เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1061 โหดเหี้ยมอย่างไร้ปัญญา
บทที่ 1061 โหดเหี้ยมอย่างไร้ปัญญา
“ข้าทำเรื่องน่าละอายต่อหน้าคุณหนูใหญ่ฉู่แล้ว ฮ่า ๆ” มู่หรงซิ่วรู้สึกอับอาย และในที่สุดก็หยุดพูดคุย เขาชี้ให้สาวใช้ประคองมู่หรงชิงเหอ
ฉู่ชูเหยียนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันหลังกลับไปพร้อมกับฉู่โหยวเจา มู่หรงซิ่วมึนงงชั่วขณะขณะที่เขามองดูร่างที่สง่างามเดินจากไป
มู่หรงชิงเหออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หยุดมองได้แล้ว นางไปแล้ว”
มู่หรงซิ่วคร่ำครวญ “เด็กอย่างเจ้าจะรู้อะไรเกี่ยวกับรักแท้บ้าง?”
“แต่คุณหนูใหญ่ฉู่แต่งงานแล้ว!” มู่หรงชิงเหอกลอกตา เจ้ากำลังหมายปองภรรยาของผู้อื่นหรือไม่?
“แม่นางฉู่ได้หย่าร้างกับคนแซ่ซูแล้ว” มู่หรงซิ่วอธิบายอย่างรวดเร็วราวกับว่าคำพูดของนางเป็นการใส่ร้ายเทพธิดาของเขา “นอกจากนี้ ด้วยความงาม สถานะ และความสามารถของคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ ข้าไม่รังเกียจเลยแม้ว่านางจะเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว คนที่ข้าชอบคือนาง ไม่ว่านางจะเป็นอะไร ข้าก็ยังชอบนาง”
มู่หรงชิงเหอจ้องมองพี่ชายของตัวเองเป็นเวลานาน ในท้ายที่สุด นางอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เจ้านี่นับวันยิ่งบ้าบอไปทุกที”
มู่หรงซิ่วขมวดคิ้ว “ด้วยเจตจำนงอันแรงกล้า ใคร ๆ ก็สามารถบรรลุสิ่งที่หวังได้ เด็กดื้ออย่างเจ้าจะมาเข้าใจอะไร?”
มู่หรงชิงเหอเลิกคิ้ว มองดูพี่ชายอย่างเห็นอกเห็นใจ เจ้าไม่รู้หรือว่าเทพธิดาของเจ้ากับซูอันมีความสัมพันธ์กันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่เจ้ายังคงพูดพล่ามเกี่ยวกับเจตจำนงอะไรอยู่อีก?
จริง ๆ แล้วเมื่อคืนมู่หรงชิงเหอตื่นขึ้นมากลางดึก การบ่มเพาะของนางสูงกว่าของฉู่โหยวเจาทำให้นางมีสติเร็วกว่าอีกฝ่าย
นางรู้สึกคอแห้งเล็กน้อย หันรีหันขวางมองหาน้ำดื่ม เมื่อเดินผ่านห้องของฉู่โหยวเจา นางสังเกตเห็นว่าประตูไม่ได้ปิดสนิท และพี่ฉู่ชายในดวงใจของนางนอนอยู่ข้างใน
ความลุ่มหลงดูเหมือนจะเข้าครอบงำนางเมื่อนึกถึงใบหน้าที่หล่อเหลาของพี่ฉู่ นางแอบเข้าไปและเริ่มพิศมองดูแก้มขาวและริมฝีปากสีแดงของเขา หัวใจของนางเต้นอย่างบ้าคลั่ง โลกนี้มีผู้ชายที่สวยขนาดนี้ได้อย่างไร!
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดนางก็ไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจได้ และก้มหน้าลงไปจุมพิตริมฝีปากบางของเขาอย่างลับ ๆ แม้ว่าปกติแล้วนางจะเป็นคนหยาบกระด้างและตรงไปตรงมา แต่มู่หรงชิงเหอยังคงเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง นางกังวลว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาและรู้สึกผิดอย่างยิ่งที่ทำเช่นนี้ลงไป
ทันใดนั้น นางตกใจเมื่อได้ยินเสียงจากด้านข้าง อย่างไรก็ตามเสียงนั้นแปลกและน่ารำคาญมาก นางอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นและเดินไปที่หน้าต่างเพื่อแอบดู
โลกอันสวยงามของมู่หรงชิงเหอแตกเป็นเสี่ยง ๆ นั่นยังคงเป็นพี่สาวฉู่ที่นางจำได้หรือไม่!? ผู้หญิงที่เชื่อฟังและว่าง่ายต่อสามีคนนี้เป็นคนเดียวกับฉู่ชูเหยียนที่เย็นชาต่อหน้ามู่หรงซิ่วพี่ชายของนางจริงเหรอ?
เมื่อนึกถึงเรื่องทั้งหมดนี้แล้วมองไปที่พี่ชายของตัวเอง ดวงตาของนางจึงเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกว่าควรเตือนเขาอีกครั้งว่าเทพธิดาของเขาเป็นของชายอื่นไปโดยสมบูรณ์แล้ว
ทันใดนั้น มู่หรงซิ่วก็พูดว่า “ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนี้ล่ะ? เจ้าควรจะช่วยข้าสิ ถ้าข้าได้คุณหนูฉู่มาก่อนและกลายเป็นพี่เขยของฉู่โหยวเจา ข้าจะสามารถช่วยเจ้าได้มากกว่านี้! การที่เจ้าจะได้ตกร่องปล่องชิ้นกับเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วไม่ใช่หรือไง?”
