เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 824 รายชื่อสังหาร
ตอนที่ 824 รายชื่อสังหาร
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวบนรถเข็นยังไม่มีทีท่าจะยอมอ่อนข้อให้แก่ตนเอง หลินเป่ยเฉินก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
พวกชาวทะเลหยิ่งในศักดิ์ศรีกันขนาดนี้เป็นปกติหรือเปล่านะ
จะยอมแพ้ก็ไม่ได้แล้วสิ
ถ้าสลับกันให้เขาเป็นเด็กสาวบนรถเข็น หลินเป่ยเฉินคงต้องยอมให้ความร่วมมือไปนานแล้ว
“นอกจากนี้ ท่านยังต้องรับปากว่าจะช่วยเหลือข้า ไม่ให้นครเจาฮุยล่มสลายเด็ดขาด”
หลินเป่ยเฉินพูดต่อไป
“ไม่มีปัญหา”
เหยียนอิงตอบกลับมา
“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ ขอเชิญท่านบอกสิ่งที่ท่านต้องการบ้าง”
หลินเป่ยเฉินยิงฟันยิ้มอย่างใจดี
เหยียนอิงยกมือดีดนิ้ว
เปลือกหอยแก้วใสชิ้นหนึ่งลอยออกมาจากถุงมือของนาง
หลินเป่ยเฉินตวัดมือรับอย่างแม่นยำ
ด้านในบรรจุอยู่ด้วยกระดาษที่เขียนข้อความของชาวทะเล ซึ่งหลินเป่ยเฉินอ่านไม่ออกแม้แต่ตัวอักษรเดียว เขาเห็นตัวอักษรเหล่านั้นเป็นลูกอ๊อดตัวเล็กๆ และจุดไข่ปลาจำนวนมากมายชวนตาลายไปหมด
แต่โชคดีที่ท้ายย่อหน้าจะมีรูปภาพแนบประกอบมาด้วย มันเป็นรูปภาพที่ผ่านการลงค่ายอาคมอย่างดี ทำให้เจ้าของรูปนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิต
“ฆ่าชาวทะเลพวกนี้ให้หมด”
เหยียนอิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลินเป่ยเฉินเข้าใจโดยทันที
นี่คือรายชื่อสังหารของผู้คนที่เด็กสาวต้องการกำจัดทิ้ง
นี่คือรายชื่อของบุคคลที่เหยียนอิงไม่ต้องการ
เหยียนอิงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลินเป่ยเฉินจะสามารถช่วยเหลือตนเองขจัดขวากหนามได้โดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งเขาสามารถทำได้เร็วเท่าไหร่ เหยียนอิงก็จะยิ่งกลายเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพชาวทะเลที่ยกพลขึ้นบกได้เร็วเท่านั้น
เด็กสาวไม่มีความปราณีต่อศัตรูแม้แต่น้อย
เป็นอีกหนึ่งอย่างที่นางและหลินเป่ยเฉินมีความคล้ายกัน
เมื่อดูรายชื่อเหล่านี้จบครบถ้วน หลินเป่ยเฉินก็พบว่ามันไม่มีมนุษย์หน้ากากแปดรูรวมอยู่ด้วย แต่ถึงกระนั้น เขาก็พยักหน้ากล่าวว่า “ย่อมได้ ข้าจะสังหารพวกชาวทะเลชั่วร้ายเหล่านี้เอง รับรองว่าพวกมันไม่มีทางได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นวันพรุ่งนี้เด็ดขาด…”
เด็กสาวบนรถเข็นจ้องมองเขาด้วยแววตาเย็นชาและคมกริบ
