เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1010 ไม่คาดคิด
บทที่ 1,010 ไม่คาดคิด
จ้าวจื่อชูสามนิ้วขึ้นไปบนฟ้าและสาบานเสียงดัง “ข้าจ้าวจื่อสาบานว่า จะต่อสู้กับซูอันอย่างยุติธรรม ในวันนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ข้าจะไม่พึ่งพาภูมิหลังของตระกูลในการตอบโต้ หากไม่เป็นเช่นนั้นขอให้ได้รับทัณฑ์สวรรค์!”
หลังจากกล่าวคำสาบาน ร่างของเขาก็เรืองแสงสีทองจาง ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าคำสาบานมีผลแล้ว
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาได้เรียนรู้ถึงพลังของคำสาบานมาก่อนแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลว่าราชันลมปราณจะตอบโต้ อย่างน้อยก็อย่างเปิดเผย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้เขามีการบ่มเพาะที่ทรงพลังเมื่อรวมกับความฉลาดในการใช้กลอุบาย มันจะไม่เป็นปัญหาใหญ่นักตราบใดที่ปราชญ์อย่างราชันลมปราณไม่ตามมาล้างแค้นทีหลัง
จากนั้นซูอันสาบานเช่นกัน “ข้าซูอันขอสาบานว่า จะต่อสู้กับจ้าวจื่ออย่างยุติธรรม ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ข้าจะไม่พึ่งพาภูมิหลังของตระกูลในการตอบโต้ หากไม่เป็นเช่นนั้นขอให้ได้รับทัณฑ์สวรรค์”
คนขับชราฟันหลอยิ้มเยาะ “ไอ้เด็กคนนี้หน้าด้านจริง ๆ”
‘ทายาทของราชันลมปราณได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่มีอำนาจ เด็กเหลือขออย่างเจ้าจะมีภูมิหลังตระกูลแบบไหน?’
ผู้หญิงในรถม้าหัวเราะและพยักหน้าเห็นด้วย “สมกับเป็นเขาจริง ๆ”
ดวงตาของคนขับชราฟันหลอเป็นประกาย มีเรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างชายหนุ่มคนนี้กับเจ้านายของเขาจริง ๆ ต่อไปเขาต้องสืบรู้ให้ได้
มู่หรงชิงเหอดึงแขนเสื้อของฉู่โหยวเจา “พี่ฉู่ พี่เขยของท่านหน้าด้านมาก พี่สาวของท่านคงถูกเขารังแกตลอดเวลาใช่ไหม?”
นางเคยพบกับฉู่ชูเหยียนมาก่อน และคิดเสมอว่าไม่มีทางที่คนอย่างคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่จะถูกรังแก อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้พบซูอันด้วยตัวเอง นางก็ไม่มั่นใจในความคิดของตัวเองอีกต่อไป
“ใช่ นางมักจะถูกรังแกอยู่เสมอ” ฉู่โหยวเจาหน้าแดง จำได้ว่าครั้งนั้นที่นางบังเอิญไปเจอฉู่ชูเหยียนกำลังถูกซูอันเคี่ยวกรำอยู่บนเตียงอย่างเร่าร้อน การที่ได้เห็นพี่สาวที่เย็นชามาตลอดในท่าทางเช่นนั้น แค่คิดก็รู้สึกเจ็บใจแทน
ใบหน้าของจ้าวจื่อกระตุกเมื่อสังเกตเห็นช่องโหว่ในคำสาบานของซูอันแต่ทำเป็นไม่สนใจ ไม่ว่ากรณีใด เขามั่นใจในชัยชนะ เขาจะทำลายชายคนนี้ให้สิ้นซาก ด้วยวิธีนี้ทั้งรัชทายาท องค์หญิงรัชทายาทหรือแม้แต่จักรพรรดิก็ไม่สามารถตำหนิเขาได้
“เข้ามาเลย ข้าจะให้เจ้าออกท่าทางซักหน่อย ดูซิว่าเจ้าจะทำอะไรได้บ้าง” ทายาทของราชันลมปราณกล่าว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง การรีบกำจัดขยะมีแต่จะทำลายชื่อเสียงของเขา
แม้ว่าสามัญชนส่วนใหญ่จะหวาดกลัว แต่ยังมีผู้ชมกลุ่มเล็ก ๆ ทายาทของตระกูลฉู่ แม่นางตระกูลมู่หรง และคนที่อยู่ในรถม้า
เมื่อคิดถึงการมีอยู่ของรถม้าคันนั้น เขาค่อนข้างจะสับสน เหตุใดจึงยังจอดชมสถานการณ์อยู่แม้ว่าบทสรุปจะเดาได้ชัดเจนแล้ว?
ข้างในนั้นอาจเป็นคนสำคัญหรือไม่? แต่ภายนอกก็ดูเหมือนรถม้าทั่วไป
“ถ้าเจ้าเสี้ยนอยากถูกทุบตีขนาดนี้ ข้าจะช่วยเจ้าเอง” ซูอันไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอ เนื่องจากอีกฝ่ายประเมินเขาต่ำเกินไป เขาจึงจะใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่ นักรบคีย์บอร์ดหนุ่มพุ่งไปข้างหน้าเหมือนกระสุน ปรากฏตัวต่อหน้าคู่ต่อสู้ในชั่วพริบตา
ทายาทของราชันลมปราณกระโดดโหยงด้วยความตกใจ ทำไมถึงเร็วได้ขนาดนี้!?
