว
เพราะทุกคนรู้ดีว่าการท าสงครามเกือบจะท าให้แผ่นดินต้องล่ม สลาย และต้องใช้เวลายาวนานมากทีเดียว กว่าทุกอย่างจะกลับมา เป็ นเหมือนเดิมอีกครั้ง
เมืองหยุนเมิ่งกลายเป็ นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เพราะที่นี่เป็ นถิ่นกาเนิดของเซียนกระบี่หลินเป่ยเฉิน
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับบุรุษผู้นี้ได้รับการกล่าวขานไปทั่วทุก ดินแดน
แม้แต่พฤติกรรมชั่วช ้าสมัยที่หลินเป่ ยเฉินกระทาในอดีต ก็ยังมี ผู้คนน ามาเล่าขานเพื่อเป็ นบทเรียนในการกลับตัวกลับใจของคนผู้ หนึ่ง
ในเมืองหยุนเมิ่ง สถานศึกษาอันเก่าแก่ได้กลับมาเปิดการเรียน การสอนอีกครั้ง
หญิงสาวในชุดเสื้อคลุมสีขาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนสนามหญ้า ในสถานศึกษากระบี่ที่สาม
นางเฝ้ ามองกลุ่มเด็กหนุ่มสาวฝึกฝนกระบี่ด้วยความมุ่งมั่น เสียง หัวเราะสดใสดังกังวานไปทั่วสถานศึกษา แสงแดดสาดส่อง นี่คือ บรรยากาศของความเยาว์วัยที่แท้จริง
นี่คือความรู ้สึกที่ห่างหายจากนางไปนานแล้ว
ครั้งหนึ่ง นางก็เคยมีประสบการณ์เหล่านี้เช่นกัน
แล้วภาพของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่ฝังลึกอยู่ในจิตใต้สานึกของนางก็ ปรากฏขึ้นมา นางจาได้ว่าตนเองเฝ้ าดูเขาอยู่ตลอดเวลา เฝ้ ามองเขา เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
แต่กาลเวลาผ่านไปแล้ว… มันก็ได้พรากความทรงจ าดี ๆ ไป มากมายเช่นกัน