เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1041 เส้นทางลับ
บทที่ 1041 เส้นทางลับ
เหล่าทูตยุทธ์เสื้อแพรเริ่มพูดคุยกันเอง แต่ทุกคนเริ่มไม่แน่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้หญิงคนนั้นได้หายตัวไปต่อหน้าต่อตาผู้คนมากมาย! นางคงไม่ได้เป็นภูติผีหรืออะไรทำนองนั้นใช่ไหม?
พวกเขาสูญเสียความมั่นใจหลังจากได้เห็นอะไรประหลาด ๆ ในขณะเดียวกัน ซูอันได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่เก็บต๋าจี่ได้ทันเวลา ในตอนแรก เขากังวลว่าตัวเองอาจจะพลาด แต่โชคดีที่ระบบคีย์บอร์ดยังคงเชื่อถือได้เช่นเคย
ในระหว่างนี้ เขาและองค์หญิงรัชทายาทถูกพาตัวออกจากวงล้อมแล้ว ซูอันรู้ดีว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว จากท่าทางที่ยอมจำนนในตอนแรก จู่ ๆ เขาโจมตีทูตยุทธ์เสื้อแพรสองคนที่ใกล้ที่สุดด้วยปลายนิ้ว ส่งผลให้ทั้งสองล้มลงกระแทกพื้นในทันที
ทูตยุทธ์เสื้อแพรอีกสองคนตกใจ ดึงกระบี่ที่เอวและพุ่งเข้าใส่พวกเขา อย่างไรก็ตาม ซูอันนั้นเร็วกว่ามาก เขาพุ่งไปข้างหน้าและผลักกระบี่กลับเข้าไปในฝัก ทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งสองตระหนักว่าการบ่มเพาะของซูอันนั้นทรงพลังและไม่ใช่อะไรที่พวกเขาสามารถรับมือได้ ทูตยุทธ์เสื้อแพรต่างเอื้อมมือไปที่เข็มกลัดเพื่อจะเตือนคนอื่น
แต่ทันใดนั้น ทั้งสองคนก็ล้มลงกับพื้นในพริบตา ซูอันเงยหน้าขึ้นและเห็นสีหน้าที่พึงพอใจขององค์หญิงรัชทายาทซึ่งยืนอยู่เหนือร่างของทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งสองที่เพิ่งล้มลง
“อะไร? ข้าก็เป็นผู้บ่มเพาะเหมือนกัน!” องค์หญิงรัชทายาทกล่าว นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความภาคภูมิใจ
ซูอันกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขานั่งลงตรวจสอบทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งสอง “พระองค์สังหารพวกเขาเหรอ?”
องค์หญิงรัชทายาทดูประหลาดใจ “ทำไม? หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าควรจะชวนพวกเขาไปงานเลี้ยงปีใหม่หรืออะไรแบบนั้นแทน?” นางหยิบกระบี่ขึ้นมาและจัดการทูตยุทธ์เสื้อแพรอีกสองคนที่ซูอันได้โจมตีจนหมดสติก่อนหน้านี้
ซูอันหายใจถี่เร็วขึ้น “สองคนที่ท่านสังหารตอนแรกเราไม่มีทางเลือก แต่สองคนนี้หมดสติไปแล้วไม่ได้เป็นภัยคุกคามกับเรา อีกทั้งพวกเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์! ทำไมท่านถึงต้องฆ่าพวกเขาด้วย?”
ซูอันเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรเช่นกันและถือคติไม่ฆ่าคนโดยไม่จำเป็น ทุกคนมีความเป็นคนเท่ากัน และการหาเลี้ยงชีพไม่ใช่เรื่องง่าย การฆ่าคนสองคนที่กำลังจะใช้เข็มกลัดเตือนคนอื่นเป็นเรื่องที่จวนตัวเข้าใจได้ แต่ทูตยุทธ์เสื้อแพรที่สลบไปแล้วนั้นไม่จำเป็นต้องฆ่าเลย
“ผู้บริสุทธิ์งั้นเหรอ? ข้าเองก็ใช่! แต่ทำไมไม่เห็นมีใครปกป้องข้าบ้างเลย!” องค์หญิงรัชทายาทพูดอย่างเย็นชา พยายามข่มใจที่ซูอันพูดจาไม่สุภาพด้วยแรงอารมณ์ “ถ้าเราปล่อยให้พวกมันมีชีวิตอยู่ พวกมันย่อมรู้ว่าเราเป็นผู้โจมตี จูเซี่ยฉือซินจะสงสัยในตัวตนของเราอย่างแน่นอน”
“การฆ่าพวกเขา อย่างน้อยข้าก็ป้องกันไม่ให้จูเซี่ยฉือซินรู้ว่าพวกเขาตายอย่างไร พวกเขาอาจถูกปิดปากโดยผู้บ่มเพาะที่ผ่านมา และบางทีเราอาจถูกผู้บ่มเพาะคนนั้นจับไป ความคลุมเครือของเรื่องนี้สามารถช่วยทำให้จูเซี่ยฉือซินเข้าใจผิด ถือเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือไง?”
ซูอันรู้ว่าองค์หญิงรัชทายาทพูดจามีเหตุผล อย่างไรก็ตาม เขายังคงไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่านางฆ่าคนบริสุทธ์ได้
น้ำเสียงขององค์หญิงรัชทายาทอ่อนลงเมื่อเห็นท่าทีไม่พอใจของเขา “ข้าก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกันรู้ไหม? ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เราสองคนก็จบสิ้น นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่เราเท่านั้น แม้แต่ตระกูลของเราก็จะถูกกวาดล้าง ข้าไม่คิดว่าเจ้าต้องการทำร้ายตระกูลฉู่และคุณหนูใหญ่ภรรยาของเจ้าใช่ไหม?”
