เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 783 เฮ้ย ทำไม... ถึงรู้สึกเจ็บจังแฮะ
ตอนที่ 783 เฮ้ย ทำไม… ถึงรู้สึกเจ็บจังแฮะ
หลินเป่ยเฉินถึงกับชะงักกึก
อันตราย
คนเราถ้าไข่แตกก็สูญสิ้นความเป็นลูกผู้ชายทันที
แต่โชคดีที่นั่นไม่ใช่เสียงไข่ของเขา
แต่มันเป็นเสียงการแตกตัวของก้อนพลังปราณธาตุ
หืม?
หลินเป่ยเฉินสะดุ้งโหยงเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เขารีบใช้พลังจิตสำรวจดูก้อนพลังปราณธาตุของตนเองทันที
ในร่างกายของเด็กหนุ่มมีก้อนพลังปราณธาตุที่ถูกกักเก็บเอาไว้สี่ชนิด ประกอบไว้ด้วยพลังปราณธาตุน้ำ พลังปราณธาตุไฟ พลังปราณธาตุไม้และพลังปราณธาตุดิน เดิมทีก้อนพลังเหล่านี้มีลักษณะเหมือนดวงจันทร์ที่ลอยอยู่ในร่างกายของหลินเป่ยเฉิน และขณะนี้ บนดวงจันทร์เหล่านั้นก็เกิดรอยแตกร้าวคล้ายกับเปลือกไข่ และมีแสงสว่างเจิดจ้าส่องลอดออกมาจากรอยแตกร้าวเหล่านั้น
หรือว่าพลังปราณธาตุทั้งห้าของเขากำลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่งแล้ว?
ในที่สุด เวลานี้ก็มาถึงแล้วสินะ?
อุ๊วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…
หลินเป่ยเฉินอดหัวเราะออกมาไม่ได้
หลังจากเฝ้าอดทนรอมานาน ในที่สุด เวลานี้ก็มาถึงแล้ว
เทพีกระบี่หิมะไร้นามไม่ได้โกหกเขาจริง ๆ ด้วย
และจากข้อมูลที่นางเคยพูดเอาไว้ หากเมื่อใดก็ตามที่พลังปราณธาตุทั้งห้าหลอมรวมเป็นหนึ่ง เขาก็จะเลื่อนระดับอย่างก้าวกระโดดขึ้นสู่ขั้นเซียนโดยทันทีไม่ใช่หรือ?
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
เสียงเปลือกไข่แตกยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
ก้อนพลังปราณธาตุเกิดรอยแตกร้าวคล้ายกับใยแมงมุมขนาดใหญ่… แผ่ขยายมากขึ้นและมากขึ้น
แสงสว่างที่ส่องลอดออกมาจากช่องว่างของก้อนพลังพวยพุ่งเป็นแสงสีน้ำเงิน สีเงิน สีเหลือง และสีเขียว…
“เอ๋?”
หลินเป่ยเฉินพบว่าพลังปราณธาตุที่ออกมาจากก้อนพลังเหล่านี้ มีมวลพลังมหาศาลจนเขาไม่อาจควบคุมได้อีกแล้ว
นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
ก็ในเมื่อพลังเหล่านี้อยู่ในตัวเขา เขาก็ต้องควบคุมมันได้สิ
หลินเป่ยเฉินพยายามขบคิดหาทางเข้าใจ
แต่เพราะว่ามีความรู้ด้านทฤษฎีเกี่ยวกับการฝึกวิทยายุทธ์ต่ำต้อยมากเกินไป
หลินเป่ยเฉินจึงไม่รู้เลยว่าตนเองจะสามารถหลอมรวมพลังปราณธาตุทั้งห้าให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะรวบรวมพวกมันให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ ก่อนอื่น หลินเป่ยเฉินก็ต้องหาวิธีควบคุมพลังปราณธาตุทั้งสี่ชนิดนี้ให้ได้
และถ้าตัวเขาเองไม่สามารถทำได้
ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโทรศัพท์มือถือไปแล้วกัน
