เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1090 ความสงสัย
บทที่ 1090 ความสงสัย
……….
บทที่ 1090 ความสงสัย
ซูอันตกตะลึง แต่เขายังคงตอบว่า “ข้ากลัวว่าในวังจะมีไม่กี่คนที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร”
ฮูหยินราชันลมปราณตอบ “หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวระหว่างมันกับองค์หญิงรัชทายาท คงจะยากที่ใครจะไม่รู้จักมัน”
ซูอันกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกลางว่า “เรื่องนี้ได้รับการสอบสวนแล้ว มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด เขาถูกใส่ร้าย ฮูหยินจะพูดอะไรโปรดระวังด้วย” เขาเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรที่ทำหน้าที่โดยตรงภายใต้จักรพรรดิ จำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรีของราชวงศ์ไว้ในสถานการณ์แบบนี้
“ไม่มีอะไรที่เป็นความลับตลอดไป” ฮูหยินราชันลมปราณกล่าวเย้ยหยัน “ชายแซ่ซูนั่นช่างโอหังจริง ๆ ถ้ากล้าแม้แต่จะทุบตีลูกชายของข้า แล้วจะมีเรื่องไหนบ้างที่มันไม่กล้า?”
—
ท่านยั่วยุปี่ฟางหัวสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999… +999… +999…
—
เจียงลั่วฝูยิ้ม นางนึกถึงบางสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองเมืองจันทร์กระจ่างก่อนหน้านี้ ซูอันย่อมไม่ทำในสิ่งที่คาดเดาได้
ซูอันกระแอม ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงคนนี้มีความแค้นที่รุนแรง แต่ข้าสงสัยว่านางจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าพบว่าคนที่ทุบตีลูกชายของนางอยู่ตรงหน้านี่เอง
ฮูหยินราชันลมปราณถามคำถามอีกสองสามข้อ และซูอันก็ตอบคำถามเหล่านั้นอย่างสบาย ๆ ในท้ายที่สุด เมื่อนางเห็นว่าไม่มีข้อมูลที่มีประโยชน์ใด ๆ นางจึงหยิบถ้วยชาขึ้นมาและแสดงท่าทางให้คนรับใช้พาซูอันออกไป
ในระหว่างการโต้ตอบสั้น ๆ ของพวกเขา ซูอันก็ได้รับข้อมูลที่ต้องการเช่นกัน เขาลุกขึ้นและบอกลานาง
“ไม่ต้องตรวจสอบอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้หรอก เชื่อข้าเถอะ ไม่มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ซูอันและองค์หญิงรัชทายาทมีส่วนพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวนั้นจริง ๆ” ฮูหยินราชันลมปราณกล่าวเสริม
…
“สัญชาตญาณของผู้หญิงคนนั้นน่ากลัวทีเดียว” หมี่ลี่หัวเราะคิกคักเมื่อพวกเขาออกจากคฤหาสน์
ซูอันประกาศว่า “องค์หญิงและข้าเป็นผู้บริสุทธิ์”
“ฮะ!” หมี่ลี่ย่อมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับองค์หญิงรัชทายาท แม้ว่าทั้งสองคนจะโอบกอดกันแบบเปลือยเปล่า แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ด้วยความเข้าใจของนางที่มีในตัวซูอัน บางสิ่งบางอย่างอาจเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองในไม่ช้า
ซูอันไม่รู้สึกอยากรบกวนนางอีกต่อไปและทำท่าจะเดินออกไปทันที เมื่อหมี่ลี่เห็นเขาไม่สนใจ นางอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ตอนนี้ข่าวจากทางคฤหาสน์ราชันลมปราณก็ถึงทางตันแล้ว เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป? เวลาที่จักรพรรดิมอบให้ใกล้จะหมดลงแล้ว”
ในความคิดของนาง การเดินทางมายังคฤหาสน์ของราชันลมปราณนั้นไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง เพราะซูอันไม่สามารถสืบสวนอะไรเกี่ยวกับราชันลมปราณได้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม
“ยังคงมีเงื่อนงำให้ตรวจสอบ” ซูอันกล่าวยิ้ม
หมี่ลี่เลิกคิ้ว “ยังไง?”
