เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1124 ตอบแทนให้เท่าเทียมกัน
บทที่ 1124 ตอบแทนให้เท่าเทียมกัน
เมื่อได้ยินคำถามตรงประเด็นนี้ของซูอัน หลังจากลังเลเล็กน้อย สนมไป่ก็พยักหน้าและพูดว่า “ถูกต้อง การวิเคราะห์ของเจ้าถูกไปแล้วเก้าในสิบส่วน”
“ซินรุ่ยอยู่ที่ไหน?” ซูอันถาม
“นางกลับมาหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ” สนมไป่ตอบ
“แล้วแม่กับน้องชายของนางก็ตัวปลอมเหมือนกันเหรอ?” ซูอันไม่เชื่อว่าสำนักมารจะปล่อยช่องโหว่ขนาดใหญ่เช่นนี้ไว้เบื้องหลังและปล่อยให้คนสำคัญของซินรุ่ยถูกควบคุม
“ถูกต้อง พวกเขาทั้งสองเป็นตัวปลอมจากสำนักมาร ไม่อย่างนั้นคงไม่ง่ายที่จะหลบหนีไปที่บ่อนภายใต้การดูแลของตระกูลซือ และจะต้องถูกทูตยุทธ์เสื้อแพรพบตัวแม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือก็ตาม” สนมไป่ตอบ
“การเตรียมการของท่านคิดมาอย่างดีจริง ๆ” ซูอันอ้าปากค้าง อีกฝ่ายพิถีพิถันมาก เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจชั่วขณะอย่างแน่นอน แต่เป็นการเตรียมพร้อมล่วงหน้ามาหลายปี แต่ถ้าแผนการนี้เริ่มขึ้นเมื่อหลายปีก่อน พวกเขามีแผนจะลงมือกำจัดองค์หญิงรัชทายาทตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือไม่?
“เราเตรียมการบางอย่างไว้ล่วงหน้าเท่านั้น จากนั้นคนของตระกูลซือก็เพิ่งเข้าร่วมเมื่อไม่นานมานี้” สนมไป่อธิบาย
“อ๋องอู๋แนะนำ เขายืนยันที่จะใช้เจ้า ดูเหมือนว่าเขาจะเกลียดชังเจ้ามาก” ไป่โหรวเซวี่ยมองซูอันด้วยความประหลาดใจ “เจ้าทำอะไรไว้ถึงทำให้เขาเกลียดมากขนาดนี้?”
ซูอันเริ่มคิดกับตัวเอง ดูเหมือนว่านางจะไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับอวิ๋นอวี้ชิง มันน่าจะดีกว่าที่จะเก็บบางเรื่องไว้เป็นความลับ เขาตอบว่า “ข้าจะพูดอะไรได้? ข้ามีเสน่ห์มากเกินไป บางทีอ๋องอู๋อาจรู้สึกอิจฉาเมื่อตอนที่ข้าเดินทางผ่านเมืองแผ่นฟ้าแดนเหนือในอดีต” สนมไป่พูดไม่ออก
“สำหรับเหตุผลอีกอย่างที่ท่านช่วยข้า… เป็นเพราะข้าช่วยอวิ้นเจียนเยว่และคนอื่น ๆ ด้วยใช่ไหม?” ซูอันถามด้วยความอยากรู้
“ใช่ เพื่อช่วยเจ้าและไม่ทำให้อ๋องอู๋สงสัย ในใจข้าจึงค่อนข้างขัดแย้ง เจ้ารู้บ้างไหม?” สนมไป่ตอบพร้อมกับถอนหายใจ
ซูอันหัวเราะ “ฮ่า ๆๆ ถ้าอย่างนั้นข้าควรจะขอบคุณท่านดีไหมที่ทำให้ข้าเดินวนรอบประตูนรกมาแล้วสองสามครั้ง?”
“แต่เจ้าก็ยังสบายดีอยู่นี่” สนมไป่ยิ้ม “องค์หญิงรัชทายาทเป็นสาวงามที่หาได้ยาก แม้แต่รัชทายาทก็ยังไม่เคยสัมผัสเรือนร่างอันบริสุทธิ์ของนางเลย แต่เจ้ากลับได้ใกล้ชิดนางขนาดนั้น”
“ตอนนั้นท่านเป็นคนถอดเสื้อผ้าของเราออกหรือเปล่า?” สีหน้าของซูอันมืดลง
สนมไป่นึกย้อนไป ชำเลืองมองร่างกายท่อนล่างของเขาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ “ถามแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
ไป่โหรวเซวี่ยยิ้มหวาน “แล้วเจ้าอยากดูไหมล่ะ? แน่นอน ข้านั่งอยู่ตรงนี้ เจ้าสามารถเข้ามาถอดเสื้อผ้าของข้าออกไปได้เลย ข้าสัญญาว่าจะไม่ขัดขืน”
ซูอันรู้สึกขัดใจและถามว่า “แม่นาง เจ้าคิดว่าข้าจะไม่กล้าจริง ๆ เหรอ?” เขาเริ่มเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
“แล้วทำไมไม่ลงมือล่ะ?” สนมไป่เชิดคางอย่างยั่วยุ หลายคนกำลังดูอยู่ เจ้าจะกล้าไหม?
ดวงตาของซูอันหรี่ลง เขากล่าวว่า “พระสนม ข้ามีเพื่อนคนหนึ่ง คนคนนี้เกลียดการถูกยั่วยุอย่างยิ่ง หากเขาถูกยั่วยุ เขาอาจทำไปตามแรงกระตุ้นและไม่สนใจผลที่ตามมาจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ…”
จู่ ๆ ไป่โหรวเซวี่ยก็ลุกขึ้นก่อนที่เขาจะจบประโยคและพูดอย่างเร่งด่วนว่า “เจ้าอย่าผลีผลาม ไม่อย่างนั้นเราจะจบสิ้นทั้งคู่!”
