เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 905 การฆาตกรรมกลางความมืด
ตอนที่ 905 การฆาตกรรมกลางความมืด
ตลอดสองวันที่ผ่านมา สมาคมศิษย์สำนักศึกษาระดับสูงแห่งนครหลวงมีความวุ่นวายมาก
ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการเดินขบวนประท้วง
กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมาก
พวกของเยวียนเหวินจวิ้นหัวหมุนแทบไม่ได้พักผ่อน
โดยเฉพาะบรรดาแกนนำคนสำคัญ
พวกเขาแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเนื้อหาในการเดินขบวนต้องเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน หลายสิ่งหลายอย่างที่จัดเตรียมมาก่อนหน้านี้ต้องยกเลิกไปทันที และมีแต่เพียงแกนนำที่เชื่อใจได้เท่านั้น ถึงจะได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
หลินเป่ยเฉินต้องยอมรับจากใจจริงเลยว่ากลุ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวเหล่านี้สามารถเตรียมการสำหรับงานเดินขบวนได้อย่างเป็นมืออาชีพ
พวกเขาจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวังยิ่งยวด โดยทราบดีว่าหลายสำนักใหญ่ตั้งใจใช้การเดินขบวนประท้วงของพวกเขาสร้างความวุ่นวายในตัวเมือง เพราะฉะนั้น เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในการประท้วงจึงปล่อยให้หลุดรอดออกไปไม่ได้เด็ดขาด
วันที่สี่ ราตรีเริ่มขึ้นแล้ว
ถนนหน้าสถานศึกษา
ตู้กู่อู๋อิงกับเยวียนหนงเดินออกมาจากประตูใหญ่ของสำนักศึกษากระบี่หลวงระดับสูง แม้สีหน้าจะแสดงออกถึงความเหนื่อยล้า แต่ในแววตากลับบอกชัดถึงความตื่นเต้น
การเตรียมงานขั้นสุดท้ายสำหรับการเดินขบวนประท้วงเสร็จสิ้นลงแล้ว
เช้าวันพรุ่งนี้ การเดินขบวนจะเริ่มขึ้นตามกำหนด
เมื่อคิดว่าตนเองจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขความเข้าใจผิดต่อวีรบุรุษแห่งแผ่นดินหลินเป่ยเฉิน เด็กหนุ่มเด็กสาวทั้งสองต่างก็อดรู้สึกภาคภูมิใจไม่ได้
“พี่หนง ข้าอยากซื้อยาบำรุงผิว ท่านช่วยไปเป็นเพื่อนข้าหน่อยได้หรือไม่?”
ยากนักที่พวกเขาจะมีโอกาสได้ผ่อนคลายเช่นนี้ ตู้กู่อู๋อิงจึงควงแขนหวานใจ เปิดเผยให้เห็นถึงมุมที่อ่อนโยนของการเป็นสตรีออกมา
เยวียนหนงใช้นิ้วจิ้มจมูกเด็กสาวและพูดพร้อมกับยิ้มกว้างว่า “ย่อมได้ หลังจากนั้น พวกเราก็ไปรับประทานข้าวต้มที่ร้านของเหล่าเหลียวสักสองชาม แล้วค่อยกลับไปพักผ่อน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินขบวนวันพรุ่งนี้”
“ได้เลยเจ้าค่ะ”
ตู้กู่อู๋อิงรับคำเสียงเจื้อยแจ้วราวกับเป็นเด็กน้อย
ร้านข้าวต้มของเหล่าเหลียวเป็นแผงรถเข็นที่ตั้งอยู่หลังสำนักศึกษามามากกว่าสิบปี เยวียนหนงกับตู้กู่อู๋อิงพบกันครั้งแรกก็ ณ สถานที่แห่งนี้เอง ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกันมาก่อน ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์จากเพื่อนกลายเป็นคนรัก จึงกล่าวได้ว่าร้านข้าวต้มของเหล่าเหลียว คือสถานที่แห่งความทรงจำของคู่รักคู่นี้
พวกเขาเดินไปด้วยพูดคุยกันไปด้วย ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ครั้งที่ตกหลุมรักกันแรกเริ่ม
แต่ทันใดนั้น เยวียนหนงกลับหยุดชะงักฝีเท้า
เนื่องจากเขาพบว่าบนท้องถนนในขณะนี้ปราศจากผู้คนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
เงียบสงัดจนน่ากลัว
สายลมหนาวพัดผ่านไป ใบไม้ปลิวในอากาศ ก่อนร่วงหล่นลงมาตามแรงลมหมุน
บรรยากาศแปลกประหลาดไม่น่าไว้ใจ
เยวียนหนงมือซ้ายจับแขนของคนรัก มือขวาจับที่ด้ามกระบี่ซึ่งแขวนอยู่ข้างเอว
“พี่หนง?”