ในเวลาเดียวกันนี้ แอปห้าธาตุหลอมวิญญาณในโทรศัพท์มือถือก็เริ่มทำงานแล้ว ภาพจำลองของห้องฝึกวิชาปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แล้วรูปตัวการ์ตูนที่มีลักษณะคล้ายกับหลินเป่ยเฉินก็กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่กลางห้องฝึก
ตัวการ์ตูนตัวนี้มีลักษณะกึ่งโปร่งแสง
ในช่องท้องของตัวการ์ตูนสามารถมองเห็นคลื่นพลังงานสี่สี คือสีน้ำเงิน สีเงิน สีเหลือง และสีเขียว หมุนวนราวกับเส้นใยผ้าไหมที่กำลังถูกถักทออยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันนั้น ทั่วร่างกายของตัวการ์ตูนก็มีคลื่นพลังสีทองคำไหลเวียนหนาแน่น แต่ถึงกระนั้น ตามแขนขาและจุดลมปราณของร่างกายก็ยังมีก้อนพลังเล็ก ๆ อุดตันอยู่เป็นจำนวนมาก และถ้าสังเกตมองดูให้ดี ก็จะเห็นว่าในร่างกายมีลูกศรขนาดเล็กคอยชี้นำทางเสมอว่าพลังปราณธาตุทั้งห้าควรโคจรไปตามเส้นลมปราณทิศทางใดบ้าง…
หลินเป่ยเฉินปากอ้าตาค้าง มองตัวการ์ตูนของตนเองนั่งโคจรพลังอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ ขณะนี้ ก้อนพลังที่เป็นแสงสีเงินได้แตกออกโดยสมบูรณ์เป็นก้อนแรก มวลพลังจำนวนมหาศาลไหลเวียนตามเส้นลมปราณพุ่งเข้าสู่หัวใจของเด็กหนุ่ม…
“เฮ้ย ทำไม… ถึงรู้สึกเจ็บจังแฮะ?”
หลินเป่ยเฉินพลันยกมือขึ้นมากุมหัวใจตนเอง
ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มในขณะนี้ ไม่ต่างจากมีคนใช้กระบี่ผ่าหน้าอกให้เปิดออก พร้อมกันนั้นใครบางคนก็ล้วงมือเข้าไปบีบเคล้นหัวใจของเขาอย่างสนุกสนาน ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดและอึดอัดหายใจไม่ออก
หลินเป่ยเฉินยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบโต้ใด ๆ ก้อนพลังสีเขียวก็แตกออกเป็นลำดับต่อมา คลื่นพลังไหลเวียนไปตามเส้นลมปราณทั่วร่างกาย ก่อนจะย้อนกลับขึ้นมาพุ่งเข้าสู่ตับของเขา…
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ต่างจากมีเข็มหลายร้อยเล่มทิ่มแทงลงไปในตับของตนเอง
“ไม่ได้การแล้ว ทุกครั้งที่เราฝึกวิชาด้วยโทรศัพท์ ไม่เคยมีครั้งไหนรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน แล้วทำไมครั้งนี้ถึงได้…”
เม็ดเหงื่อผุดพราวขึ้นมาเต็มหน้าผากของหลินเป่ยเฉิน
หรือจะเป็นเพราะว่าการทำงานของแอปห้าธาตุหลอมวิญญาณจำเป็นต้องใช้สเปคโทรศัพท์ที่สูงมากกว่าเครื่องของเขา?
หรือว่า…
หลินเป่ยเฉินจะโดนเทพีกระบี่หิมะไร้นามหลอกเข้าเสียแล้ว?
ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง
เปลือกแตงโมในมือของหลินเป่ยเฉินหล่นลงพื้น เหงื่อกาฬยังคงไหลหยดลงมาจากหน้าผากไม่หยุดยั้ง กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเด็กหนุ่มกระตุกระริก
แต่แอปห้าธาตุหลอมวิญญาณก็ยังคงทำงานต่อไปอย่างไม่มีปัญหา
ก้อนพลังสีเหลืองระเบิดออกเป็นก้อนที่สาม มวลพลังงานสีเดียวกันไหลเวียนไปทั่วร่างกายหลินเป่ยเฉิน ก่อนจะย้อนขึ้นมาไหลรินเข้าสู่ม้ามของเด็กหนุ่มราวกับว่าพวกมันค้นพบบ้านของตนเองอย่างไรอย่างนั้น!
