เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 521 นั่นยังไม่ใช่เหตุผลที่ข้าต้องไว้ชีวิตเจ้า!
ตอนที่ 521 นั่นยังไม่ใช่เหตุผลที่ข้าต้องไว้ชีวิตเจ้า!
ห่างออกไปไม่ไกล ท่านข้าหลวงใหญ่หนี่หยางยังคงถูกแขวนอยู่กับตะขอห้อยต่องแต่งอยู่ข้างปากทางเข้าเหมือง
ตราบใดที่มีคนไม่เชื่อฟังคำสั่ง เจ้าหนูผีก็จะใช้แส้เฆี่ยนตีหนี่หยาง
ทำให้ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ใต้บังคับบัญชาของหนี่หยางไม่มีผู้ใดไม่กล้าปฏิบัติตามคำสั่งของอากวง พวกเขารีบขุดเหมืองและขนย้ายแร่หินออกมาด้วยตะกร้าไม่ไผ่โดยไม่หยุดพัก
นับเป็นภาพที่น่าตลกขบขันและน่าเศร้าในเวลาเดียวกัน
นายทหารเหล่านี้หลายสิบคนมีฝีมืออยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ แต่กลับต้องมาทำตามคำสั่งสัตว์อสูรผู้ต่ำต้อย ทำหน้าที่เป็นคนงานขุดเหมือง หากเรื่องราวเช่นนี้ล่วงรู้ไปถึงหูคนภายนอก พวกเขาก็คงกลายเป็นตัวตลกให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะไปตลอดปีตลอดชาติ
ทันใดนั้น เจ้าหนูอากวงก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
บนท้องฟ้ามีลำแสงสว่างวูบวาบ
พร้อมกับเงากระบี่ที่พาดผ่าน
แล้วร่างของหลินเป่ยเฉินที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาอย่างหนาแน่นก็ทิ้งตัวลงมาจากท้องฟ้า
นายท่านมาแล้ว!
อากวงส่งเสียงในลำคอด้วยความตื่นเต้น
นายท่านแวะมาดูใช่ไหมว่ามันตั้งใจทำงานหรือไม่?
เจ้าหนูส่งเสียงแหลมสูงพร้อมกับยกขาหน้าขึ้นมาทำท่าประสานมือคารวะผู้เป็นเจ้าชีวิต
“ข้าหลวงใหญ่แห่งแคว้นซินจินอยู่ที่ไหน?”
เมื่อหลินเป่ยเฉินทิ้งตัวลงมายืนอยู่บนพื้นดินเรียบร้อยแล้ว รัศมีสีเงินยวงที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาก็ทำให้เด็กหนุ่มดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
มวลพลังกดดันมหาศาลแผ่ครอบคลุมทั่วบริเวณ
เจ้าหนูอากวงพูดอะไรไม่ออก
นายท่านไม่พอใจเรื่องอะไรกันนี่
ทันใดนั้น มันก็รีบเก็บอาการตื่นเต้นของตนเอง และยกขาหน้าชี้ไปยังหนี่หยางที่ห้อยต่องแต่งอยู่กับเสาหินข้างทางเข้าเหมือง
มีหรือที่หนี่หยางจะไม่รู้จักหลินเป่ยเฉิน?
ทันทีที่เขาเห็นหน้าเด็กหนุ่ม ชายชราก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในตัวเมือง
หัวใจของเขาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
การตรวจสอบวิหารและอัญเชิญเทพเจ้า พวกของคุณชายเหลียนซานพ่ายแพ้แล้วสินะ?
ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว
“หลานชาย ข้า…”
ท่านข้าหลวงใหญ่แห่งแคว้นซินจินพยายามฝืนยิ้มและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
วูบ!
กระบี่เล่มหนึ่งพุ่งผ่านอากาศ
โลหิตสาดกระจาย
แล้วแขนข้างหนึ่งของหนี่หยางก็ขาดกระเด็น
“ทำไมเจ้าถึงต้องออกคำสั่งให้สังหารชาวเมืองด้วย?”
หลินเป่ยเฉินถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ข้าไม่ได้เป็นคนออกคำสั่ง ไม่ใช่นะ…” หนี่หยางตะโกนโต้แย้ง
วูบ!
กระบี่อีกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามา
แล้วแขนอีกข้างก็ขาดกระเด็นออกไป
“ในเมื่อผู้ที่ออกคำสั่งเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของเจ้า…”
น้ำเสียงของหลินเป่ยเฉินบอกชัดถึงความเดือดดาลใจ
“ท่านพ่อ…” หนี่โมหยานทนดูไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขารีบวิ่งเข้าไปยืนขวางหน้าบิดาและส่งเสียงคำรามว่า “หลินเป่ยเฉิน เจ้ามันปีศาจร้าย เจ้าไม่มีสิทธิ์ทำกับพวกเราเช่นนี้ ความผิดของเจ้าต่อให้ตายเป็น…”
วูบ!
