เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1019 พูดคุยแบบส่วนตัว
บทที่ 1019 พูดคุยแบบส่วนตัว
จ้าวจื่อรู้สึกใจสั่นเช่นกัน อวี้เหยียนลั่วพูดกับข้าจริง ๆ! นางเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาด้วย!
เขาพยายามยืนขึ้นและจัดระเบียบเสื้อผ้าโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าทั้งหมดถูกทำลายเป็นเถ้าถ่านด้วยสายฟ้าของเขาเอง โชคดีที่หานเฟิงชิวรีบบังเขาไว้เพื่อซ่อนภาพที่น่าเกลียดนี้
เขาจ้องซูอันตาเขม็งด้วยความเกลียดชัง สักวันหนึ่งข้าจะแก้แค้นให้ได้ มิฉะนั้นชื่อของข้าจะไม่ใช่จ้าวจื่อ!
เมื่อเขามองไปในทิศทางของรถม้า ท่าทางที่เป็นอันตรายของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มในทันที “แม่นาง เนื่องจากท่านเป็นฝ่ายร้องขอ ข้าย่อมเห็นแก่ท่าน ซูอัน ความผิดของเจ้าจะถูกสอบสวนในภายหลัง ออกเดินทางได้!”
หานเฟิงชิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรหากยังคงเผชิญหน้ากับผู้บ่มเพาะลึกลับคนนี้
จ้าวจื่อมีไหวพริบคู่ควรกับตำแหน่งของเขา ฉวยโอกาสนี้ถอนตัวโดยไม่ทำให้ดูเหมือนว่ากำลังถอยหนี
อย่างไรก็ตาม ทายาทหนุ่มที่เขายกย่องนั้นเต็มไปด้วยความเสียใจ บัดซบ! ทำไมข้าถึงต้องจากมาด้วย?
ถ้าเขาดื้อรั้นปฏิเสธนางและอยู่ต่อ เขาอาจจะดึงความสนใจของฮูหยินมาที่ตัวเองมากขึ้น อย่างน้อยที่สุด เขาสามารถแลกเปลี่ยนวาจากับนางได้อีกสองสามคำ
จ้าวจื่อถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็มีโอกาสที่จะพูดคุยกับนาง แต่กลับไม่สามารถแม้แต่จะพบนางแบบเห็นหน้ากัน ซูอันเป็นคนเดียวที่ได้รับโอกาสในการโต้ตอบกับนางอย่างใกล้ชิดภายในรถม้า
ซูอันคนนี้เป็นเพียงคนขี้ขลาดที่รู้วิธีซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผู้หญิงเท่านั้น!
ว่าแต่… ข้าอยากหลบหลังผู้หญิงอย่างฮูหยินอวี้บ้าง
บัดซบ! ยิ่งคิดยิ่งโมโห!
—
ท่านยั่วยุจ้าวจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +924… +924… +924…
—
มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการกับผู้บ่มเพาะขั้นสูงสุดของระดับเก้า และหลังจากทั้งหมด บิดาของจ้าวจื่อ ราชันลมปราณเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า
“ขอโทษ ฮูหยินของข้าได้เชิญเจ้าให้พบกับนาง” คนขับชราฟันหลอเดินเข้ามาหาเขา น้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
นี่มันอะไรกัน? ใครก็ตามในเมืองหลวงจะรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับโอกาสให้พบกับฮูหยินของข้า ทำไมเจ้าเด็กดื้อไร้ค่าคนนี้จึงดูไม่ใส่ใจนัก?
“ขอโทษที ข้ามัวคิดอะไรบางอย่างอยู่” ซูอันตอบพร้อมกับหัวเราะ เขาสะบัดศีรษะไล่ความงุนงงและเดินไปที่รถม้า สงสัยว่าใครอยู่ข้างใน
ฉู่โหยวเจาและมู่หรงชิงเหอพยายามติดตามเขาเพื่อดูว่าด้านในเป็นใครเช่นกัน แต่ถูกคนขับชราฟันหลอหยุดไว้ “คุณหนู คุณชาย โปรดรอที่นี่”
มู่หรงชิงเหอไม่รู้สึกอะไร แต่ฉู่โหยวเจาทั้งโกรธและประหม่า น่าเสียดายที่นางทำอะไรกับคนที่อยู่ในระดับปรมาจารย์เป็นอย่างน้อยไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูพี่เขยเดินไปที่รถม้าอย่างขัดใจ
เมื่อซูอันมาถึงข้างรถม้า เขาพูดว่า “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของฮูหยิน”
เสียงหัวเราะดังมาจากข้างใน “ก่อนหน้านี้เจ้าเคยช่วยข้ามาก่อน”
ฉู่โหยวเจาย่นจมูกด้วยความรังเกียจ เสียงหัวเราะของผู้หญิงคนนี้เหมือนแม่มด! เห็นได้ชัดว่านางพยายามยั่วยวนเขา! แต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นเสียงที่ไพเราะที่สุดที่เคยได้ยิน
ซูอันหัวเราะเช่นกัน “ถ้าข้ารู้ว่าฮูหยินมีผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง ข้าเกือบจะถูกคนจากคฤหาสน์ราชันลมปราณฆ่าไปแล้ว”
ราวกับสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของเขา ผู้หญิงที่อยู่ข้างในพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความกล้าหาญของเจ้า แม้ว่าบุคคลภายนอกอาจมองว่าเจ้าเป็นคนขี้เล่นไม่จริงจัง แต่ข้ารู้ดีว่ามีแก่นแท้ที่กล้าหาญอยู่ภายในตัวเจ้า ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งเพียงใด เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้กับพวกเขาเสมอเมื่อเห็นความอยุติธรรม เมื่อก่อนเป็นอย่างนี้ และตอนนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม”
แก้มของซูอันอุ่นขึ้น “ข้าเริ่มเขินแล้วกับคำชมของท่าน ฮ่า ๆ… หืม? ดูเหมือนท่านจะรู้จักข้า?”
