เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1092 หลุดมือ
บทที่ 1092 หลุดมือ
……….
บทที่ 1092 หลุดมือ
บรรดาขันทีรีบไปถามเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนเกี่ยวกับซูอันเพราะพวกเขารู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองกับซูอันนั้นใกล้ชิดที่สุด
ทั้งสองมองดูกลุ่มขันทีด้วยความสงสาร “วิธีที่เราสนิทสนมกับท่านซู… ข้าเกรงว่าขันทีจะเลียนแบบไม่ได้” แน่นอนว่าการพาพวกเจ้าไปที่หอคณิกาจะเป็นการเสียเงินเปล่า
…
แม้ว่าคนอื่นจะอิจฉา แต่ซูอันกลับงุนงงแทน เกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดิ? เขาพบปะกับข้ามากกว่าที่ได้พบกับภรรยาของเขา! ซูอันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดอยู่บ้าง เพราะตัวเองเพิ่งทำงานให้กับภรรยาของจักรพรรดิอย่างขยันขันแข็งตลอดทั้งคืน
เมื่อเขามาถึงห้องหนังสือส่วนพระองค์ การแสดงออกของขันทีเหวินเป็นมิตร บ่งบอกว่าอารมณ์ของจักรพรรดิค่อนข้างดี ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ถวายพระพรฝ่าบาท!” เมื่อก่อนซูอันรู้สึกหวาดกลัวและกังวลอยู่เสมอเมื่อใดก็ตามที่เข้าสู่ห้องหนังสือส่วนพระองค์ เขารู้สึกอยู่เสมอว่าผู้ที่อยู่บนบัลลังก์มังกรนั้นสูงส่งและทรงอำนาจ ราวกับว่าเทพจากสวรรค์กำลังพิพากษาอยู่
แต่ตอนนี้ แม้ว่ารัศมีของจักรพรรดิจะสง่างามพอ ๆ กัน แต่ซูอันสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน รอยย่นที่หางตารวมถึงผมสีขาวที่มองเห็นได้จาง ๆ เผยให้เห็นว่าแม้เขาจะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลกแต่ก็ยังเอาชนะพลังแห่งกาลเวลาไม่ได้
“เจ้ามองหัวของข้าทำไม?” จักรพรรดิขมวดคิ้ว รู้สึกได้อย่างดีว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการจ้องมองของซูอัน เขาเอามือสัมผัสศีรษะของตัวเองแต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น
ซูอันคิดกับตัวเอง ‘ข้ากำลังดูหมวกสีเขียวที่เจ้าสวมอยู่!’ แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพูดคำนั้นออกมาดัง ๆ เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า “ข้าพระองค์ทึ่งในอำนาจบารมีของฝ่าบาท แม้จะสวมชุดลำลองก็ยังให้ความรู้สึกราวกับมีมงกุฎที่มองไม่เห็นสวมอยู่บนพระเศียร”
รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจักรพรรดิ แม้แต่บุคคลที่ทรงพลังที่สุด ตราบใดที่พวกเขายังเป็นมนุษย์ก็ยังชอบที่จะได้ยินคำสรรเสริญตัวเอง
“คำเยินยอไม่มีประโยชน์ การสืบสวนคดีขององค์หญิงรัชทายาทเป็นอย่างไร? เมื่อหมดเวลาที่ให้ไว้แล้ว หากเจ้ายังไม่ค้นหาความจริง จักรพรรดิองค์นี้จะไม่ผ่อนปรนอย่างแน่นอน” แม้ว่าจักรพรรดิจะอารมณ์ดี แต่เขาก็ไม่แสดงออกมาให้เห็นภายนอกเลยกลับทำสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจด้วยซ้ำ
ซูอันคุ้นเคยกับวิธีที่ชายคนนี้แสดงออกอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลเหมือนเมื่อก่อน “ทูลฝ่าบาท มีผลการสอบสวนบ้างแล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้…”
จากนั้นเขาก็บอกจักรพรรดิเกี่ยวกับโอวอู่ มู่หรงหลัวและสิ่งอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น แต่เขายังไม่ได้พูดถึงน้องชายคนเล็กของซินรุ่ย
เขาไม่ได้กลัวว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่นจะแอบบอกอะไรจักรพรรดิ แต่เป็นเพราะเขายังไม่ได้รับข้อสรุปใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่เขาจะไม่รายงานในสิ่งที่เขาไม่แน่ใจ
“ประตูเซวียนอู๋ ประตูฉงเหวิน…” ดวงตาของจักรพรรดิหรี่ลง เขาคิดกับตัวเองว่ามือของจ้าวจิ่งนั้นล้วงลึกลงมาอีกขั้น ประตูทั้งสองล้วนเป็นตำแหน่งที่สำคัญ
“เจ้าทำได้ดีมาก ออกไปได้แล้ว” จักรพรรดิหลับตา ไม่จำเป็นต้องคุยกันว่าเขาจะทำอะไรกับข้อมูลกับคนสารเลวคนนี้ ซูอันไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้เรื่องพวกนี้
“เข้าใจแล้ว!”
