เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1117 ยืมอะไรแล้วต้องคืน
บทที่ 1117 ยืมอะไรแล้วต้องคืน
ซูอันยิ้มเมื่อเขาเห็นว่าพวกพ้องมีความสุขแค่ไหน เขาเคยใช้เวลาในฐานะทาสขององค์กรจึงเข้าใจอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำงานคืออะไร แม้ว่าทุกคนจะมีความภักดีในฐานะทูตยุทธ์เสื้อแพร แต่ก็ยังมีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดูที่บ้าน
เซียวเจียนเริ่นรู้สึกประหลาดใจ ทูตยุทธ์เสื้อแพรมักจะเย็นชาและเข้มงวด ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองคนอื่น ๆ ล้วนไม่แยแสผู้ใต้บังคับบัญชาเท่ากับท่านสิบเอ็ด แม้ว่าจะมีรางวัลให้บ้างในบางครั้ง มันก็เป็นเพียงการเอาใจผู้ใต้บังคับบัญชาแบบผ่าน ๆ เท่านั้น แต่เขาสามารถบอกได้ว่าท่านสิบเอ็ดปรารถนาดีต่อพวกพ้องอย่างยากที่จะพบเห็น
ทั้งหมดไปเบิกเงินด้วยความคึกคัก ซูอันใช้โอกาสนี้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโอวอู่
เมื่อซูอันออกจากตำหนักถักแพร เขาเปลี่ยนชุดปกติและมุ่งหน้าไปยังพระราชวังตะวันออก
เขาถอนหายใจ การมีตัวตนมากมายเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยจริง ๆ มันจะดีมากถ้าเขาสามารถโคลนตัวเองได้ เดี๋ยวนะ ถ้าข้าโคลนตัวเองจะถือว่าหลอกตัวเองมั้ย? เขายังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับคำถามนี้ตลอดทาง และมาถึงวังตะวันออกโดยไม่รู้ตัว
“ฮึ่ม! ท่านซูของเรายังจำได้ว่าต้องรายงานการเรียกขานงั้นเหรอ? เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้เวลาเท่าไรแล้ว? หรือว่าเจ้าไม่คิดจะปฏิบัติต่อข้าและองค์รัชทายาทด้วยความเคารพแล้ว?” องค์หญิงรัชทายาทพูดอย่างเย็นชา วันนี้นางมีเรื่องจะคุยกับซูอัน หลังจากประสบการณ์นั้น เขากลายเป็นคนเดียวที่นางสามารถพูดคุยเกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างได้
อย่างไรก็ตาม เขายังคงมาไม่ถึง แม้ว่านางจะรอมานานก็ตาม! นางโกรธจริง ๆ นอกจากนี้ชายคนนี้ดูเหมือนจะไม่เคยมาทำงานตรงเวลาเลย
—
ท่านยั่วยุปี่หลิงหลงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +56 +56 +56…
—
ซูอันทำความเคารพและกล่าวว่า “รายงานองค์หญิงรัชทายาท! วันนี้กระหม่อมออกมายังพระราชวังหลวงแต่เช้าแล้ว แต่ได้ถูกมือสังหารลอบโจมตีระหว่างทางพะย่ะค่ะ!”
“อะไรนะ? เจ้าถูกโจมตี?!” ปี่หลิงหลงยืนขึ้นทันที นางใช้สายตาตรวจสอบบาดแผลของเขา แต่นางสังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของนางกำนัลรอบตัวอย่างรวดเร็ว นางกระแอมเบา ๆ เพื่อซ่อนความอายและนั่งลง “เจ้าบาดเจ็บเหรอ? ใครกันที่ต้องการเอาชีวิตเจ้า”
“กระหม่อมแค่บาดเจ็บเล็กน้อย” ซูอันยิ้ม จากนั้นจึงสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นให้นางฟัง
องค์หญิงรัชทายาทคิดว่าคนร้ายเป็นเพียงอันธพาลเมื่อเห็นว่าซูอันสบายดี แต่เมื่อนางได้ยินว่ามีนักฆ่าเดนตาย หน้าไม้มหากาฬ และแม้แต่ผู้บ่มเพาะสามคนที่ขั้นสูงสุดของระดับเจ็ด สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างมาก “ไหนเจ้าบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่? เจ้าจะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้ยังไง?”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “กระหม่อมโดนศรจากหน้าไม้มหากาฬ แต่ชีวิตยังปกติดี ตอนนั้นรู้สึกแย่มาก แต่ตอนนี้กระหม่อมสบายดีพะย่ะค่ะ”
“ฮะ?” องค์หญิงรัชทายาทต้องการตรวจสอบบาดแผลด้วยตัวเองเมื่อรู้ว่าซูอันถูกยิงด้วยหน้าไม้มหากาฬ แต่เมื่อนึกถึงจำนวนคนที่จับจ้องอยู่มากมาย มันไม่เหมาะเลยจริง ๆ นางพูดได้เพียงว่า “ให้คนเรียกหมอหลวงมารักษาท่านซู!”
