เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1123 ลงเรือลำเดียวกัน
บทที่ 1123 ลงเรือลำเดียวกัน
ทั้งสองต่อสู้กันในขณะที่ร่างกายเกือบจะเบียดกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสนมไป่จะต่อสู้อย่างไร นางก็ถูกมือที่ลื่นไหลเหมือนงูของซูอันเข้าไปพัวพัน ในตอนแรก นางยังสามารถเปลี่ยนวิธีโจมตีของเขาเพื่อปลดปล่อยการโจมตีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในขณะที่พวกเขาต่อสู้กันต่อไป จำนวนพื้นที่ที่นางเหลือในการหลบเลี่ยงก็ลดลง จนในที่สุด แม้แต่มือของนางก็ถูกจำกัดและไม่สามารถขยับได้เลย
ไป่โหรวเซวี่ยไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับชายอื่น นางรู้สึกละอายใจและประหม่า และเนื่องจากไม่สามารถขยับมือได้ นางจึงเตะใต้ท้องของซูอัน
ทว่าเนื่องจากวิชาพลิ้วไหวไหลพัวพันเป็นทักษะที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะประชิด จะไม่มีมาตรการรับมือสำหรับการโจมตีดังกล่าวได้อย่างไร? ซูอันยกขาขึ้นปิดกั้นการโจมตีของสนมไป่จากนั้นเตะข้อพับขาของนาง และใช้โอกาสนั้นดันขาของนางออกจากกัน
ร่างกายของสนมไป่มีความยืดหยุ่นอย่างมาก เอวและลำตัวของนางบิดเป็นมุมที่นึกไม่ถึง อย่างไรก็ตาม นางยังไม่สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของซูอันได้ ตรงกันข้าม ใบหน้าของนางกลับแดงระเรื่อจากร่างกายที่ถูไถเข้าหากัน
ซูอันถามด้วยรอยยิ้ม “หมดทางแล้วใช่ไหม?” อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะเจรจากับนาง จู่ ๆ สนมไป่ก็ยิ้มออกมา จากนั้นหมอกสีชมพูก็พ่นออกมาจากริมฝีปากสีเชอร์รี่ของนาง กระทบใบหน้าของซูอัน
ซูอันไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยแดงที่ผิดธรรมชาติ จากนั้นร่างกายก็โยกเยกไปมาสองสามครั้งแล้วล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
“หึ!” สนมไป่สะใจหลังจากหลุดจากการเกาะกุมในที่สุด จากนั้นนางก็อดไม่ได้ที่จะเตะอีกครั้ง “ตัวร้าย!”
นางดูไม่พอใจขณะที่ถามว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าไม่ได้อวดดีอยู่เหรอ? ทำไมตอนนี้เงียบเสียล่ะ?”
ไป่โหรวเซวี่ยเลิกกระโปรงขึ้นและคุกเข่าลงข้าง ๆ ซูอัน มีดเล่มหนึ่งโผล่ออกมา นางทำท่าจะจี้คอซูอันสองสามครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ สนมไป่ก็ผ่อนคลายลงในที่สุด “หมดสติไปเสียแล้ว ฮึ่ม ข้าคาดหวังไม่น้อยหลังจากที่เจ้าต้องทนทุกข์กับน้ำค้างกุหลาบของข้า”
แต่ดูแล้วนางค่อนข้างลำบากใจในขณะที่พึมพำ “ข้าควรจะฆ่าเจ้าหรือไม่? แต่ถ้าข้าไม่ฆ่าเจ้า ด้วยความฉลาดเกินไปของเจ้า เจ้าจะเป็นอันตรายสำหรับข้า แต่ถ้าข้าฆ่าเจ้า เจ้าสำนักอาจจะโกรธใช่ไหม? มีน้องฮัวเล่ยคนนั้นด้วย เฮ้อ ปวดหัวจริง ๆ”
“ถ้ามันปวดหัวขนาดนั้น ท่านก็ไม่ควรฆ่าข้าใช่ไหม?” เสียงหยอกล้อของชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหูของสนมไป่
ไป่โหรวเซวี่ยสะดุ้งด้วยความตกใจ และนางรีบกดมีดลงที่คอของซูอัน น่าเสียดายที่ยังช้าเกินไป หน้าอกของนางชา และในทันใด จุดชีพจรทั้งหมดก็ถูกผนึกไว้
ซูอันลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ เขามองสาวงามที่โกรธเกรี้ยวด้านหน้าและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ท่านเตะข้า คิดว่าข้าทำอะไรไม่ได้แล้วสินะ?”
สนมไป่ตกใจขณะที่ถามว่า “ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย?”
ตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กันมากจนรับรู้แรงหายใจของกันและกัน ก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด จังหวะหายใจของเขาควรจะถี่กระชั้นมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่พิษของนางจะไม่เข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ พิษลับของนางก็เพียงพอที่จะทำให้หมดสติได้ แม้ว่าจะหายใจเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม
“ข้าช่างโชคดีเสียจริง” โชคดีที่เขาได้ทะลวงไปถึงระดับที่สามของวิชาปฐมบทแรกเริ่ม ดังนั้นเขาจึงมีความต้านทานจากพิษส่วนใหญ่ ไม่อย่างนั้นคงถูกเล่นงานไปแล้ว
“มันคือยาพิษอะไร?” ซูอันถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น สนมไป่โวยวายและทำเป็นไม่สนใจ
“ข้ายังคงเดาได้แม้ว่าท่านจะไม่บอกก็ตาม” ซูอันสัมผัสถึงพิษได้ด้วยพลังปฐมบท แม้ว่ามันจะไม่ใช่การวิเคราะห์ที่สมบูรณ์แบบ แต่เขาก็ยังพอเข้าใจคร่าว ๆ เกี่ยวกับการใช้งานของมันได้
“ฮะ? พิษนี้แท้จริงแล้วไม่มีอันตรายต่อร่างกายเลย มันทำให้คนหมดสติและเข้าสู่ภาพลวงตาเท่านั้น” ซูอันตกใจมาก “ทำไมท่านถึงใช้ยาพิษอ่อน ๆ แบบนี้กับข้า?”