…
เมื่อซูอันออกจากห้องหนังสือส่วนพระองค์ เขารู้สึกราวกับว่าความแค้นทั้งหมดที่สะสมอยู่ได้หายไปในทันที
จักรพรรดิยังเป็นมนุษย์ไม่ใช่เทพเจ้า แม้ว่าญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของเขาครอบคลุมทั่วทั้งพระราชวัง แต่เขาไม่ได้รอบรู้ไปทุกอย่าง! ข้ายังจำได้ชัดเจนว่าทำอะไรกับจักรพรรดินีเมื่อคืนนี้ แต่จักรพรรดิองค์นี้ยังคงปฏิบัติกับข้าเหมือนเป็นข้ารับใช้ตามปกติ ทุกสิ่งที่เคยน่ากลัวกลับดูน่าหัวเราะไปแทบทั้งหมด
เจ้าเป็นแค่คนขี้แพ้ในสายตาของข้า วันหนึ่งการบ่มเพาะของข้าจะเหนือกว่าเจ้า
“ดูซิว่าเจ้าอวดดีแค่ไหน มีใครอีกนอกจากเจ้าที่จู่ ๆ ก็มีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากหลับนอนกับผู้หญิง? ทันใดนั้น หมี่หลี่ก็ปรากฏตัวขึ้นพลางกลอกตาให้เขา
สีหน้าของซูอันเปลี่ยนไป “ท่านอ่านความคิดของข้าได้เหรอ?”
หมี่ลี่ตะคอก “ราวกับว่าข้าต้องอ่านความคิดของเจ้าเพื่อรู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่คนโง่ก็สามารถเดาได้ว่าเจ้าดูมีจิตใจสูงส่งเพียงใด”
ซูอันมองนางอย่างใจเย็น จากนั้นเขาจงใจคิดกับตัวเองว่า สักวันหนึ่งข้าจะเปลื้องผ้าเจ้าจนล่อนจ้อน!
หมี่ลี่ขมวดคิ้ว ฝ่ามือของนางฟาดไปที่ใบหน้าของซูอัน อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เขาหลบเลี่ยงได้อย่างหวุดหวิด
“เฮอะ! เจ้ากำลังใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่ข้าสอนมารับมือกับข้าอยู่สินะ…” หมี่ลี่กัดฟัน นางเริ่มโกรธมากขึ้น
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233… +233… +233…
—
ซูอันร้องเสียงดังทันที “ไหนท่านบอกว่าอ่านความคิดของข้าไม่ออก!”
“สีหน้าของเจ้ามันผิดปกติ!” หมี่ลี่เน้นเสียง “ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังคิดเรื่องไร้สาระกับข้าอยู่” นางไม่สามารถหยุดตัวเองไว้ได้ จักรพรรดินีแห่งราชวงศ์ฉินควบคุมกระบี่ไท่เอ๋อร์ให้ตีศีรษะของเขาต่อไป
นางกำนัลและขันทีที่อยู่ใกล้เคียงอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกันเอง
“ท่านผู้แทนองค์รัชทายาทกำลังฝึกอยู่เหรอ? ทำไมดูท่าทางแปลก ๆ”
“หัวของเขาแข็งจริง ๆ แม้จะโดนกระบี่เล่มนั้นฟาดครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ปูดโปนหรือว่าแตกเลย”
“เขาคงกำลังฝึกทักษะการควบคุมอาวุธอยู่ใช่ไหม?”
…
ทูตยุทธ์เสื้อแพรได้ข่าวน้องชายของซินรุ่ยในวันต่อมา คนของพวกเขาพบน้องชายคนเล็กของนางที่บ่อนในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม บุคคลดังกล่าวได้อาศัยความวุ่นวายในบ่อนพนันหลบหนีไปได้
“อะไรนะ!?” ซูอันโกรธมาก ทูตยุทธ์เสื้อแพรที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจเหล่านี้ได้ปล่อยให้คนติดการพนันธรรมดา ๆ หนีไปได้จริงเหรอ?
ซูอันคำราม “ใครเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้? จับกุมทุกคนที่เกี่ยวข้อง!”
ความเข้าใจแรกของเขาคือ คิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับทูตยุทธ์เสื้อแพร มิฉะนั้นฮัวเป่าจะหนีไปได้อย่างไร?
ทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งสองรายงานว่า “ผู้รับผิดชอบในครั้งนี้คือท่านเซียว เขาขังสมาชิกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคดีไว้ในคุกประจำเมืองทันที”
ทูตยุทธ์เสื้อแพรเงินสองคนที่ซูอันพูดด้วยมีชื่อที่แปลกประหลาดว่า ไต่ที่เจ็ดและเฉินที่แปด พวกเขาทำงานร่วมกับซูอันมาตลอดในคดีนี้
พวกเขาทั้งคู่ยังค่อนข้างเด็ก แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะมีปัญหาเรื่องผมอยู่บ้าง ทรงผมของไต่ที่เจ็ดดูคล้ายรูปตัว M จอนปิดเลยหูในขณะที่เฉินที่แปดนั้นตรงกันข้าม หัวของเขาโล้นจากตรงกลางเหมือนเกาะกลางทะเล ซูอันคิดว่าตัวเองได้พบกับเพื่อนที่เป็นโปรแกรมเมอร์ในชีวิตที่แล้วในครั้งแรกที่พบหน้าเฉินที่แปด
สำหรับเซียวเจียนเริ่นคนนี้ที่กำลังพูดถึง เป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรเงินอีกคนหนึ่ง เขาได้ให้คำแนะนำบางอย่างในระหว่างการสืบสวนคดีของซินรุ่ย ดังนั้นเขาจึงเป็นคนที่ฉลาดเฉียบแหลม ทำให้ซูอันประทับใจอย่างลึกซึ้ง
นอกเหนือจากทูตยุทธ์เสื้อแพรทองที่ลึกลับกว่า ชื่อของทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น ๆ ไม่จัดเป็นความลับ อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็เป็นที่รู้จักในหมู่ทูตยุทธ์เสื้อแพร
……….