เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1079 เขาก็แค่ยาอายุวัฒนะ
บทที่ 1079 เขาก็แค่ยาอายุวัฒนะ
………………….
บทที่ 1079 เขาก็แค่ยาอายุวัฒนะ
“เด็กคนนั้นค่อนข้างเก่งเรื่องอย่างว่า” จักรพรรดินีถอนหายใจ “แต่เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่ถูกผู้ชายปราบง่ายอย่างนั้นเหรอ?” นางลืมตา สีหน้าท่าทางที่มีเสน่ห์เมื่ออยู่กับซูอันหายไปแล้ว ถูกแทนที่ด้วยรูปลักษณ์ที่เยือกเย็นและน่าเกรงขามตามปกติ
ขันทีลู่ถอนหายใจ นี่คือหลิวหนิงที่เขาคุ้นเคยอย่างที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม เขายังเต็มไปด้วยความคับข้องใจ บนเตียงนั่นเจ้าถูกเด็กคนนั้นปราบลงอย่างราบคาบ แน่นอนว่าเขาคงไม่โง่ถึงขนาดพูดสิ่งที่คิดออกมา เขาถามว่า “แล้วทำไมเจ้าถึงห้ามไม่ให้ฆ่าเขาล่ะ? ผิดแผนอะไรหรือเปล่า?”
จักรพรรดินีกลับมาสู่รูปลักษณ์ที่เย่อหยิ่งและสง่างามตามปกติ “ข้ารู้จากฉู่ชูเหยียนว่าเส้นลมปราณทั้งหมดของนางจะถูกทำลายในมิติลับ แต่ตอนที่นางออกมา นางกลับหายเป็นปกติ นอกจากนี้การบ่มเพาะของนางยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย”
“ฉู่ชูเหยียนและซูอันต่างก็บอกว่าเป็นเพราะดอกบัวเร้นลักษณ์ แต่เรารู้ว่าดอกบัวเร้นลักษณ์นั้นสามารถเพิ่มการบ่มเพาะได้เท่านั้น มันจะซ่อมแซมเส้นลมปราณที่ถูกทำลายอย่างรุนแรงได้ยังไง?”
“ด้วยความอยากรู้ ข้าถามฉู่ชูเหยียนเพิ่มเติม เมื่อพิจารณาจากความลังเลและความเขินอายของนางแล้ว ในมิติลับนั้นทั้งสองคนกลายเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง”
“จากข่าวทั้งหมดที่หามาได้ ทั้งสองควรแต่งงานในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นั้น ทั้งคู่ก็สนิทสนมกันอย่างไม่น่าเชื่อ ฉู่ชูเหยียนก็ยอมรับเขาอย่างสมบูรณ์ ข้าไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่โดดเด่นอย่างฉู่ชูเหยียนจะถูกปราบเพียงเพราะนางมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย ต้องมีเหตุผลอื่นร่วมด้วยอย่างแน่นอน”
“หลังจากเชื่อมโยงกับการกู้คืนเส้นลมปราณที่สมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อของนาง ข้าคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมแสดงความรักของพวกเขา เจ้ารู้ไหมว่าข้าหมดความหวังในการฟื้นตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แม้แต่ความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยก็คุ้มค่าที่จะลอง”
“แม้ว่าข้าจะเดาผิด มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังมาหลายปีแล้ว คงเหมือนได้ลองทำเรื่องสนุกสักครั้ง แต่ตอนนี้ข้ารู้ว่าความสงสัยของข้าถูกต้อง แก่นแท้โลหิตของชายคนนี้สามารถบำรุงและซ่อมแซมเส้นลมปราณได้อย่างแน่นอน”
ดูเหมือนว่าหลิวหนิงกำลังอธิบาย แต่ก็เหมือนกับว่ากำลังแยกแยะความคิดของตัวเอง ในเวลาเดียวกันดูเหมือนว่านางจะระบายความผิดหวังต่อจ้าวฮั่นออกมา
ขันทีลู่ตื่นเต้นเช่นกัน “ในเมื่อเราประสบความสำเร็จแล้ว ทำไมไม่ฆ่าเขาตามแผนล่ะ? ตอนนี้ยังทันนะถ้าข้ารีบตามไป”
หลิวหนิงส่ายหน้า สีหน้าของนางค่อนข้างแปลก “สิ่งต่าง ๆ แตกต่างจากที่เราคิดเล็กน้อย การผ่านประสบการณ์เพียงครั้งเดียวไม่ทำให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ อาการของข้าต้องการการรักษาที่ยืดเยื้อ เส้นลมปราณที่ได้รับความเสียหายก่อนหน้านี้ได้รับการบำรุงแล้ว มีสัญญาณของการฟื้นตัว แต่ครั้งเดียวยังไม่เพียงพอ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉู่ชูเหยียนและซูอันมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันหลังจากนั้น นางเป็นเด็กไร้เดียงสา มันจะแปลกกว่านี้ถ้านางไม่ชอบเด็กคนนั้น”
สีหน้าของขันทีลู่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อได้ยินว่าจำเป็นต้องมี ‘การรักษาแบบต่อเนื่อง’ เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วเจ้าล่ะ? จะค่อย ๆ ชอบเขาด้วยหรือเปล่า?”