ตู้กู่อู๋อิงเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน
ห่างออกไปหลายสิบวา รถม้าสีดำคันหนึ่งจอดแน่นิ่งอยู่กลางถนน
สองฝั่งของรถม้ามีร่างของชายฉกรรจ์ชุดดำยืนอยู่ฝั่งละคน
ใบหน้าของชายฉกรรจ์ทั้งสองปกคลุมด้วยผืนผ้าสีดำ ในมือถือกระบี่ยาวเป็นประกายเย็นเยียบ พวกเขายืนนิ่งเงียบภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี ปลดปล่อยความรู้สึกคุกคามที่น่าสะพรึงกลัว
“พวกเจ้าเป็นใคร?”
เยวียนหนงถามออกมาด้วยเสียงคำราม
เขารู้สึกได้ถึงความเป็นอันตรายจากฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน
แต่ไม่มีคำใดตอบกลับมา
พลันนั้นชายฉกรรจ์ชุดดำสับเท้าวิ่งออกมาข้างหน้า ปลายกระบี่ลากเป็นทางยาวอยู่บนพื้นถนน ส่งสะเก็ดไฟปลิวกระจายขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิด
แกรก! แกรก!
รังสีอํามหิตพวยพุ่ง
เช้ง!
เยวียนหนงชักกระบี่ออกมาอย่างไม่ลังเล
เขาเป็นหนึ่งในสิบมือกระบี่รุ่นเยาว์ที่น่าจับตาแห่งนครหลวง ระดับพลังของเยวียนหนงย่อมไม่ต่ำต้อย อีกทั้งเด็กหนุ่มยังมีประสบการณ์ต่อสู้โชกโชน
ปฏิกิริยาของเขารวดเร็ว
กระบี่ถูกชักออกมาตวัดฟาดฟัน
การต่อสู้เกิดขึ้นในลมหายใจนั้น
วูบ! วูบ! วูบ!
คมกระบี่สาดประกายในอากาศ
เงาร่างสามสายต่อสู้กันในความมืดมิดยามราตรี คมกระบี่สาดประกายวูบวาบ ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างต้องถอยแยกออกจากกันไปหลายวา
ฟู่!
โลหิตไหลทะลักออกมาจากขาซ้ายของเยวียนหนง
เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว
“พี่หนง…”
ตู้กู่อู๋อิงอุทานด้วยความตกใจ ในมือถือกระบี่ รีบวิ่งเข้าไปหาเยวียนหนง
ทันใดนั้น…
สวบ! สวบ!
เสียงคล้ายแผ่นกระดาษถูกแทงทะลุดังขึ้น
ขณะนี้ ชายฉกรรจ์ชุดดำทั้งสองคนนั้นมีโลหิตไหลทะลักออกมาจากลำคอพร้อมกัน ปรากฏว่าการปะทะกันเมื่อสักครู่ พวกเขาถูกคมกระบี่ของเยวียนหนงปาดเข้าที่ลำคออย่างแม่นยำ บัดนี้จึงต้องล้มคะมำลงกับพื้นถนนแล้ว
เยวียนหนงรีบยกมือขึ้นกันให้ตู้กู่อู๋อิงอยู่ทางด้านหลัง
ดวงตาของเด็กหนุ่มจ้องมองไปยังรถม้าสีดำที่จอดขวางอยู่บนถนนด้วยความดุร้าย
ภายใต้ความมืดมิด
รถม้าที่ไม่มีป้ายชื่อคันนั้น ไม่ต่างไปจากปีศาจราตรีที่สิงสู่อยู่ในความมืด และกำลังปลดปล่อยรังสีคุกคามออกมาอย่างชัดเจน
“พี่หนง ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”
เมื่อตู้กู่อู๋อิงเห็นบาดแผลที่อยู่บนขาของเยวียนหนง หัวใจของนางก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา
เด็กหนุ่มส่ายหน้าและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
จังหวะนั้น…
ฟ้าว!