หลินเป่ยเฉินยิ้มฝืดด้วยความอึดอัด “พี่สาวใจเย็นก่อน ที่บอกว่าชาวทะเลชั่วร้ายนั้น ข้าไม่ได้หมายถึงท่าน… คิดดูสิว่าท่านเลอโฉมถึงขนาดนี้ ข้าจะไปว่าท่านได้อย่างไร อีกอย่าง ท่านก็มีความอาวุโสมากกว่าข้า…”
“หุบปาก” เหยียนอิงยกมือขึ้นโบกสะบัด พูดตัดบทว่า “หากเจ้ายังพูดจาไร้สาระเช่นนี้อีก ข้อตกลงของเราถือเป็นอันโมฆะ”
“ได้เลยขอรับ ถ้าอย่างนั้นข้าจะพูดจริงจังแล้ว”
หลินเป่ยเฉินรีบพยักหน้าหงึกหงัก อธิบายว่า “ข้าจะไปจัดการศัตรูของท่านให้เอง ส่วนท่านก็หาทางช่วยเหลือข้าบ้าง อย่างน้อยก็จัดการชาวทะเลระดับเซียนที่อยู่ที่นี่ให้ข้าด้วย อ้อ ข้าเกือบลืมความตั้งใจจริงที่มาที่นี่เสียแล้ว ประตูมิติสำหรับขนส่งเสบียงและกำลังเสริมของพวกท่าน ข้ามีหน้าที่ต้องทำลายพวกมันทิ้ง ท่านช่วยบอกข้าหน่อยสิว่าข้าจะสามารถทำลายพวกมันได้อย่างไร”
บังเกิดแสงสว่างวูบวาบจากถุงมือของเด็กสาวอีกครั้ง
แล้วม้วนกระดาษเล่มหนึ่งก็ลอยออกมา
ปรากฏว่ามันเป็นแผนที่ระบุตำแหน่งที่ตั้งของประตูมิติสำหรับการขนส่งเสบียงและกำลังเสริม แต่น่าเสียดายที่ข้อความบนหน้ากระดาษเป็นตัวอักษรของชาวทะเล ซึ่งหลินเป่ยเฉินไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
“มีฉบับแปลแล้วบ้างไหมขอรับ?”
หลินเป่ยเฉินถามออกมา
“หา?” เหยียนอิงเลิกคิ้วสูงด้วยความไม่เข้าใจ
“ที่แปลเป็นภาษามนุษย์แล้วน่ะขอรับ”
หลินเป่ยเฉินอธิบาย
“ไม่มี”
“ถ้าอย่างนั้น… คงต้องรบกวนพี่สาวช่วยแปลให้แก่ข้าสักหน่อย”
“…”
เหยียนอิงถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนที่จะแปลข้อความบนหน้ากระดาษคร่าวๆ ให้หลินเป่ยเฉินเข้าใจ
เมื่อแปลเสร็จแล้ว นางก็มองหน้าเขาและพูดต่อ “ข้าขอแนะนำว่าเจ้าอย่าประมาทมากเกินไป มิฉะนั้น ทางวิหารใต้สมุทรอาจค้นพบเบาะแสได้… และไม่ว่าเรื่องนี้จะกระทำสำเร็จหรือไม่ เจ้าต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว หากแผนการครั้งนี้ของเจ้าล้มเหลว ข้อตกลงของพวกเราถือเป็นอันโมฆะ”
ให้ตายสิ
หลินเป่ยเฉินสบถคำหยาบอยู่ในใจ
คนอะไรเย็นชาเหลือเกิน
อวดดีไปก่อนเถอะ สักวันหนึ่ง เขาจะทำให้นางต้องร้องไห้ยอมรับผิดต่อหน้าเขาให้จงได้
หลินเป่ยเฉินยกมือทำท่าดันแว่นแบบยอดนักสืบจิ๋วโคนัน “พี่สาว สิ่งที่ข้าอยากจะพูดกับท่านก็มีเพียงเท่านี้ และในฐานะที่ข้าเป็นเด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาที่สุดในจักรวรรดิเป่ยไห่ ท่านจงภูมิใจในวาสนาเสียเถิดว่าท่านโชคดีเหลือเกินที่ได้กลายเป็นพันธมิตรร่วมแผนการของข้า เพราะขอบอกก่อนนะว่า ข้าไม่เคยเหลือบตามองผู้ใดง่ายๆ เด็ดขาด”