ใบหน้าของซูอันไร้อารมณ์ “พอแล้ว พระองค์ไม่จำเป็นต้องอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้กระหม่อมฟังอีก พวกเรารอดแล้ว แยกกันตรงนี้แล้วกลับไปจัดการเรื่องของตัวเองกันเถอะพะย่ะค่ะ” เขาพูดขณะที่หันหลังกลับเพื่อจะจากไป ปี่หลิงหลงเม้มริมฝีปากด้วยความขัดแย้งภายใน ก่อนจะวิ่งไปคว้าแขนเสื้อของเขา
“พระองค์กำลังทำอะไรอยู่?” ซูอันขมวดคิ้วมองนาง
องค์หญิงรัชทายาทเอ่ยว่า “วังกำลังวุ่นวาย มีทหารอยู่ทุกที่ ข้าจะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไปมาได้อย่างไร? เจ้าช่วยพาข้ากลับไปที่วังตะวันออกได้ไหม?”
ตอนนี้นางสวมเสื้อผ้าของฉู่ชูเหยียน ถ้ามีคนรู้ว่านางออกไปจากตำหนักแล้วกลับมาด้วยเสื้อผ้าของคนอื่น ข่าวลือจะไม่แพร่สะพัดไปทุกหนทุกแห่งเหรอ? ในตอนนั้นคงเป็นจุดจบของนางเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ซูอันสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร แต่นางก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไว้ใจได้ ด้วยการคุ้มครองของเขา มีโอกาสสูงที่นางจะกลับไปยังวังตะวันออกได้อย่างปลอดภัย
ซูอันเข้าใจความต้องการของนาง หลังจากถอนหายใจยาวเขาพูดว่า “ได้ กระหม่อมจะพาพระองค์กลับไป แต่หลังจากนั้นกระหม่อมจะกลับทันที” องค์หญิงรัชทายาทแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องห่อนางด้วยผ้าและอุ้มไว้อีกต่อไป เขาจับมือนางแล้วใช้ตราหยกบงการสัตว์รอบตัวค้นหาอันตรายในบริเวณใกล้เคียง
องค์หญิงรัชทายาทมองที่มือของนาง รู้สึกได้ถึงความร้อนที่มาจากมือของซูอัน แก้มของนางแดงก่ำ หลังจากลังเลเล็กน้อย นางตัดสินใจปล่อยให้เขาจับมือนางไว้โดยไม่ขัดขืน
ขณะที่ทั้งสองเดินไป พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงทหารทั้งหมดได้ ตอนนี้เห็นโครงสร้างของวังตะวันออกได้ลาง ๆ แล้ว แต่จู่ ๆ ซูอันได้หยุดกะทันหัน “การรักษาความปลอดภัยของวังตะวันออกนั้นเข้มงวดมาก กระหม่อมคิดว่าคงผ่านเข้าไปได้ยากยิ่ง”
“เราไม่สามารถเข้าไปจากด้านหน้าได้ ตามข้ามา” องค์หญิงรัชทายาทพูดอย่างอ่อนโยน จากนั้นนางก็จับมือเขาแล้วเดินไปที่บ่อน้ำ “มีใครอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ไหม?” นางมองไปรอบ ๆ และถามอย่างไม่สบายใจ
ซูอันส่ายหัว “ที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปสิบจั้ง มีกำแพงและต้นไม้บังสายตาเอาไว้”
“งั้นก็ดี” ปี่หลิงหลงถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางจับมือซูอันและพูดว่า “กระโดดลงไปกับข้า”
ซูอันรู้สึกสับสน แต่องค์หญิงรัชทายาทได้กระโดดลงไปในบ่อน้ำแล้ว ดังนั้นเขาจึงกระโดดตามนางไป ทันทีที่เขากำลังจะตกลงไปในน้ำก็มีมือหนึ่งเอื้อมมาจับเขาไว้ จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีแท่นเหยียบที่ไม่โดดเด่นฝังอยู่ด้านในผนังของบ่อน้ำ และองค์หญิงรัชทายาทยืนอยู่ตรงนั้น
“นี่คือเส้นทางลับของวังตะวันออก เมื่อมีอันตรายใช้หลบหนีได้อย่างรวดเร็ว” ปี่หลิงหลงพูดพลางบิดกลไกเปิดประตูหิน
ซูอันพยักหน้า เขาเคยเห็นสิ่งที่คล้ายกันในละครของโลกก่อนหน้านี้และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วทำไมพระองค์ไม่พยายามหนีระหว่างการโจมตีครั้งที่แล้วล่ะ?”
องค์หญิงรัชทายาทตอบว่า “การโจมตีเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป องค์รัชทายาทกับข้าเพิ่งจะกลับมาจากข้างนอก เราเลยไม่มีเวลากลับเข้าไปในตำหนัก”
ขณะที่พากันเดิน เขาสังเกตเห็นว่าเพดานทางเดินนั้นสูงพอ ๆ กับตัวคน มีลูกปัดเรืองแสงฝังอยู่ลึกเข้าไปในผนัง ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะมองเห็นทาง เขารู้สึกถึงเส้นทางที่คดเคี้ยวขึ้นในขณะที่ยังคงพากันเดินไป
ปี่หลิงหลงหยุดและพูดว่า “ข้างหน้าคือที่ที่ข้านอน”
ซูอันพยักหน้า “ในเมื่อกระหม่อมพาพระองค์มาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว กระหม่อมขอลา”
แต่องค์หญิงรัชทายาทเอื้อมมือไปคว้าตัวเขาไว้ก่อน “เจ้าเข้าไปข้างในกับข้าก่อนเถอะนะ ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย”
ซูอันรู้สึกสับสน