เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1034 ดัดแปลงเรื่องราวนิดหน่อย
บทที่ 1034 ดัดแปลงเรื่องราวนิดหน่อย
ทันใดนั้น องค์หญิงรัชทายาทลุกขึ้นและเริ่มเดินออกไป หลังจากอยู่ในวังเป็นเวลานาน นางมีความอ่อนไหวต่อเรื่องเหล่านี้โดยธรรมชาติ ข้างนอกมืดแล้วและไม่มีบุคคลที่สามอยู่ด้วย การอยู่ในห้องเดียวกับชายอื่นจะทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่
ซินรุ่ยเพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับชาถ้วยหนึ่ง เมื่อองค์หญิงรัชทายาทมาถึงทางเข้า นางจึงถามว่า “องค์หญิงรัชทายาท จะเสด็จกลับแล้วหรือเพคะ?”
องค์หญิงรัชทายาทถอนหายใจ “สนมไป่พยายามทำอะไร? ทำไมนางยังไม่มาอีก!”
นางเป็นองค์หญิงรัชทายาท ทำไมต้องรอสนมคนหนึ่ง? อย่างไรก็ตาม สนมไป่ได้ส่งคนมาส่งข้อความว่ามีวิธีแก้การทดสอบของรัชทายาท นั่นคือเหตุผลที่นางมารอด้วยความอดทน
แต่ผู้หญิงคนนั้นได้เชิญผู้ชายมาที่นี่ด้วย! แม้ว่านางจะคุ้นเคยกับซูอันอยู่แล้ว แต่การพูดคุยโต้ตอบในที่ส่วนตัวแบบนี้ยังคงทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย
ซินรุ่ยอธิบายว่า “องค์หญิงรัชทายาทโปรดสบายใจ พระสนมกำลังเตรียมอะไรบางอย่างและจะออกมาในไม่ช้า นางบอกให้ข้านำชาร้อยดอกไม้เหล่านี้มาถวายเพื่อเป็นการไถ่โทษเพคะ”
องค์หญิงรัชทายาทเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินคำว่า ‘ชาร้อยดอกไม้’ นางรู้จักชาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของสนมไป่และเคยดื่มมันสองสามครั้งก่อนหน้านี้ นางชื่นชอบรสชาติชาร้อยดอกไม้นี้มาก
แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกันของนางกับสนมไป่ นางจึงไม่สามารถลดความภูมิใจของตัวเองลงเพื่อขอแบ่งปันได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงแอบโหยหามัน จิ๊ ที่ข้าจะดื่มชานี่เพราะนางเสนอเองนะ… ข้ามาเยือนเพราะการทดสอบของรัชทายาท ไม่ใช่เพื่อดื่มชาต่ำต้อยของนาง!
“ก็ได้ ข้าจะรอนางสักครึ่งก้านธูป หลังจากนั้นข้าจะไปทันที” องค์หญิงรัชทายาทนั่งลงอีกครั้งและจิบชาหอมกรุ่นอย่างสง่างาม นางถอนหายใจด้วยความชื่นชม ไม่รู้จริง ๆ ว่าสนมไป่ชงชาที่อร่อยเช่นนี้ได้อย่างไร! นางเคยให้นางกำนัลพยายามลอกเลียนแบบมัน แต่ชาที่ได้กลับมีรสหวานจนน่าสะอิดสะเอียนอยู่เสมอ ขาดความเรียบง่ายตามธรรมชาติและความสง่างามเช่นชาร้อยดอกไม้นี้
ไม่นานนางก็ดึงคอเสื้อให้คลายออกเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว มองดูซูอันและถามว่า “วันนี้เจ้ารู้สึกว่ามันร้อนไปหน่อยไหม?”
ซินรุ่ยวางชาร้อยดอกไม้ไว้ข้างหน้าทั้งสอง แล้วจากไปพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนหวาน
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไรอีก เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการทดสอบของรัชทายาทจึงไม่สามารถให้คนอื่นได้ยินเกี่ยวกับการสนทนาได้ สำหรับซูอันเขายังคงเป็นสมาชิกวังตะวันออก ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่บุคคลภายนอก การมีเขาอยู่ด้วยอาจมีประโยชน์บางอย่าง
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ การที่สนมไป่เชิญจิบชาครั้งนี้ แม้ว่าจะเข้ากันไม่ได้ แต่ทั้งสองยังคงเป็นคู่ครองของรัชทายาท และสนมไป่ก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายของเขาด้วย โอกาสของรัชทายาทก็เป็นโอกาสของนางเช่นกัน ตอนนี้มีอันตรายเกิดขึ้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่นางจะทำอะไรแปลก ๆ
กลิ่นหอมอันสดชื่นหมุนวนรอบริมฝีปากของนางเมื่อยกถ้วยขึ้น เมื่อจิบชาเข้าไป ความอบอุ่นค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายและทำให้ความวิตกกังวลค่อย ๆ สงบลง
ซูอันกำลังดื่มชาเช่นกัน ในเวลาเดียวกันก็แอบสังเกตองค์หญิงรัชทายาท ดวงตาของนางสดใสและผิวของนางก็เรียบเนียน ริมฝีปากแดงอ่อน มีร่องรอยความเศร้าหมองจาง ๆ อยู่กลางหว่างคิ้ว เพิ่มความอ่อนโยนเล็กน้อยให้กับท่าทางวางอำนาจโดยปกติของนาง และสิ่งที่ทำให้ภาพนี้หาดูได้ยากยิ่งขึ้นก็คือแม้ในสถานการณ์แบบนี้ ท่วงท่าของนางก็ยังตั้งตรงและสง่างาม
ซูอันต้องยอมรับว่าองค์หญิงรัชทายาทมีความงามอันน่าทึ่ง ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่า ‘อาหารตา’ ไอน้ำที่หมุนวนจากชาร้อยดอกไม้ยิ่งเพิ่มความงดงามลุ่มลึกให้กับภาพหญิงงงามที่เหม่อมอง
แก้มขององค์หญิงรัชทายาทแดงก่ำเมื่อรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของเขา ผู้ชายคนนี้มีพฤติกรรมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเช่นนี้ได้อย่างไร?