พูดจบ เด็กหนุ่มก็หมุนตัวพุ่งออกไปจากกระโจมที่พัก
เมื่อเหยียนอิงเห็นว่าร่างของหลินเป่ยเฉินหายลับไปจากสายตาแล้ว รถเข็นของนางถึงค่อยๆ ลดระดับความสูงลงมาสู่พื้นดิน
การปรากฏตัวของหลินเป่ยเฉินช่วยแก้ปัญหาให้นางหลายอย่างทีเดียว
สิ่งที่เด็กหนุ่มสมองเสื่อมผู้นี้พูดเป็นความจริงทุกประการ บางครั้งความช่วยเหลือจากศัตรู ก็มีประสิทธิภาพมากกว่าความช่วยเหลือจากพวกเดียวกันเอง
เมื่อพิจารณาในข้อนี้ นับว่าหลินเป่ยเฉินมีความเหมาะสมที่จะเป็นพันธมิตรกับนางที่สุดแล้ว
เป้าหมายที่หลินเป่ยเฉินพูดออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้เด็กสาวบนรถเข็นรู้สึกว่าเลือดลมในร่างกายของตนเองร้อนระอุขึ้นมา
เหยียนอิงขอยอมรับตามตรงว่าสิ่งที่หลินเป่ยเฉินพูดออกมามีความน่าสนใจ และเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ชนิดนางก็ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
เด็กสาวกำลังใช้ความคิดวุ่นวายในหัวสมองขณะที่เห็นหลินเป่ยเฉินเดินกลับเข้ามาในกระโจมอีกครั้ง
เหยียนอิงมีสีหน้าอำมหิตในทันใด
“เกือบลืมไปเลย ท่านต้องมอบป้ายประจำตัวให้ข้าด้วยสิ”
หลินเป่ยเฉินว่า
“อะไรนะ?”
เด็กสาวบนรถเข็นชะงักกึก
อยู่ดีๆ เขาจะมาเอาป้ายประจำตัวไปทำอะไร?
“เผื่อในอนาคต ข้าหลบหนีไม่ได้ หรือมีเหตุให้ต้องติดต่อคนของท่าน ข้าจะได้ใช้ป้ายประจำตัวนี้ยืนยันตัวตนได้ไงล่ะขอรับ”
หลินเป่ยเฉินพูดเสียงเครียด
เหยียนอิงก้มหน้าใช้ความคิดเล็กน้อย ราวกับตัดสินใจไม่ถูกว่าจะให้ป้ายประจำตัวแก่เด็กหนุ่มดีหรือไม่
หลินเป่ยเฉินกล่าวต่อเสียงเย็นเยียบ “ขอเป็นป้ายประจำตัวที่ทำเลียนแบบไม่ได้ด้วยนะขอรับ เอาแบบว่าแค่ท่านมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นข้าส่งมา หรือหากท่านกลัวว่ามันอาจตกไปอยู่ในมือคนอื่นแล้วความลับจะถูกเปิดเผย ถ้าอย่างนั้นก็ใช้สิ่งของทั่วไปก็ได้ เช่น ปิ่นปักผมของท่าน เข็มขัดของท่าน เสื้อผ้าของท่าน ฯลฯ…”
นี่คือคำแนะนำจากเด็กหนุ่มจอมเสเพล
เหยียนอิงยกมือขึ้นไปบนมวยผมของตนเองขณะพูดว่า “โปรดจำเอาไว้ หากคืนนี้เจ้าบุกเข้าไปสังหารบุคคลในรายชื่อเหล่านั้นจริงๆ เมื่อเจ้ากลับออกมา เจ้าจะต้องอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส”
พูดยังไม่ทันจบประโยค
วูบ!
ลำแสงสีแดงเข้มก็พุ่งเข้ามาหาหลินเป่ยเฉิน