เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1080 พี่หญิงใหญ่กลับมาแล้ว!
………………….
บทที่ 1080 พี่หญิงใหญ่กลับมาแล้ว!
เขาเริ่มคิดถึงทางเลือกอื่น ทันใดนั้น เขาก็หยิบม้วนกระดาษออกมาจากด้านในของดวงแก้วผู้รอบรู้ด้านบนมีคำว่า ‘คัมภีร์ควบแน่นพลังชี่’
นี่เป็นวิธีกลั่นเม็ดยาที่เขาได้รับมาก่อน แต่ในตอนนั้น เขาไม่ได้ปลุกทักษะการปรับแต่งโอสถธาตุไฟ นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเจ้าสิ่งนี้ถึงได้วางฝุ่นเกาะอยู่ในดวงแก้วผู้รอบรู้ตลอดเวลา จนเขาเกือบลืมมันไปแล้ว
ตอนนี้เขาต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง นอกจากนี้ เขายังสามารถยืมทักษะธาตุไฟของต๋าจี่ได้อีกด้วย นี่เป็นเหตุผลที่เขาจำคัมภีร์ควบแน่นพลังชี่นี้ได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่ายาควบแน่นพลังชี่ เหล่านี้สามารถเพิ่มการบ่มเพาะของเขาได้มากแค่ไหน อาจไม่ได้ช่วยอะไรมากเหมือนกับผลไม้พลังชี่ ท้ายที่สุด ปริมาณผลพลังชี่ที่จำเป็นในการเพิ่มการบ่มเพาะของเขานั้นสูงอย่างเหลือเชื่อ
ซูอันตัดสินใจที่จะลองดู เขาจำเนื้อหาในม้วนกระดาษได้แล้ว และรวบรวมส่วนผสมที่จำเป็นทั้งหมดมาระยะหนึ่งแล้ว จัดเตายาในห้องแล้วเรียกต๋าจี่ออกมา
เขาต้องยอมรับว่าต๋าจี่สวยเกินไป แม้ว่าตอนนี้นางจะไม่มีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง และแววตาไม่มีชีวิตจิตใจแม้แต่น้อย เหมือนกับภาพวาดที่สวยงามแม้ว่านางจะยืนเฉย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเพราะนางขาดจิตสำนึกของตัวเองไม่มีเสน่ห์ยั่วยวนเหมือนในตำนาน แต่กลับมีบรรยากาศที่ห่างไกลเกินเอื้อมมากกว่า
ผมยาวและเสื้อผ้าที่พลิ้วไสว นางเป็นเหมือนเทพธิดาจากสวรรค์จริง ๆ
น่าเสียดายที่ข้าทำได้แค่มอง… ซูอันถอนหายใจ เขาจดจ่อและควบคุมต๋าจี่อย่างรวดเร็ว ทำให้นางหมอบลงข้างเตายา และเริ่มกลั่นยาในเตาหลอมอย่างช้า ๆ
ถ้าคนอื่นรู้ว่าเขาใช้ผู้หญิงที่สวยจนแทบบ้าเป็นสาวใช้แบบนี้ คงอ้าปากค้างจนกรามแทบหลุด ถึงอย่างนั้นเขาก็โยนความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปในทันที เขาไม่กล้าแสดงความประมาทในขณะที่ทำตามสูตรของยาควบแน่นพลังชี่
แต่การที่ไม่ได้ควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ทำให้มีควันดำออกมา เมื่อซูอันเปิดฝาออก ก็เห็นว่าส่วนผสมถูกเผาจนกลายเป็นกากสีดำแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาประมาทเกินไป แต่การประสบความสำเร็จในการลองครั้งแรกนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้มากนัก ดังนั้นเขาจึงพยายามอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
เกิดความล้มเหลวอีกหลายครั้ง… สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นทุกครั้ง
ทันใดนั้น ในความพยายามครั้งที่เก้า กลิ่นหอมได้โชยออกมาจากเตายา มันแตกต่างจากกลิ่นปกติเพราะเพียงแค่กลิ่นนี้เพียงอย่างเดียวก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาแล้ว
ซูอันเปิดเตา มียาเม็ดสีน้ำตาลขนาดเท่าไข่นกพิราบขนาดเล็กสองเม็ดอยู่ด้านใน
โชคของข้าไม่เลวเลย! ดวงตาของซูอันเป็นประกาย สูตรที่บันทึกไว้ของคัมภีร์ควบแน่นพลังชี่ ต้องใช้ส่วนผสมสองส่วนในแต่ละครั้ง ซึ่งจะทำให้อัตราความสำเร็จดีขึ้นเล็กน้อย แม้ว่ายาเม็ดหนึ่งจะถูกทำลาย อย่างน้อยก็ยังมีอีกหนึ่งเม็ด โอกาสที่จะสำเร็จทั้งคู่ค่อนข้างต่ำมาก
เขาหยิบยาเม็ดหนึ่งขึ้นมาแล้วกลืนลงไป สัมผัสได้ถึงกระแสน้ำอุ่นที่ไหลเข้ามา แผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาก่อนที่จะหายไป
ซูอันตกใจ แค่นี้เหรอ? ทำไมถึงไม่รู้สึกแตกต่างเลย?
เมื่อตรวจสอบตัวเองอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าปริมาณของเหลวสีทองในอักขระไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แต่ก็เพียงเล็กน้อย อย่างน้อยที่สุดเขาก็ตรวจไม่พบอะไรที่เพิ่มขึ้นมา
อย่าบอกนะว่ายาควบแน่นพลังชี่เหล่านี้แย่ยิ่งกว่าผลไม้พลังชี่? เขาลงทุนลงแรงเพื่อสิ่งนี้ แต่นี่คือผลลัพธ์งั้นเหรอ? เขาไม่ยอมรับและตรวจสอบตัวเองอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขายังเห็นผลลัพธ์เหมือนเดิม
ทันใดนั้น เสียงเย็นชาก็พูดข้างหูของเขาว่า “ยานี้ไม่ได้มีไว้สำหรับเพิ่มพลังชี่ของเจ้า แต่สำหรับช่วยให้เจ้ากลั่นและปรับแต่งพลังชี่ จากนั้นจะเปลี่ยนพลังชี่ของเจ้าให้มีสถานะเป็นของเหลว ด้วยวิธีนี้ร่างกายเดียวกันจะสามารถเก็บพลังชี่ได้มากขึ้น”
ซูอันมองไปทางหน้าต่างด้วยความตกใจและประหลาดใจ เขาเห็นสาวงามในชุดสีแดงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ใบหน้าอันไร้ที่ติของนางดูน่าทึ่งอย่างยิ่ง การปรากฏตัวของนางให้บรรยากาศลึกลับ อิสระ และห่างไกล
“พี่หญิงใหญ่!” ซูอันแทบไม่อยากเชื่อสายตา นางหลับไปนานมากจนนานแล้วที่ไม่ได้พบกันเลย
หมี่ลี่ยกมือดันหน้าอกของเขา หยุดเขาไม่ให้วิ่งเข้าหานางอย่างกระตือรือร้น “อย่าแม้แต่จะคิด ข้าได้กลิ่นจิ้งจอกบนตัวเจ้า”
ซูอันยิ้มด้วยความเขินอายและพูดว่า “ท่านรู้ทุกอย่างแล้ว” ทำไมเขารู้สึกราวกับว่าถูกภรรยาจับได้?
หมี่ลี่ยิ้มอย่างคลุมเครือ “พวกเจ้ารุนแรงกันขนาดนั้น ข้าจะไม่รู้ได้ยังไง? ข้ารู้สึกว่าพลังชี่ของเจ้าพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งในขณะที่ข้าหลับและคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเจ้า แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้ากำลังคลุกเคล้ากับนังจิ้งจอก เจ้าเป็นอะไรมากไหม? ทำไมถึงหลับนอนกับจักรพรรดินีแห่งโลกนี้ได้?”
แก้มของซูอันร้อนผ่าว “มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด ข้าทำให้ท่านตกอยู่ในอันตรายไปด้วย”
หากมีเพียงเขาคนเดียว นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ชะตากรรมของหมี่ลี่เชื่อมโยงกับเขา เขาได้ยั่วยุผู้บ่มเพาะที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกนี้ด้วยอารมณ์ชั่วครู่ ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยทั้งสองจะพากันวอดวาย นี่เป็นเหตุผลที่เขารู้สึกผิด
หมี่ลี่กลอกตา “สิ่งที่เจ้าทำคือการหลับนอนกับจักรพรรดินี แต่เจ้ากลับกำลังหวาดกลัว ดูสิว่าเจ้าทำตัวน่าผิดหวังแค่ไหน?”
ซูอันพูดไม่ออก เจ้าหมายถึงอะไร ที่ข้าทำก็แค่นอนกับจักรพรรดินี อะไรนะ มีจักรพรรดินีอีกสองสามคนที่ข้าสามารถหลับนอนได้เหรอ?
หมี่ลี่กล่าวว่า “ข้าได้ยินการสนทนาส่วนใหญ่ของเจ้ากับนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นด้วย ข้าคิดว่าเจ้าคงถูกจักรพรรดิรังแกมา และเมื่อวานเจ้าก็ถูกโบยด้วย เพราะเจ้าโกรธเลยมาลงที่จักรพรรดินีงั้นสิ?”
ซูอันรู้สึกอับอายในขณะที่พูด “ท่านเลยเห็นด้านที่น่าสงสารของข้า”
หมี่ลี่ยังคงจริงจังในขณะที่กล่าวว่า “ไม่ ข้าคิดว่าเจ้าทำได้ดีทีเดียว”
ซูอันรู้สึกสับสน เขาไม่รู้จริง ๆ ว่า หมี่ลี่โกรธจริง ๆ หรือว่านางกำลังพูดจาแดกดันเขา
หมี่ลี่สามารถมองผ่านความคิดของเขาได้ นางพูดว่า “พูดตามตรง เจ้าถูกกำหนดให้เป็นชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ จะมากลัวเรื่องเล็กน้อยได้ยังไง? จักรพรรดิได้ทำทุกอย่างที่เขาต้องการกับเจ้า เมื่อเวลาผ่านไปเขาอาจทิ้งเงาไว้ในใจเจ้า ทำให้เจ้ากลัวเกินกว่าจะสู้กับเขา”
“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เมื่อการบ่มเพาะของเจ้าต่ำกว่า แต่ในระดับที่สูงขึ้นของการบ่มเพาะ มันจะส่งผลกระทบต่อเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจกลายเป็นปีศาจภายในที่จะขัดขวางไม่ให้เจ้าก้าวหน้าไปได้”
ซูอันสะดุ้งตกใจ “มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หมี่ลี่ตอบกลับ “ผู้บ่มเพาะระดับต่ำเช่นเจ้าบ่มเพาะร่างกายและพลังชี่เมื่อเจ้าไปถึงระดับที่สูงขึ้น จุดเน้นหลักคือการบ่มเพาะจิตวิญญาณ การบ่มเพาะจิตวิญญาณต้องใช้เจตจำนงอันทรงพลัง เมื่อจิตใจของแข็งแกร่งขึ้นจะทำให้จิตวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นได้ง่ายขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีช่องว่างในจิตใจเจ้า ปัญหาในการบ่มเพาะก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย”
………………….