ภายในรถม้าเกิดความเงียบชั่วครู่ หลังจากนั้นผู้หญิงที่อยู่ข้างในก็พูดว่า “เข้ามาข้างในสิ”
คนขับชราฟันหลอชราฟันหลอตกตะลึง ข้าได้ยินผิดไปหรือเปล่า? ฮูหยินกำลังเชิญเขาเข้าไปข้างในจริง ๆ เหรอ?
ทั้งสองคนกำลังจะอยู่ด้วยกันในห้องโดยสารรถม้าแคบ ๆ นี้?
เขาทำงานเป็นคนขับรถม้าส่วนตัวให้กับฮูหยินคนนี้มาหลายปีแล้ว เขารู้ว่าเพราะความงามอันน่าทึ่งของนาง นางจึงใส่ใจอย่างมากเกี่ยวกับระยะห่างในความสัมพันธ์ นางไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ได้ขนาดนี้
ดูเหมือนนางจะสนใจซูอันมาก เขาเริ่มสงสัยว่านางแอบตกหลุมรักเขาหรือเปล่า?
เด็กเหลือขอคนนี้ค่อนข้างดูดี แต่ฮูหยินของข้าเป็นคนที่สนใจรูปลักษณ์หรือไม่? นางจะไม่มีวันเจอผู้ที่งดงามเท่าคนที่เห็นในกระจก ดังนั้นรูปลักษณ์อาจไม่สำคัญสำหรับนาง
บางทีนางอาจชื่นชมเขาในฐานะรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถ? ใช่ เป็นไปได้…
ขณะที่ความคิดต่าง ๆ แล่นเข้ามาในหัวของคนขับชราฟันหลอ ซูอันขยับม่านไปด้านข้างและเข้าไปในรถม้า ก่อนที่เขาจะได้สบตากับผู้หญิงด้านในก็เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ
บัดซบ! นี่คือผลสะท้อนของ ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ ทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้?
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ ซูอันสูญเสียการควบคุมร่างกายและล้มลง ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงคนหนึ่ง และทรุดตัวลงในร่างที่อ่อนนุ่ม
คนขับชราฟันหลอที่เฝ้าระวังอยู่ข้างรถม้าเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงด้านในร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก รีบตะโกนถามทันที “ฮูหยิน เกิดอะไรขึ้น?”
เขาไม่กล้าเข้าไปข้างใน เพราะรู้ว่านางค่อนข้างสันโดษ และเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของนาง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้ง
ฉู่โหยวเจาและมู่หรงชิงเหอรีบวิ่งมาเช่นกัน แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะทันคนขับชราได้
มู่หรงชิงเหอดึงแขนเสื้อของฉู่โหยวเจา มองดูนางด้วยท่าทางแปลก ๆ “พี่ฉู่ พี่เขยของท่านคือ…”
นางหน้าแดงและไม่ได้พูดต่อ
ฉู่โหยวเจากระทืบเท้าด้วยความรำคาญ “เรียกใครว่าพี่เขย? ข้าไม่มีพี่เขยที่สติฟั่นเฟือนแบบนี้!”
—
ท่านยั่วยุฉู่โหยวเจาสำเร็จได้
รับคะแนนความโกรธแค้น +223… +223… +223…
—
มู่หรงชิงเหอย่นจมูก ใครกันที่เอาแต่พูดว่า ‘พี่เขย’ ก่อนหน้านี้?
เสียงของฮูหยินดังมาจากในรถอีกครั้ง “ไม่มีอะไร… ไม่มีอะไร ลุงฟู่ โปรดระวัง อย่าให้ใครเข้ามาใกล้”
คนขับชราฟันหลอยังไม่แน่ใจ “ฮูหยินแน่ใจนะว่าไม่มีอะไรผิดปกติ?”
เขากลัวว่านางพูดเพราะถูกข่มขู่
เสียงของนางดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าสบายดี ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเขา โปรดยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก”
ชั้นของแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบ ๆ รถม้า คนขับชราทราบดีว่ามีการปิดกั้นเสียงภายในไม่ให้เล็ดลอดออกมา
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เว้นแต่ฮูหยินจะเป็นคนเปิดใช้งานด้วยตัวเอง
ความคิดนี้ทำให้เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก “ข้ารับใช้ผู้เฒ่าคนนี้จะรออยู่ข้างนอก”
คนขับชราไล่ฉู่โหยวเจาและมู่หรงชิงเหอออกไปขณะที่พูด
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจที่นายหญิงใช้งานการปิดกั้นเสียง เห็นได้ชัดว่านางเชื่อใจเด็กเหลือขอคนนี้จริง ๆ หากมีสิ่งที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นภายใน จะไม่มีใครสามารถช่วยนางได้ แม้ว่านางจะกรีดร้องออกมาจนสุดเสียง