เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1024 ความคืบหน้า
บทที่ 1024 ความคืบหน้า
ทั้งสองยังคงจ้องตากันต่อไป ในที่สุดองค์หญิงรัชทายาทก็ทนไม่ไหว รอยแดงกว้างค่อย ๆ แผ่ขยายไปทั่วลำคองามระหงของนาง
คนรอบข้างมีสีหน้าแปลก ๆ ทำไมดูเหมือนองค์หญิงรัชทายาทและท่านซูกำลังสบสายตากันเหมือนคู่รัก? เป็นไปได้อย่างไร?
ทันใดนั้น ชายอ้วนคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขา “หอคณิกาหลวงคืออะไร?”
ในที่สุด องค์หญิงรัชทายาทก็ย้ายสายตาไปมองรัชทายาทด้วยความรำคาญและกล่าวว่า “ที่แห่งนั้นเป็นสถานที่สกปรก เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไป”
“โอ้…” เขาสั่นสะท้านจนชั้นไขมันกระตุก เห็นได้ชัดว่าภรรยาคนนี้ทำให้เขาหวาดกลัวอย่างยิ่ง
องค์หญิงรัชทายาทจากไปอย่างรวดเร็ว เกิดอะไรขึ้นกับนางในวันนี้? นางทำผิดพลาดครั้งใหญ่ไปแล้ว ต่อไปต้องสั่งสอนชายที่ชื่อว่าซูอันให้รู้จักเกรงกลัวมากกว่านี้
ตามข้อมูลที่นางได้รับ ชายคนนี้สามารถต่อสู้กับทายาทของราชันลมปราณได้ จัดเป็นอัจฉริยะที่หายาก วังตะวันออกตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจึงต้องการผู้บ่มเพาะที่มีอำนาจเพื่อเผชิญหน้ากับฝ่ายราชันลมปราณ นางจะใช้อะไรผูกใจเขาได้บ้าง?
เมื่อนางจากไป องค์ชายรัชทายาทรีบดึงซูอันและถามเสียงเบาว่า “บอกข้าที หอคณิกาหลวงเป็นสถานที่แบบไหน?”
ซูอันมองเขาอย่างแปลกใจ “องค์หญิงรัชทายาทเพิ่งบอกพระองค์ไม่ใช่เหรอพะย่ะค่ะ?”
“ข้ารู้ว่านางจะไม่พูดความจริงกับข้า!” รัชทายาททำหน้าบึ้งราวกับกำลังนึกถึงการกดขี่สองปีที่เขาได้รับจากนาง “บอกมาเร็ว! ไม่อย่างนั้นข้าจะบอกคนอื่นว่าเมื่อครู่เจ้าจ้องมองหลิงหลงอย่างไร!”
ซูอันตกตะลึง ผู้ชายคนนี้โง่จริง ๆ เหรอ? เขาคิดเรื่องนี้ออกมาได้อย่างไร? นี่เขาแกล้งแสดงมาตลอดหรือเปล่า?
อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าการที่เขาสามารถใช้ตราหยกควบคุมรัชทายาทได้ชั่วขณะนั้นหมายความว่าอีกฝ่ายโง่จริง ๆ สติปัญญาของชายอ้วนผู้นี้ใกล้เคียงกับเด็กสิบขวบ
“อืม หอคณิกาหลวงเป็น… ที่ที่ผู้คนไปออกกำลังกายกันพะย่ะค่ะ” ซูอันต้องคิดอย่างหนักเพื่ออธิบายอย่างมีไหวพริบ เขาไม่ต้องการให้องค์หญิงรัชทายาทโกรธแค้นเมื่อนางรู้ว่าเขาได้เปิดเผยกับรัชทายาทว่าหอคณิกาหลวงเป็นสถานที่แบบไหน
“ที่ที่คนออกกำลังกาย?” รัชทายาทขมวดคิ้ว “เจ้ากำลังโกหกข้า ถ้ามันเป็นแค่การออกกำลังกาย มันก็ไม่สนุกหรอก แต่เจ้ากับองครักษ์สองคนอยู่ที่นั่นตลอดทั้งคืน”
ในฐานะคนอ้วน เขามีความรังเกียจต่อการออกกำลังกายทุกรูปแบบโดยธรรมชาติ
ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ “ใครว่าออกกำลังกายไม่สนุก? ที่นั่นเป็นสวรรค์สำหรับผู้ชายเลยพะย่ะค่ะ”
รัชทายาทเริ่มสนใจในทันที “เป็นสถานที่ที่สนุก! ครั้งหน้าเจ้าต้องพาข้าไปให้ได้”
“เอ่อ…” ซูอันรู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขาตอบรับแบบขอไปที “แน่นอน ครั้งหน้า ครั้งหน้า”
รัชทายาทจากไปด้วยความพอใจที่ได้รับคำสัญญาจากซูอัน
มีขันทีมาส่งข้อความถึงเขา จักรพรรดิได้เรียกซูอันไปเข้าเฝ้าที่ห้องหนังสือส่วนพระองค์
องค์หญิงรัชทายาทมองดูซูอันรีบร้อนออกไป ความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดปรากฏในดวงตาของนาง เหล่าสนมกำนัลในวังได้พบกับจักรพรรดิเพียงไม่กี่ครั้งต่อปี แต่ชายคนนี้ดูเหมือนจะถูกเรียกหาบ่อยครั้ง
คนแบบนี้มันน่าลงทุน แต่ข้าจะดึงเขาเข้ามาได้อย่างไร?