ซูอันโบกมือ “ไม่เป็นไร กระหม่อมจะไปที่โรงแพทย์หลวงเองพะย่ะค่ะ”
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนตกตะลึง ทุกคนรู้ว่าหน้าไม้มหากาฬทรงพลังแค่ไหน! แต่ซูอันที่ถูกยิงด้วยหน้าไม้มหากาฬกลับยังดูดีอยู่ นอกจากใบหน้าที่ซีดเซียวเล็กน้อยเท่านั้น เฮ้อ เขาเป็นคนกล้าหาญและแข็งแกร่งจริง ๆ!
องค์หญิงรัชทายาทรีบถามว่า “กำลังบาดเจ็บอยู่แล้วเจ้ายังมาทำอะไรที่นี่?”
ซูอันตอบว่า “กระหม่อมกังวลว่าองค์หญิงรัชทายาทจะเข้าพระทัยผิด นอกจากนี้ กระหม่อมอยากจะบอกความคืบหน้าของคดีให้พระองค์รับรู้พะย่ะค่ะ”
องค์หญิงรัชทายาทตกใจเมื่อเห็นสายตาที่ร้อนแรงของซูอัน โดยปกติคนผู้นี้ค่อนข้างฉลาดอยู่แล้ว แต่ทำไมบางครั้งเขาถึงซื่อยิ่งนัก แทนที่จะส่งคนมาแจ้งนาง แต่เขากลับฝืนสังขารมาด้วยตัวเองเพื่ออะไรกัน?
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเขา นางใจอ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่น้ำเสียงอันไพเราะก็อ่อนโยนลง “วันนี้ข้าจะให้เจ้าหยุดหนึ่งวัน…ไม่สิ สองสามวันนี้เจ้าไม่ต้องมาทำงาน พักผ่อนฟื้นฟูร่างกายอยู่กับบ้านเถอะ”
“ขอบพระทัยองค์หญิงรัชทายาท!” ซูอันยิ้มขณะตอบรับ การมีวันหยุดเช่นนี้ย่อมช่วยได้มาก
ปี่หลิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดกับนางกำนัลที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “โม่น้อย นำรากวิญญาณมาให้ท่านซู”
หรงโม่ตอบอย่างกระวนกระวาย “รากวิญญาณพันปีนั้นล้ำค่ายิ่งนัก! มันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าขององค์หญิงนะเพคะ!”
ปี่หลิงหลงส่ายศีรษะ “ต่อให้มีค่าแค่ไหน ก็ไม่มีค่าเท่ากับชีวิตของคน ท่านซูเป็นผู้แทนองค์รัชทายาท และได้รับบาดเจ็บขณะสอบสวนคดีของข้า รากวิญญาณเหมาะสำหรับการช่วยให้เขาฟื้นตัว หรือเจ้าจะให้ข้าไปเอามันมาเอง?”
“ผู้น้อยไม่กล้า!” หรงโม่กัดริมฝีปาก และเดินเข้าไปในห้องด้านในโดยไม่เต็มใจ
“จิ๊ ๆ สาวน้อยคนนี้น่าสนใจทีเดียว ถึงกับมีน้ำใจให้เจ้าขนาดนี้” หมี่ลี่พูดในหัวของซูอัน ดูเหมือนว่านางจะพูดออกมาเพราะนึกสนุก
ซูอันไม่สนใจนางและโค้งคำนับให้กับปี่หลิงหลงแทน “ขอบพระทัยองค์หญิงรัชทายาท!”