“ไม่ใช่ธุระอะไรของเจ้า!” สนมไป่รู้สึกโกรธและสำนึกผิด ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ นางคงปักมีดไว้ที่คอของเขาตั้งแต่แรกแล้ว ฮึ่ม! นางไม่รู้จริง ๆ ว่าชายคนนี้ไปเอาความกล้ามาจากไหน ถูกมีดจ่อคอตั้งสามครั้งยังไม่มีแม้แต่อาการผงะ นางจึงคิดว่าเขาได้รับผลกระทบจากพิษจริง ๆ
—
ท่านยั่วยุไป่โหรวเซวี่ยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233 +233 +233…
—
“องค์จักรพรรดิทรงพยายามค้นหามานานแล้วว่าใครคือสายลับจากสำนักมาร ในท้ายที่สุดคนที่ถูกลงโทษก็คือแม่ทัพกองทหารฝ่ายซ้ายเฉิงซยงและลูกชาย” ซูอันหัวเราะเบา ๆ “แต่ข้ารู้ว่าไม่ใช่พวกเขา นี่เป็นเหตุผลที่ข้าอยากรู้อยู่เสมอว่าใครเป็นคนคอยส่งข้อมูลให้กับสำนักมาร
“สถานะของคนผู้นี้ต้องไม่ต่ำต้อย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงความลับสำคัญ เช่น ที่อยู่ของจักรพรรดิ ความปลอดภัยของพระราชวัง และเรื่องสำคัญอื่น ๆ แต่ถ้าสถานะของพวกเขาสูงเกินไป ข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องช่วยสำนักมารด้วย” ซูอันมองสนมไป่และพูดว่า “ในที่สุดข้าก็รู้ว่าเป็นท่าน”
ก่อนหน้านี้เขาแสร้งทำเป็นหมดสติเพราะต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม และในที่สุดก็ได้รับรู้ข้อมูลที่ดีเช่นนี้
ไป่โหรวเซวี่ยรู้สึกเสียใจมากในตอนนี้ ทำไมนางถึงพูดพล่ามออกไปแบบนั้น? อย่างไรก็ตาม นางสงบลงอย่างรวดเร็ว “ข้าไม่ใช่คนเดียวที่สมรู้ร่วมคิดกับสำนักมารในวังนี้ ท่านซู เจ้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยไม่ใช่เหรอ? เจ้ายังเคยช่วยชีวิตเจ้าสำนักมารและบุตรีสวรรค์ด้วยซ้ำ”
ซูอันไม่แปลกใจเลย มันง่ายที่จะหลอกลวงผู้อื่น แต่ข้อมูลเหล่านี้ย่อมไม่รอดพ้นจากสายลับระดับสูงเช่นสนมไป่ อย่างไรก็ตาม อวิ้นเจียนเยว่มักจะอยู่ในบ้านพักทูตยุทธ์เสื้อแพรซึ่งเขาไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้ตลอดเวลา สองคนนี้คงเคยติดต่อกันมาแล้ว
สนมไป่เคยให้รางวัลเขามากมาย เมื่อคิดย้อนกลับไป ปฏิกิริยาของอวิ้นเจียนเยว่ในตอนนั้นค่อนข้างแปลก นั่นอาจเป็นตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก
ซูอันหัวเราะเบา ๆ “ท่านคงคิดว่าข้าจะปล่อยท่านไปเพราะความสัมพันธ์นี้ แต่ตราบใดที่ข้าฆ่าท่านสำเร็จ ย่อมจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ข้าจะไม่ปลอดภัยกว่าเหรอ?”
ไป่โหรวเซวี่ยมองดูเขา ไม่นานต่อมานางพูดว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องทำให้ข้ากลัวแบบนี้ ใครก็ตามที่เจ้าสำนักและบุตรีสวรรค์โปรดปราน จะเป็นคนที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายได้ยังไง?”
ซูอันรู้สึกปวดหัวขณะที่พึมพำว่า “เฮ้อ การถูกปฏิเสธเพราะเป็นคนดีไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลย” เขาไม่ได้เสแสร้งต่อไปเช่นกัน และคลายชีพจรของสนมไป่
สนมไป่ถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัวเมื่อเป็นอิสระ จากนั้นนางก็ลูบหน้าอกที่ยังคงปวดเล็กน้อยหลังจากถูกกระแทก
จากนั้นซูอันก็ตั้งข้อสังเกต “เนื่องจากตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ข้าเชื่อว่ามีบางเรื่องที่เราสามารถเปิดเผยกันได้มากขึ้น จริงไหม?”
“เจ้าอยากรู้อะไร?” สนมไป่กลับมาที่ชิงช้า ในขณะเดียวกันนางก็สะบัดแขนเสื้อออกและกลีบดอกไม้ก็ค่อย ๆ จางหายไป ร่างของนางกำนัลพี่เลี้ยงกลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“ทักษะนี้ของท่านน่าประทับใจมาก” ซูอันอดไม่ได้ที่จะกล่าวชมเชย
“ไม่มีอะไรมากไปกว่าม่านควัน” สนมไป่ตอบอย่างเฉยเมย
ซูอันพยักหน้า จากนั้นเขาพูดต่อว่า “คนที่ต้องการใส่ร้ายข้าและองค์หญิงรัชทายาทคือท่านและอ๋องอู๋ใช่ไหม?”