“อ๊าก ม้าม ม้ามมมม…”
หลินเป่ยเฉินเลื่อนมือลงไปกุมท้อง ส่งเสียงร้องโหยหวน
ถ้ารู้ว่าฝึกวิชานี้มันจะทรมานขนาดนี้ เขาคงเลิกฝึกไปแล้ว
ระหว่างที่ส่งเสียงร้องโหยหวนและดิ้นทุรนทุรายอยู่นี้ ก้อนพลังสีน้ำเงินก็แตกตัวออกเป็นก้อนสุดท้าย มวลพลังปราณธาตุน้ำไหลเวียนไปทั่วร่างกายหลินเป่ยเฉิน ก่อนที่พวกมันจะวิ่งย้อนขึ้นมาหาไตของเขาเป็นจุดเดียว
“โอ๊ย ไต ไต ไต…”
หลินเป่ยเฉินร้องครวญครางใบหน้าบิดเบี้ยว
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองมาที่คุณชายหลิน
โดยเฉพาะบรรดาขุนนางสูงอายุผู้จ้องมองเขาด้วยแววตาเวทนา
โถ อายุยังไม่เท่าไหร่แท้ ๆ…
ร่างกายอ่อนแอขนาดนี้เชียวหรือ
อนาคตสุขภาพของหลินเป่ยเฉินคงย่ำแย่ไม่ใช่น้อย
และในขณะนี้ พลังปราณธาตุทองคำที่กระจายอยู่เต็มร่างกายของหลินเป่ยเฉินก็โคจรไปตามเส้นลมปราณในร่างกายหนึ่งรอบเช่นเดียวกับพลังปราณธาตุชนิดอื่น ๆ แต่หลังจากนั้น พวกมันกลับเปิดเส้นทางการโคจรใหม่ของตนเองและพุ่งเข้าไปหาปอดของหลินเป่ยเฉิน…
ในฉับพลันนั้น อวัยวะทั้งห้าส่วนในร่างกายของเด็กหนุ่มไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ตับ ม้าม ปอด และไต ต่างก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแสนสาหัส
หลินเป่ยเฉินต้องครวญครางออกมาโดยไม่รู้ตัว
“โอ๊ย หัวใจของข้า…”
เขาร้องโหยหวน ยังไม่ทันพูดคำว่าตับ ม้าม ปอด และไตตามมา ศีรษะของเด็กหนุ่มก็ถูกช้อนขึ้นโดยอ้อมแขนนุ่มนิ่มของใครบางคน…
เดี๋ยวนะ?
หลินเป่ยเฉินประหลาดใจ
เมื่อเงยหน้ามอง เขาถึงได้รู้ว่าตนเองกำลังซบอยู่กับอ้อมอกของหลิงเฉิน
ตัวนางเองก็ดูอ่อนแรงไม่ใช่น้อย
ดวงตาของเด็กสาวเป็นประกายระยิบระยับ แต่เมื่อได้ยินเด็กหนุ่มครวญครางต่อมาถึงตับ ม้าม ปอด ไตของเขา แววตาของหลิงเฉินก็หม่นแสงลงเล็กน้อยและอดตัดพ้อออกมาไม่ได้ว่า “ทำไมท่านถึงไม่มาหาข้าบ้าง”
พูดจบ นางก็เป็นลมหมดสติไปทันที…
หลินเป่ยเฉินต้องข่มกลั้นความเจ็บปวดดึงร่างของนางมาโอบกอดเอาไว้
ต่อจากนั้น เขาก็เงยหน้ามองไปข้างหน้า ร่างกายขนาดใหญ่ยักษ์ของปีศาจกระทิงเหลียงหยวนเตานอนจมอยู่ในแอ่งโลหิต หัวของมันถูกทุบจนแหลกเละไม่ต่างจากแตงโมยักษ์ลูกหนึ่ง หางก็ถูกตัดขาดไม่เหลือชิ้นดี โลหิตจำนวนมากไหลทะลักออกมาจากร่างกายไม่ต่างจากท่อน้ำแตก…
เหลียงหยวนเตาตายแล้ว
ตายอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ทว่าเหลียงหยวนเตาจะสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีกหรือไม่?
หลินเป่ยเฉินเพิ่งจะมารู้ซึ่งเอาตอนนี้เองว่าตนเองมีฝีมือต่ำต้อยมากแค่ไหน เมื่อได้เห็นหลิงเฉินสามารถเอาชนะเหลียงหยวนเตาด้วยกำปั้นและกระบี่คู่ใจของนาง