—
ท่านยั่วยุปี่หลิงหลงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +22… +22… +22…
—
อย่างไรก็ตาม การพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้จะมีแต่ความเขินอายระหว่างทั้งสองเท่านั้น มันจะทำให้ยากที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันในอนาคต
นางเพิ่งสงสัยว่าจะผูกมัดเขาไว้กับฝ่ายรัชทายาทได้อย่างไร แต่ตอนนี้มันชัดเจนแล้ว ปี่หลิงหลงมีความงามตั้งแต่ยังเยาว์ ดังนั้นนางจึงเข้าใจการใช้ความงามให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ เป็นเพียงว่าไม่เคยมีสถานการณ์ใดที่ทำให้ต้องใช้มันมาก่อน
แน่นอนว่านางจะไม่ใช้กับดักน้ำผึ้งกับซูอัน นางเป็นองค์หญิงรัชทายาทผู้สูงส่ง ไม่ควรต้องลดตัวขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม นางยังคงสามารถใช้ความงามของนางและคอยพูดคำที่อ่อนโยนกับเขาได้
ริมฝีปากสีแดงอ่อนของนางเผยอเล็กน้อยเมื่อนึกถึงแผนการ นางถามว่า “ราชเลขาซู เจ้าพบกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่ได้อย่างไร?”
ซูอันตกตะลึง ไม่คิดว่าจู่ ๆ นางจะถามขึ้นมา “มันเป็นเรื่องบังเอิญ กระหม่อมกำลังล้างตัวเองในสระน้ำในพื้นที่ชนบท ทันใดนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งตกจากท้องฟ้าลงมาในอ้อมแขนของกระหม่อม”
“ฮะ?” เดิมทีองค์หญิงรัชทายาทวางแผนที่จะสนทนาแบบสบาย ๆ เพื่อใกล้ชิดกับเขามากขึ้น แต่นางเริ่มสนใจในทันทีเมื่อได้ยินคำตอบของเขา “คือฉู่ชูเหยียนเหรอ? ทำไมนางถึงตกลงมาจากฟ้า?”
เมื่อเห็นดวงตาที่เป็นประกายของปี่หลิงหลงซูอันคิดกับตัวเอง เจ้าเชื่อข้าจริง ๆ เหรอ? แต่เขาก็รู้สึกขบขันด้วย ดังนั้นเซียนคีย์บอร์ดตัวจริงจึงพูดพล่ามต่อไป “อ๋อ ตอนนั้นมีหน้าผาอยู่ใกล้ ๆ นางกระโดดลงมาพะย่ะค่ะ” ชูเหยียนที่รัก ข้าขอโทษที่ใช้เจ้าแบบนี้
“อะไรนะ? นางฆ่าตัวตายเหรอ?” องค์หญิงรัชทายาทกุมปากตัวเองไว้ นางนึกภาพว่าฉู่ชูเหยียนทำแบบนั้นไม่ได้จริง ๆ นางเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับฉู่ชูเหยียนมาก่อนว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่เป็นสาวงามที่ไม่ธรรมดา ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง คุณหนูฉู่ได้ละทิ้งทายาทผู้สูงศักดิ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่โหยหาทั้งวันทั้งคืนไว้เบื้องหลัง
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ นางยังเป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะอีกด้วย แทบไม่มีใครอยู่ในระดับเดียวกันในหมู่เพื่อนฝูงของนาง ทำไมผู้หญิงที่วิเศษเช่นนี้ถึงพยายามฆ่าตัวตาย?
“อา… กระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะนางถูกบังคับให้ต้องแต่งงาน เมื่อทุกความหวังพังทลายกลายเป็นฝุ่น นางตัดสินใจจบทุกอย่างพะย่ะค่ะ” ซูอันพูดอย่างไม่ใส่ใจ
องค์หญิงรัชทายาทตกใจมาก นางสงสัยว่าในตอนนั้นตระกูลไหนที่คุณหนูฉู่จะแต่งให้
หลังจากนั้นไม่นาน ปี่หลิงหลงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย นางเห็นใจกับสถานการณ์ของฉู่ชูเหยียนในท้ายที่สุด นางเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับคนโง่เง่าเพื่อวงศ์ตระกูล แต่นางไม่เด็ดเดี่ยวเหมือนฉู่ชูเหยียนที่ตัดสินใจจบเรื่องทั้งหมดด้วยความตายได้
“แล้ว?” นางถามขึ้นด้วยความสลดใจ
“จากนั้น กระหม่อมบังเอิญช่วยนาง…” ซูอันยกเนื้อหาของเรื่องไททานิคมาดัดแปลง…