ซู่อันพูดได้เพียงว่า “อันที่จริง มีบางอย่างที่ข้าสงสัยมาโดยตลอด และการเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อยืนยันสิ่งนั้น จากการโต้ตอบของข้ากับฮูหยินราชันลมปราณ สิ่งที่ข้าคิดได้รับการยืนยันแล้วจริง ๆ”
หมี่ลี่ขมวดคิ้ว นางยังไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของจักรพรรดินีผู้ชาญฉลาด นางไม่ต้องการลดระดับตัวเองลง จึงไม่ได้ถามต่อไป
โชคดีที่ซูอันพูดต่ออย่างระมัดระวัง “ปมของคดีนี้อยู่ที่ซินรุ่ยตั้งแต่แรก มีสิ่งหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดผู้บงการจึงลงทุนมหาศาลเพื่อส่งซินรุ่ยออกจากวัง ทำไมถึงซื้อตัวโอวอู่ของประตูเซวียนอู๋แล้วช่วยครอบครัวของเขาด้วย”
หมี่ลี่เป็นคนฉลาดเช่นกัน ดังนั้นนางจึงตอบสนองอย่างรวดเร็ว “จริงด้วย อันที่จริง แค่ฆ่านางแล้วโยนศพลงบ่อมั่ว ๆ ที่ไหนซักแห่งก็น่าจะได้แล้ว ยังไงในวังก็มีนางกำนัลและขันทีมากมายที่ตายอย่างลึกลับ สืบสวนหาสาเหตุอะไรไม่ได้ ดังนั้นเพื่อเห็นแก่นางกำนัลเล็ก ๆ ถึงกับต้องเสียสละแม่ทัพผู้รับผิดชอบประตูเซวียนอู๋ซึ่งเป็นตัวหมากที่สำคัญ มันไม่คุ้มกันเลย”
ซูอันพยักหน้า “ใช่ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าคิดว่าผู้บงการทำอย่างนั้นด้วยเหตุผลอื่น แม้ว่าในตอนนี้การสืบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยเบาะแสของซินรุ่ย แต่ข้ารู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่แน่นอน ถ้านางตายก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องพานางออกจากวังเพื่อปิดปาก”
“ทั้งที่เจ้ารู้เรื่องทั้งหมดนี้แล้ว แต่มันช่วยอะไรได้? ในเมื่อเจ้าก็ยังหานางไม่เจอ” หมี่ลี่อดไม่ได้ที่จะพูด
ซูอันยิ้ม “แน่นอนว่ามันมีประโยชน์ เนื่องจากซินรุ่ยยังไม่ตาย นี่หมายความว่าสมาชิกในครอบครัวของนางก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน เราอาจหานางไม่เจอ แต่การหาครอบครัวของนางอาจไม่ใช่เรื่องยากนัก”
หมี่ลี่ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทำไมเจ้าชอบพูดจาเป็นปริศนา น่ารำคาญยิ่งนัก อธิบายให้มันชัดเจนได้ไหม? คิดว่าข้าจะไม่กล้าฟาดเจ้าสักผัวะเหรอ?” แม้ว่าจะไม่อยากทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่นางก็ไม่สามารถต้านทานความอยากรู้อยากเห็นได้ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจพูดตรง ๆ
ซูอันพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ดุร้ายมาก ไม่น่าแปลกใจเลย แม้แต่ฉินซีหวงยังต้องขังนางไว้ เขาทำได้เพียงพูดว่า “ท่านจำที่ข้าเคยพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ในครอบครัวของนางได้ไหม?”
หมี่ลี่ขมวดคิ้ว “แม่ของนางเป็นเพียงคนธรรมดา แต่น้องชายคนเล็กของนาง…” ดวงตาของหมี่ลี่เป็นประกาย “…ชอบเล่นการพนัน!”
“ใช่แล้ว ผู้ที่หมกมุ่นในการพนันย่อมจะอดใจเล่นไม่ได้นาน ข้าได้ให้คนตรวจสอบบ้านเดิมของตระกูลฮัวแล้ว พวกเขาไม่กลับไปที่นั่นอีก ผู้คนจะเลือกอยู่ในสถานที่ที่ตัวเองคุ้นเคยโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากพวกเขาไม่ได้กลับบ้านเดิมจึงน่าจะยังคงอยู่ในเมืองหลวงหรือมณฑลที่อยู่ใกล้เมืองหลวง ตราบใดที่เราตรวจสอบศูนย์กลางการพนันในบริเวณใกล้เคียง เราน่าจะได้เบาะแสอะไรบ้างในไม่ช้า”
หมี่ลี่อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แต่นี่มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการวัดดวง แล้วถ้าพวกเขาไปที่ไหนสักแห่งที่ห่างไกลจากเมืองหลวงล่ะ?”
ซูอันถอนหายใจ “ในเมื่อไม่มีเบาะแสอื่น ตอนนี้อะไรทำได้ก็ควรต้องทำไปก่อน ถ้าพวกเขาไปที่อื่นจริง ๆ ก็นับว่าข้าโชคร้าย แต่ถึงท่านจะว่าข้าไร้ความสามารถ แต่มีสองสิ่งที่ข้ามีดวงที่สุด อย่างแรกคือการเอาชีวิตรอด ข้าผ่านสถานการณ์ที่ควรจะตายมานับครั้งไม่ถ้วน ทำไมข้าถึงจะมาล้มเหลวในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้”
หมี่ลี่พยักหน้า “อะไรอีกอย่าง?”
หมี่ลี่ตกตะลึง จากนั้นนางก็หน้าแดง “ไอ้เด็กเลว กล้าแกล้งข้าเหรอ? เจ้าควรตัดไอ้สิ่งโสโครกนั่นออก!”
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +66… +66… +66…
—
ซูอันหัวเราะเบา ๆ และวิ่งออกไปทางประตูหน้า สีหน้าของทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่นเปลี่ยนไปเมื่อเห็นเขาวิ่ง ทั้งหมดชักดาบและทำท่าจะพุ่งมาข้างหน้า
“หัวหน้า เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านถูกคนของคฤหาสน์ราชันลมปราณไล่ล่างั้นเหรอ?”
…
ซูอันรู้สึกอบอุ่นในใจ แม้ว่าคนภายนอกอาจรู้สึกว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรนั้นน่ากลัว แต่จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกัน เขาสามารถบอกได้ว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรหลายคนมีหัวใจที่อบอุ่นอยู่ภายใน
“อย่ากังวล เรายังอยู่ภายใต้บัญชาของโอรสสวรรค์ คฤหาสน์ราชันลมปราณจะทำอะไรกับข้าได้?” ซูอันยักคิ้วให้หมี่ลี่ จักรพรรดินีแห่งราชวงศ์ฉินมองอย่างหงุดหงิด จากนั้นนางก็กลายเป็นควันหายกลับไปในกระบี่ไท่เอ๋อร์
……….