เมื่อเห็นหมัดของซูอันพุ่งเข้ามาหา รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ถ้าสวนกลับไปตรง ๆ ด้วยความแตกต่างในการบ่มเพาะ หมัดของเขาจะบดขยี้มือของอีกฝ่ายทันที
ในขณะที่หมัดทั้งสองกำลังจะปะทะกัน กำปั้นของซูอันกลับกลายเป็นยืดหยุ่นได้และเลื่อนผ่านหมัดของคู่ต่อสู้เหมือนงูเลื้อย ห้านิ้วกางออก
ผัวะ!
ทุกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้ตกตะลึง มู่หรงชิงเหอที่หมกมุ่นในศิลปะการต่อสู้ได้เฝ้าดูด้วยดวงตาที่เบิกกว้างอย่างใจจดจ่อว่ามีอะไรที่สามารถเรียนรู้และนำมาใช้ได้หรือไม่
นางเคยต่อสู้กับซูอันมาก่อน แม้ว่าจะประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช แต่นางรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่มือของผู้บ่มเพาะระดับแปดอย่างแน่นอน ในความเห็นของนาง ทางเลือกที่ดีที่สุดของซูอันคือการมุ่งเน้นไปที่การป้องกันและปล่อยให้การต่อสู้ยืดเยื้อ บางทีอาจจะนานพอให้ใครบางคนจากวังตะวันออกปรากฏตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามซูอันได้ยึดความได้เปรียบแทน เขาสามารถตบหน้าทายาทของราชันลมปราณได้
ทำไมการเคลื่อนไหวนั้นจึงดูเหมือนวิชาพริ้วไหวไหลพัวพันของตระกูลเพ่ยมาก?
มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? ทำไมเขาถึงรู้ทักษะของตระกูลเพ่ย?
ทายาทของราชันลมปราณคำรามด้วยความโกรธ “กล้าดีอย่างไรมาตบข้า? กล้าดีอย่างไร!?”
—
ท่านยั่วยุจ้าวจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999… +999… +999…
—
ด้วยแรงที่ทำให้เส้นผมโบยบิน เขาชกหมัดเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่าย ไร้อารมณ์ที่จะไว้ชีวิตคู่ต่อสู้ของเขา ความคิดเดียวคือการบดขยี้ซูอันให้เป็นฝุ่นผง จากนั้นเขาก็สามารถขจัดความละอายของตัวเองได้
คนขับชราฟันหลอขมวดคิ้ว “นั่นไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเลย สิ่งที่เขาทำก็แค่เป็นการยั่วยุคู่ต่อสู้ ตอนนี้ทายาทของราชันลมปราณกำลังโจมตีด้วยเจตนาฆ่า ฮูหยิน ข้าควรเข้าไปช่วยชีวิตเขาไหม?”
เขาสามารถบอกได้ว่านางห่วงใยชายหนุ่มคนนี้
“มาดูกันก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ผู้หญิงในรถม้าพูดด้วยความเฉยเมย
จากสิ่งที่นางรู้เกี่ยวกับซูอัน เขาไม่ได้เป็นคนใจร้อน
ฉู่โหยวเจาร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก การต่อสู้ได้พลิกผันอีกครั้ง จ้าวจื่อทายาทของราชันลมปราณกระแทกฝ่ามือเข้าตรงกลางหน้าอกของซูอัน ซึ่งร่างกายระเบิดเป็นเสี่ยงทันที
จ้าวจื่อขมวดคิ้ว ความรู้สึกจากหมัดบอกว่าเขาโดนหลอกเข้าแล้ว
แน่นอนว่าซูอันอยู่ห่างออกไปหลายช่วงตัวแล้ว
ทายาทของราชันลมปราณงงงัน ทำไมชายคนนี้มีความเร็วได้ขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม มันไม่สำคัญในตอนนี้ เขารีบตามไล่ล่าซูอันในทันที
ไม่ว่าเจ้าจะเร็วแค่ไหน เจ้าคิดหรือว่าความเร็วของเจ้าสามารถแซงหน้าผู้บ่มเพาะระดับแปดได้?
จ้าวจื่อเป็นผู้บ่มเพาะธาตุสายฟ้าที่มีจุดเด่นด้านความเร็ว!
ซูอันรีบยกฝ่ามือขึ้นปะทะโดยตรง ทั้งสองได้แลกเปลี่ยนการโจมตีนับสิบกระบวนท่าในทันที พลังชี่ที่กระเพื่อมออกไปด้านนอกทำให้ประติมากรรมน้ำแข็งรูปทหารม้า ฉู่โหยวเจาและมู่หรงชิงเหอ กระเด็นห่างออกไป
ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง ไม่คาดคิดว่าซูอันจะต่อต้านผู้บ่มเพาะระดับแปดได้!