เสียงอะไรบางอย่างแหวกอากาศดังขึ้น
เป็นลูกธนูถูกยิงออกมาจากด้านในรถม้า
ความเร็วของลูกธนูดอกนี้ยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด
“แย่แล้ว นี่มันพวกจี้กวง…”
เยวียนหนงหยุดชะงัก กระบี่ในมือเขาเป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะช่วยป้องกันหน้าอกของตนเองได้
เปรี้ยง!
เสียงลูกธนูปะทะกับคมกระบี่ดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเสียงฟ้าคำราม
เยวียนหนงรู้สึกราวกับว่าตนเองถูกค้อนเหล็กทุบเข้าที่หน้าอก กระบี่ที่ถูกหลอมขึ้นมาอย่างดีในมือเขาแตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยปลิวกระจายไปรอบทิศทาง
ข้อมือขวาของเขาได้ยินเสียงดังกร๊อบ หมายความว่ากระดูกข้อมือของเยวียนหนงได้แตกหักลงแล้วโดยสมบูรณ์
“เป็นไปได้อย่างไร?”
เสียงอุทานแว่วออกมาจากในรถม้า
เห็นได้ชัดว่ามือธนูก็ตกใจไม่น้อยที่เยวียนหนงไม่ตายภายใต้การโจมตีครั้งนี้
แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ธนูดอกที่สองถูกยิงออกมา
ธนูดอกนี้มีความรุนแรงมากกว่าดอกที่แล้ว
มีความรวดเร็วมากกว่าดอกที่แล้ว
ตู้กู่อู๋อิงขยับกระบี่เตรียมสะบัดปัดป้อง
แต่ลูกธนูมีความรวดเร็วเสียจนนางคาดเดาจังหวะไม่ได้
คมกระบี่ของเด็กสาวตวัดออกไป
แต่ลูกธนูกลับเฉียดผ่านกระบี่ของนางไปส่งสะเก็ดไฟปลิวกระจาย
และลูกธนูดอกนั้นยังคงพุ่งตรงเข้าไปหาเยวียนหนงไม่เปลี่ยนแปลง
เป้าหมายของลูกธนูอยู่ที่หน้าผากของเยวียนหนง
พลังทำลายล้างของลูกธนูดอกนี้เพียงพอที่จะระเบิดศีรษะของเยวียนหนงให้แตกกระจาย
เยวียนหนงรับรู้ได้ถึงความตายที่คืบคลานเข้ามา
ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกคับแค้นใจ
มีเรื่องราวอีกมากมายหลายอย่างที่เขายังทำไม่สำเร็จ
เขายังไม่ได้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวของตู้กู่อู๋อิงในห้องหอคืนแต่งงานเลย
หากเขาตายไป แล้วตู้กู่อู๋อิงจะทำอย่างไร?
“ฮึ่ยยย…”
ดวงตาของเด็กหนุ่มเบิกกว้าง
ในเวลาเดียวกันนี้ ร่างกายของเขาผงะถอยหนีตามสัญชาตญาณ
แต่แล้วเยวียนหนงก็ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากลูกธนูที่กำลังจะพุ่งทะลวงหน้าผากของเขานั้น กลับหยุดชะงักค้างอยู่กลางอากาศ โดยที่คมธนูอยู่ห่างจากหัวคิ้วของเขาเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
เนื่องจากมีมือข้างหนึ่งกำลังจับลูกธนูดอกนั้น
หรือถ้าจะอธิบายให้ถูกต้อง ก็ต้องเรียกว่ามันเป็นกรงเล็บข้างหนึ่งมากกว่า
กรงเล็บที่เต็มไปด้วยขนปุกปุย!!!