กระบี่อีกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามา
หลินเป่ยเฉินไม่เสียเวลาพูดคุยด้วยซ้ำ
“อย่าทำอะไรลูกชายข้านะ…”
หนี่หยางไม่รู้รวบรวมเรี่ยวแรงและขวัญกำลังใจมาจากไหน ยกเท้าขึ้นถีบหนี่โมหยานกระเด็นออกไป
กระบี่เล่มนั้นจึงพุ่งตัดขาของเขา ส่งผลให้โลหิตสาดกระจายในอากาศ
ท่านข้าหลวงใหญ่แห่งแคว้นซินจินระเบิดเสียงคำรามว่า “หลินเป่ยเฉิน เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ แต่ข้าสามารถอธิบายได้เพียงว่านายทหารผู้นั้นทำตามอำเภอใจ มันเป็นคนของเว่ยหมิงเฉินที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในกองทัพของข้า มันมีนามว่าฟานซือหยาง มันได้รับคำสั่งจากเว่ยหมิงเฉินให้สังหารหมู่ชาวเมืองเพื่อที่เจ้าจะได้มาสังหารข้า นี่คือวิธีการยืมกระบี่ฆ่าคน เจ้าอย่าได้หลงกลมันเด็ดขาด…”
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้ว
เขานึกย้อนไปถึงคำพูดประโยคสุดท้ายที่นายทหารหนุ่มพูดเอาไว้ก่อนตาย
ปรากฏว่าต่อให้ต้องตาย ฟานซือหยางก็ยังมีเจตนาทำตามแผนการของเว่ยหมิงเฉิน ผู้เป็นเจ้านายจนลมหายใจสุดท้ายจริงๆ
นี่คือคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลที่สุดแล้ว
“แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่ข้าต้องไว้ชีวิตเจ้า”
แววตาของหลินเป่ยเฉินยังคงมีความดุดันอยู่ไม่เสื่อมคลาย
หนี่หยางร้องตะโกนว่า “ข้ายินดียอมรับผิด ข้ายอมชดใช้เจ้าด้วยชีวิตของข้าเอง แต่ขอความเมตตาจากเจ้า ได้โปรดปล่อยคนของตระกูลหนี่และบุตรชายของข้าไปด้วยเถิด ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเขา…”
หลินเป่ยเฉินพูดตัดบทว่า “งั้นเจ้าก็ตายไปซะ”
วูบ!
กระบี่อีกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามา
แล้วศีรษะของท่านข้าหลวงใหญ่แห่งแคว้นซินจินก็ขาดกระเด็น
นี่คือขุนนางระดับผู้ปกครองแคว้นคนแรกที่ต้องตายด้วยน้ำมือหลินเป่ยเฉิน
บัดนี้ หนี่โมหยานเพิ่งจะกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ดวงตาของเขาก็เป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความโกรธแค้น
เขาจ้องมองหลินเป่ยเฉินและร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น “คนแซ่หลิน วันนี้เจ้าจงรีบฆ่าข้าให้ตายเสียเถิด เพราะถ้าข้าสามารถรอดชีวิตไปได้ ข้าขอสาบานว่าหนี่โมหยานคนนี้จะต้องกลับมาแก้แค้นเจ้าแน่นอน ข้าจะอุทิศเวลาทั้งชีวิต ฝึกวิชาเสริมสร้างความแข็งแกร่งเพื่อกลับมะ…”
วูบ!
กระบี่อีกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาจากกลางอากาศ
“จะ…”
หนี่โมหยานยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมลำคอด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ พูดประโยคต่อมาด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง “เจ้า…เจ้าสัญญากับท่านพ่อ… ของข้าแล้ว… เจ้า… ไม่รักษาคำพูด…”
“ข้าไปสัญญาอะไรไว้กับพ่อเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
นี่ไม่ใช่การเล่นเกมจะอยู่หรือตายสักหน่อย
ก็หนี่โมหยานเป็นคนบอกให้เขารีบฆ่าตนเองทิ้งเสียเดี๋ยวนี้ไม่ใช่หรือ?
เขาก็ทำตามความต้องการให้แล้วนี่ไง
หลินเป่ยเฉินไม่ชอบถูกข่มขู่และไม่ชอบถูกผู้ใดตามล่า
หนี่โมหยานล้มลงสิ้นใจตายด้วยดวงตาที่เบิกโตและจ้องมองตรงมาที่หลินเป่ยเฉินด้วยความพิศวง
หลินเป่ยเฉินยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี ในนิยายกำลังภายใน หรือในละครโทรทัศน์แนวเดียวกัน เวลาที่ตัวร้ายพูดกับพระเอกเช่นนี้ ทำไมพวกพระเอกถึงต้องปล่อยตัวพวกผู้ร้ายให้รอดชีวิตกลับไป เพื่อที่จะได้กลับมาทำอันตรายตัวเองในภายหลังเสียอย่างนั้น?
หลินเป่ยเฉินไม่คิดที่จะเป็นพระเอกในนิยายเหล่านั้นเด็ดขาด
โลหิตสาดกระจาย
หลินเป่ยเฉินหันหน้ากลับไปกวาดตามองกลุ่มนายทหารคนอื่นๆ ที่เพิ่งเดินออกมาจากถ้ำ
นายทหารเหล่านั้นรีบคุกเข่าลงกับพื้นดินทันที
พวกเขาต่างก็หวาดกลัวแทบตายแล้ว
ผู้ที่เพิ่งถูกสังหารทิ้งไปนั้นเป็นถึงบุคคลที่ทางวังหลวงแต่งตั้งให้มาปกครองแคว้นซินจินเป็นกรณีพิเศษ
แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังฆ่าทิ้งได้โดยไม่กะพริบตา
นับว่าจิตใจของเขาอำมหิตเกินไปแล้ว
หลินเป่ยเฉินหันหน้ากลับมามองที่เจ้าหนูอากวงอีกครั้ง
อากวงพลันยืนนิ่งเฉยอยู่ในความสงบ
เอ๋?
นายท่าน ข้าน้อยเป็นเด็กดีนะขอรับ
ทันใดนั้น เจ้าหนูอากวงก็เริ่มหวาดกลัวว่า หรือการที่มันไม่ยอมสังหารนายทหารกลุ่มนี้ทิ้งไปตั้งแต่แรก จะเป็นสิ่งที่สร้างความไม่พอใจให้แก่นายท่านในขณ