จักรพรรดินีพูดอย่างเฉยเมยว่า “เจ้าคิดว่าข้าเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาหรือไง? เจ้ารู้ว่าข้าเป็นอย่างไร และรู้ว่าข้าต้องการอะไร แม้แต่จ้าวฮั่นผู้บ่มเพาะอันดับหนึ่งของโลกยังไม่สามารถปราบข้าได้ แล้วตัวตนเล็ก ๆ อย่างซูอันจะจัดเป็นอะไรได้? เขาจะเป็นอะไรไปมากกว่ายาอายุวัฒนะที่มีประโยชน์”
ถ้าซูอันอยู่ที่นี่ เขาจะได้เห็นด้านที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงของผู้หญิงคนที่บอกเขาอย่างอ่อนโยนเหมือนลูกแมวก่อนหน้านี้ อย่างที่รู้กันมา ยิ่งผู้หญิงสวยเท่าไร พวกนางก็ยิ่งโกหกเก่งขึ้นเท่านั้น
จักรพรรดินีและขันทีลู่คิดว่าตัวเองทำสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว แต่ทั้งสองจะรู้ได้อย่างไรว่ามันไม่ใช่เลย ตอนที่รักษาฉู่ชูเหยียน ซูอันไม่ได้ทำแค่ร่วมรักเพียงอย่างเดียว แต่เขายังใช้วิชาปฐมบทแรกเริ่มเพื่อซ่อมแซมเส้นลมปราณที่เสียหายของนางด้วย
ซูอันไม่รู้วัตถุประสงค์ของจักรพรรดินี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ช่วยนางรักษาอาการบาดเจ็บ ด้วยเหตุนี้จักรพรรดินีจึงได้รับเพียงการบำรุงเลี้ยงจากแก่นแท้โลหิตของเขาเท่านั้น โชคดีที่เขามีความสามารถเหนือธรรมชาติ ดังนั้นสเปิร์มของซูอันจึงมีคุณสมบัติอันทรงพลัง เป็นสาเหตุที่จักรพรรดินีได้รับผลประโยชน์เช่นกัน ทำให้นางหลงคิดว่าได้พบวิธีการรักษาตัวเองที่แท้จริงแล้ว
หลิวหนิงหาวก่อนจะโบกมืออีกครั้งและพูดว่า “เจ้าไปได้แล้ว ข้าเหนื่อยจริง ๆ”
เด็กคนนั้นเป็นสัตว์ร้ายที่แข็งแรงจริง ๆ! นางถูกเหวี่ยงกระแทกกระทั้นไปมาจนไม่มีเรี่ยวแรงเหลือ หลังจากใช้แรงใจพูดคุยกับลู่ฉีจนจบ เปลือกตาของนางปิดลงทันที
ขันทีลู่ถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีพึงพอใจที่จักรพรรดินีมีก่อนผล็อยหลับไป เขาเดินไปดึงผ้าห่มขึ้นเบา ๆ ให้กับนางก่อนจะจากไปอย่างเงียบ ๆ
ซูอันได้กลับไปที่ตำหนักถักแพรเพื่อพักผ่อนแล้ว เขายังคงรู้สึกทึ่งกับร่างกายของสาวใหญ่ นางสามารถทนต่อมันได้ตลอดทั้งคืน! สาวน้อยทั้งหลายคงอยู่ได้ไม่นานขนาดนี้ เขาและนางเป็นการจับคู่กันอย่างทัดเทียมจริง ๆ
ซูอันรำลึกถึงประสบการณ์รักเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มคิดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของจักรพรรดินี
เขาคงไม่เชื่อว่าจักรพรรดินีต้องการเขาเพียงเพราะเหงา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง นางสามารถหาคนอื่นได้อย่างง่ายดายแทนที่จะรอเขามาตลอด