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างเจ้าสำราญ ดังนั้นกับดักน้ำผึ้งอาจจะได้ผล แต่ภรรยาของเขาเป็นสาวงามที่มีชื่อเสียง! เขาคงไม่สนใจผู้หญิงธรรมดา…
หืม… ข้าคงไม่ต้องลงไปด้วยตัวเอง ใช่ไหม?
…
ในขณะที่องค์หญิงรัชทายาทกำลังครุ่นคิด ซูอันได้มาถึงห้องหนังสือส่วนพระองค์ จักรพรรดิจ้องมองมาที่เขา ซูอันรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี “ตัวข้าจักรพรรดิมอบหมายงานให้เจ้าแทรกซึมเข้าไปในสำนักมาร เจ้าพบร่องรอยของอวิ้นเจียนเยว่แล้วหรือยัง?”
ซูอันรู้สึกถึงแรงกดดันของจักรพรรดิที่เล็งเป้ามาที่ตนเอง ดุร้ายพอที่จะทำให้เขาเงียบไปตลอดกาลหากพูดผิดแม้แต่คำเดียว ซูอันนึกสาปแช่งก่นด่าในใจ แค่เพราะเจ้ามีระดับการบ่มเพาะสูงเท่านั้นแหละถึงทำตัวกดขี่ผู้คนได้
เขารีบสงบอารมณ์ลง การบ่มเพาะระดับสูงทำให้แต่ละคนมีความพิเศษแตกต่างกันอย่างแท้จริง อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้
เขาโค้งคำนับและกล่าวว่า “ถวายพระพรฝ่าบาท กระหม่อมยังไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเจ้าสำนักมารเลยพะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิส่งเสียงไม่พอใจ “แล้วมีประโยชน์อะไรที่ข้าส่งเจ้าเข้าไปแทรกซึมสำนักมาร?”
ซูอันค่อนข้างไม่พอใจ ผู้ชายคนนี้เป็นคนใจร้อนเกินไปหรือเปล่า? “ฝ่าบาท ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับข่าวใด ๆ เกี่ยวกับเจ้าสำนักมาร แต่กระหม่อมพบว่าสำนักมารมีรังลับในเมืองหลวง”
หลังจากพูดคุยกัน เขาและอวิ้นเจียนเยว่ได้ตกลงกันไว้ แม้ว่าอวิ้นเจียนเยว่จะไม่รู้ว่าเขาได้รับภารกิจให้แทรกซึมสำนักมาร แต่นางรู้ว่าซูอันได้นำปัญหามาสู่ตัวเองทุกประการเพื่อช่วยเหลือนาง และนี่เป็นเพียงวิธีหนึ่งในการปกป้องเขา
สำหรับรังลับนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวหมากที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
“โอ้?” จักรพรรดิสงบลงเล็กน้อย “เจ้าทำได้ดี จงใช้ฐานะทูตยุทธ์เสื้อแพรเปิดโปงรังลับนั่นให้ได้”
ซูอันโค้งคำนับ “กระหม่อมเข้าใจแล้ว!” จักรพรรดิเป็นคนที่ระมัดระวังอย่างแท้จริง เขากำลังให้ข้าตรวจสอบสถานที่ที่ข้าบอก ถ้ามันเป็นเพียงพื้นที่รกร้างว่างเปล่า มันจะนำความสงสัยมาสู่ตัวข้าเอง
เจ้าคิดว่าเจ้านำหน้าไปแล้วหนึ่งก้าว แต่ข้านำหน้าเจ้าห้าก้าว! ข้าได้เดาความคิดของเจ้าไว้แล้ว มีสมาชิกสำนักมารอยู่ที่นั่นจริงและหลายคนก็เป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสูงภายในสำนัก! แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่ต่อต้านอวิ้นเจียนเยว่ เห็นได้ชัดว่านางคิดจะใช้กองกำลังของจักรพรรดิกวาดล้างพวกมันทั้งหมด
ผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าทั้งสิ้น!
แม้ว่าซูอันกำลังเย้ยหยันจักรพรรดิในใจ แต่เขาก็ยังยกย่องอวิ้นเจียนเยว่ นางอาจดูเหมือนเทพธิดา แต่แผนการของนางกลับเลวร้ายผิดกับรูปลักษณ์มาก
เขาต้องระวังคนพวกนี้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกหางเลขเข้าไปด้วยในสักวัน
จักรพรรดิพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วแสร้งทำเป็นว่ากล่าว “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีข้อพิพาทกับทายาทของราชันลมปราณ รู้หรือไม่ว่าการล่วงละเมิดข้าราชสำนักชั้นสูงนั้นร้ายแรงเพียงใด!?”
“เรื่องนี้กระหม่อมถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ นะพะย่ะค่ะ!” ซูอันตอบกลับอย่างรวดเร็ว “กระหม่อมไม่ได้ทำให้เขาขุ่นเคือง แต่เขาเป็นคนที่ใส่ร้ายกระหม่อม”
เขาอธิบายแผนการที่ทายาทของราชันลมปราณได้วางไว้ต่อจักรพรรดิ
“ดูเหมือนว่าจ้าวจื่อจะสืบทอดสติปัญญาของบิดามา น่าเสียดายที่เขายังเด็กเกินไป” จักรพรรดิเย้ยหยัน เมื่อมองไปที่ซูอันดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการสรรเสริญ “ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าจะมองผ่านกับดักทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแค่นั้น เจ้ายังทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานด้วย ค่อนข้างมีไหวพริบนะเจ้าหนู”