หมี่ลี่ประหลาดใจ “ดูสิว่าเจ้าไร้ยางอายแค่ไหน! เจ้าไม่แม้แต่จะปฏิเสธเลยเหรอ ของนั่นมีค่ามากนะ”
ซูอันตอบว่า “ท่านคิดผิดแล้ว ที่บ้านเกิดของข้ามีความเชื่อที่ว่ายืมอะไรแล้วต้องคืน ด้วยวิธีนี้ทั้งสองฝ่ายไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลในการพบกันอีก และก็จะเริ่มเข้ากันได้ ถ้าข้าปฏิเสธนาง ข้าจะได้รับความกรุณาเพียงครั้งเดียว และจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ที่จับต้องได้อีก ตรงกันข้าม การยอมรับของขวัญจากนาง ความประทับใจที่ดีต่อกันของเราจะเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้ดูสำคัญมาก ดังนั้นข้าจะคืนให้เมื่อนางต้องการ ทำอย่างนี้แล้วข้าจะไม่ได้รับความโปรดปรานจากนางอีกเหรอ?”
หมี่ลี่รู้สึกมึนงง ไม่นานนักนางก็พูดว่า “บ้านเกิดของเจ้านี่เป็นสถานที่แบบไหนกัน? มีแนวคิดมากมายอยู่เบื้องหลังเรื่องเล็ก ๆ พวกนี้”
ซูอันตอบด้วยสีหน้าโหยหา “เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีทักษะโดดเด่นและมีมนต์ขลัง…”
เมื่อถึงตอนนี้ หรงโม่ก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ในมือของนางมีกล่องปักลายวางอยู่บนผ้าสีแดง แม้ว่ารากวิญญาณจะถูกเก็บไว้ในกล่อง ซูอันก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังชี่อันหนาแน่นที่ปล่อยออกมา เขาขอบคุณองค์หญิงรัชทายาทอีกครั้ง
ความอ่อนโยนเล็กน้อยปรากฏขึ้นในดวงตาของปี่หลิงหลง “เจ้าควรหาเวลาพักผ่อนเสียบ้าง ปล่อยเรื่องของตระกูลซือให้ข้าจัดการเอง”
ซูอันรู้ว่านางกำลังบอกเป็นนัยว่าจะใช้โอกาสนี้ขจัดความกังวลในอนาคตให้สิ้นซาก เขาขยิบตาให้นาง
ใบหน้าขององค์หญิงรัชทายาทแดงระเรื่อ นางรีบมองไปรอบ ๆ แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสังเกตเห็น ผู้ชายคนนี้ไร้ยางอายจริง ๆ! เขากล้าแกล้งนางในที่สาธารณะ! ฮึ่ม วันนี้ที่ข้าปล่อยไปเพราะเจ้าบาดเจ็บหรอกนะ
…
ซูอันออกจากวังตะวันออก องค์หญิงรัชทายาทให้เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนไปส่งเขาที่โรงแพทย์หลวง ระหว่างทางทั้งสองคนถอนหายใจด้วยความชื่นชม
“ข้าไม่เคยเห็นองค์หญิงรัชทายาทปฏิบัติต่อใครดีเท่านี้มาก่อนเลยในช่วงหลายปีมานี้…”
“ใช่ ๆ ! ข้าเริ่มสงสัยด้วยซ้ำว่าพี่ซูกับองค์หญิงรัชทายาทมีความสัมพันธ์อะไรกันหรือเปล่า?”
ซูอันตกตะลึง เขาถามว่า “เจ้ากำลังอยากตายเหรอ? กล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง?”
“พวกเราพี่น้องแค่ล้อท่านเล่น เอาเถอะ! หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดองค์หญิงรัชทายาทยังคงปฏิบัติต่อพี่ซูด้วยความเมตตา นี่หมายความว่าพระนางมีจิตสำนึกที่ชัดเจน”
“ข้าว่าเจ้าพูดถูก แต่ถ้าไม่ใช่เพราะสถานะพิเศษขององค์หญิงรัชทายาท ข้าค่อนข้างจะเชื่อจริง ๆ ว่าพระนางพึงพอใจพี่ซู พระนางทรงลำบากมามากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา องค์รัชทายาทไม่สามารถทำอะไรให้พระนางได้ มีแต่จะให้พระนางเป็นฝ่ายปกป้อง”
“พูดอะไรออกมา? หรือว่าเจ้าต้องการจะตายด้วยเหมือนกัน!”
……….