ดวงตาของมู่หรงชิงเหอเป็นประกาย เข้าท่าดีนี่! งั้นข้าจะไม่บอกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
…
แน่นอนว่า ซูอันไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหน้าประตูตระกูลมู่หรง หลังจากค่ำคืนที่สวยงาม เขารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า เปลี่ยนชุดราชเลขาของรัชทายาทแล้วเข้าวังทันที
เมื่อไปถึงตำหนักตะวันออก เขาทักทายเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคืนเป็นไงบ้าง?”
ทั้งสองคนไม่ทักทายตอบแต่กลับเดินรุกเข้ามาหาอย่างต่อเนื่อง ซูอันรู้สึกประหลาดใจ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?
เสียงที่หงุดหงิดและโกรธเคืองดังออกมาจากข้างใน “ไอ้คนแซ่ซูมาแล้วเหรอ! จับกุมตัวมันมาให้ข้ารัชทายาทเดี๋ยวนี้!”
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนทำอะไรไม่ถูกได้แต่จับกุมซูอันเท่านั้น ทั้งสองเตือนเขาเสียงเบาว่า “ท่านต้องอดกลั้นไว้ จะต่อสู้กับองค์รัชทายาทไม่ได้! ไม่อย่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ยากที่จะคาดเดา” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีคนถูกรัชทายาทเฆี่ยนถึงตายจำนวนมาก นั่นคือเหตุผลที่ทั้งสองเตือนซูอันทันที
ซูอันขมวดคิ้ว เมื่อไรกันที่เขาทำให้คนอ้วนจอมโง่เง่านั่นขุ่นเคือง?
พวกเขาเข้าไปในตำหนักอย่างรวดเร็ว รัชทายาทนั่งบนเก้าอี้สูงในขณะที่ขันทีน้อยสองคนคอยป้อนองุ่นแก่เขา เมื่อคนอ้วนหันมาเห็นก็หยิบจานผลไม้เขวี้ยงใส่หัวของซูอันทันที
โชคไม่ดีที่ความแม่นยำของการปานั้นต่ำต้อยอย่างน่าเวทนา มันจึงตกลงไปโดนใบหน้าของเผี่ยวตวนเตียว ซึ่งได้แต่ตกตะลึงไม่กล้าแสดงความไม่พอใจใด ๆ ออกมา
เมื่อถูกองุ่นและผลไม้ที่กระจัดกระจายสาดใส่ สีหน้าของซูอันก็มืดหม่น เจ้าอ้วนนี่โกรธเคืองอะไรข้ากันแน่?
“เจ้ากล้าที่จะล่วงเกินหลิงหลงเหรอ!” รัชทายาทตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “ข้าจะทุบตีชายผู้เลวทรามนี้จนตาย!”
—
ท่านยั่วยุจ้าวรุ่ยจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +888… +888… +888…
—
ซูอันไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนโง่เง่าคนนี้จะให้คะแนนความโกรธแค้นได้มากมายขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่สติปัญญาย่ำแย่ แต่เมื่อนึกถึงว่าขนาดเด็กอมมือก็รู้วิธีปกป้องของเล่นของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงรัชทายาทเป็นของเล่นที่มีค่าและสำคัญที่สุดสำหรับเจ้าอ้วนผู้นี้
เขาทำได้เพียงพยายามอธิบายว่า “องค์รัชทายาทเข้าพระทัยผิดแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างกระหม่อมกับองค์หญิงรัชทายาท นี่คือสิ่งที่พระบิดาของพระองค์และแม้แต่ราชันลมปราณได้สอบสวนแล้ว แม้แต่ผู้เบิกเท็จเองก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของกระหม่อมได้ ถ้าองค์รัชทายาททรงไม่เชื่อ ทรงถามพวกเขาได้พะย่ะค่ะ”
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนพูดอย่างรวดเร็วว่า “เป็นเรื่องจริงแท้แล้ว องค์รัชทายาท มีคนร้ายที่พยายามหลอกพระองค์! ท่านซูเป็นผู้บริสุทธิ์” ทหารทั้งสองซึ่งซูอันมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย ช่วยกันพูดแทนเขา
รัชทายาทคำรามออกมา “ข้าไม่สน! ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ใครก็ตามที่ล่วงเกินหลิงหลงจะต้องตาย!”
—
ท่านยั่วยุจ้าวรุ่ยจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444… +444… +444…
—
เมื่อซูอันได้เห็นสีหน้าที่น่ากลัวของชายอ้วนที่อยู่ตรงหน้า เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เคยได้ยินว่ามีขันทีและนางกำนัลหลายคนถูกชายอ้วนคนนี้ฆ่าตาย เขาเกือบจะถูกหลอกโดยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูว่าง่ายของรัชทายาทในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา และลืมไปว่าจ้าวรุ่ยจื่อผู้นี้โหดเหี้ยมอย่างไร้สติได้แค่ไหน
“อะไร? ทำไมพวกเจ้าไม่ทำอะไรเลย? พวกเจ้าทั้งหมดสมรู้ร่วมคิดกับมันหรือไม่?” รัชทายาทคำรามอย่างโกรธจัดใส่คนอื่น ๆ ในห้อง “ถ้ายังไม่เชื่อฟังข้า พวกเจ้าทุกคนจะถูกลงโทษเช่นเดียวกัน!”
บริวารของตำหนักตะวันออกต่างมองหน้ากันอย่างตกตะลึง พวกเขาพูดกับซูอันเบา ๆ ว่า “ท่านซู ขอโทษด้วย ช่วยอดทนหน่อยนะ” นี่เป็นเพราะซูอันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านี้ ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนทุบตีจนสาหัสแล้ว
………………….