ปฏิกิริยาของร่างกายนางไม่สามารถหลอกใครได้ ในตอนแรก นางได้แสดงท่าทีอ่อนแอราวกับเด็กสาวไร้เดียงสา แต่ในที่สุด นางค่อย ๆ กลับมาเป็นผู้หญิงที่เจนจัดในสนามรัก เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ที่นางทำกิจกรรมรักครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถเข้าใจเป้าหมายของนางได้ การทำอย่างนี้สามารถแก้แค้นจักรพรรดิได้จริงเหรอ?
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองที่นางมีต่อจักรพรรดิได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ เมื่อนางล่อลวงเขา นางก็ใช้การแก้แค้นนี้ยั่วยุเขา ใช่ นี่เป็นเหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุด
เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะมันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือการแข็งแกร่งขึ้น… ข้าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้
เมื่อคิดถึงทักษะทั้งหมดที่เขามี ทักษะที่ยกระดับการบ่มเพาะได้มากที่สุดก็คือ ‘วิชาเทพยุทธ์กลืนสวรรค์’ ที่มีความสามารถในการดูดซับการบ่มเพาะของผู้อื่น อย่างไรก็ตาม หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย เขาเลิกคิดที่จะใช้วิธีนี้ในที่สุด
ด้วยการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะดูดซับการบ่มเพาะของผู้บ่มเพาะธรรมดา การบ่มเพาะของเขาจะไม่ดีขึ้นมากนักและพลังชี่ก็จะไม่บริสุทธิ์เช่นกัน เขายังคงจำได้ถึงผลข้างเคียงของมหาเวทย์ดูดดาวในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรที่ว่ายิ่งดูดกำลังภายในของอีกฝ่ายมามากเท่าไรก็ยิ่งก่อให้เกิดไฟพิษเผาผลาญตัวเองสะสมไปทุกวัน ไม่รู้ว่าวิชาเทพยุทธ์กลืนสวรรค์จะเหมือนกันหรือไม่ แต่เขาก็รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยนัก
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ถ้าเขาต้องการดูดซับการบ่มเพาะของใครก็ตาม มันจะต้องมาจากผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาอยู่ในเมืองหลวง สถานที่ที่ดวงตานับไม่ถ้วนจับจ้องอยู่ หากเขาไม่ระวังและถูกเปิดโปงอาจจะทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นศัตรู!
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็ต้องบ่มเพาะอย่างหนักหน่วง แล้วทำไมเขาถึงต้องขโมยผลจากงานหนักของคนอื่นล่ะ? นอกจากนี้ผู้คนต่างหวาดกลัวที่จะถูกดูดจนแห้ง ดังนั้นทั้งหมดจึงต้องร่วมมือกันกำจัดเขาก่อนเป็นอันดับแรก
นั่นคือกรณีของแม่ชียุง แม้ว่าการบ่มเพาะอันทรงพลังและทักษะการเอาตัวรอดทำให้นางสามารถอยู่มารอดได้ แต่นางก็ต้องอาศัยอยู่ในเงามืดเสมอ ชีวิตเช่นนั้นก็ไร้ความหมายเช่นกัน
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ซูอันไม่เต็มใจที่จะเลือกเส้นทางเดียวกัน เว้นแต่จะจำเป็นจริง ๆ
………………….