หากการกระทำของซูอันถูกผู้อื่นพบเห็น การที่นางถูกผู้ชายอื่นแตะต้อง จะทำให้ข่าวลือเกี่ยวกับพระสนมไป่แพร่กระจายออกไป เมื่อนั้นนางจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ในสายตาของราชวงศ์ ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาย่อมสูญเปล่า
“แต่เพื่อนของข้าคนนั้นโกรธมากรู้ไหม? เขาทนไม่ได้อีกแล้ว” ซูอันหัวเราะในใจ เขาไม่เคยใช้ทักษะ ‘สหายผู้จริงใจ’ มาก่อนจนกระทั่งเมื่อครู่นี้ เขาไม่คิดว่าการใช้งานครั้งแรกจะเกิดขึ้นที่นี่ ฮึ่ม! ตัดสินจากสีหน้าตื่นตระหนกของสนมไป่ นางเชื่ออย่างชัดเจนว่าเพื่อนที่พูดถึงคือตัวข้าเอง ดูเหมือนว่าทักษะนี้ค่อนข้างดีในการสร้างความสับสนให้กับผู้คน
ใบหน้าของสนมไป่ซีด ทำไมนางถึงดันทุรังที่จะยั่วยุชายคนนี้? นางกัดฟันแล้วโบกแขนเสื้อ กลีบดอกไม้เริ่มโปรยปรายอีกครั้ง อย่างน้อยนางต้องปิดกั้นสายตาของคนอื่นเอาไว้ก่อน ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นก็ยังสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้
ซูอันรู้สึกแปลกใจอย่างมากเมื่อเห็นกลีบดอกไม้ “ข้าสามารถตีความว่าเจ้ายอมให้ข้าทำอะไร ๆ กับเจ้าได้หรือไม่?”
“หึ!” สนมไป่เย้ยหยัน “ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าทำอะไรตามอารมณ์และทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น”
ซูอันมาถึงด้านข้างของนางแล้วมองไปที่กลีบดอกไม้โดยรอบ “เจ้าได้บังสายตาของพวกเขาไปแล้ว ดังนั้นหมายความว่า ไม่ว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้าก็คงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
ไป่โหรวเซวี่ยถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงความเป็นชายที่แข็งแกร่งของซูอัน “อย่า… อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
“แล้วเจ้าหมายความว่ายังไง?” ซูอันยกมือขึ้นเชยคางสนมไป่ แก้มของนางแดงระเรื่อ ผิวขาวราวหิมะเรียบเนียนจนแม้แต่หยกขาวหรือไข่มุกก็ไม่อาจเทียบความงามของนางได้
“ถ้าเจ้า… ถ้าเจ้าทำต่อ ข้า… ข้าจะเอาม่านดอกไม้รอบตัวเราออก…” สนมไป่ยกมือขึ้นราวกับกำลังจะลดม่านลงมา
ซูอันยิ้ม เขาขยับเข้าไปใกล้หูของนางและถามเสียงเบาว่า “แล้วทำไมเจ้าไม่ทำล่ะ?”
เมื่อเข้าใกล้นางก็ยิ่งได้กลิ่นหอมชัดเจนยิ่งขึ้น มันไม่ฉุน แต่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสะอาด ผู้หญิงคนนี้เป็นดอกไม้กลับชาติมาเกิดหรืออย่างไร?
“เจ้า… เจ้าไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง?” ไป่โหรวเซวี่ยเริ่มสำลัก เมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่มาจากลมหายใจของซูอัน นางรู้สึกประหม่าจนขนลุกซู่
ซูอันมีสีหน้าครุ่นคิดเมื่อเห็นปฏิกิริยาของนาง “พระสนม ท่านดูไม่เหมือนหญิงที่ให้กำเนิดบุตรแล้วจริง ๆ”
“ตอนนี้เจ้าเองก็ทำตัวไม่เหมาะสมอยู่นะ!” สนมไป่พูดอย่างเกลียดชัง
ซูอันมองตานางแล้วถามว่า “พระนัดดาคือลูกของใครกันแน่?” เหตุผลที่เขาจงใจ ‘ยั่ว’ นางเป็นเพราะเขาต้องการข้อมูลอื่น ๆ จากปฏิกิริยาของนางนั่นเอง
“ยังไงเขาก็ไม่ใช่ลูกของเจ้า!” สนมไป่จัดระเบียบเสื้อผ้าด้วยความตื่นตระหนก
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “ข้าไม่ได้แตะต้องเสื้อผ้าของเจ้า แล้วเจ้าจะจัดมันทำไม?”
ใบหน้าของสนมไป่แดงก่ำ เขารู้สึกว่าตอนนี้นางประหม่าเกินไปด้วยเหตุผลบางอย่าง นางมองไปทางอื่นและไม่สนใจเขา
ซูอันพูดต่อว่า “เขาเป็นลูกชายขององค์รัชทายาทจริง ๆ เหรอ? ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับข้า แม้แต่องค์หญิงรัชทายาทก็ยังทรงบริสุทธิ์ ข้าคิดว่าองค์รัชทายาทอาจบกพร่องทางสมรรถภาพหรือไร้อารมณ์โดยสิ้นเชิง”
“หรือจะเป็นอย่างที่ลือกันว่า เด็กคนนี้เป็นลูกชายของฝ่าบาท? ถ้ามันเป็นเชื้อสายของพระองค์จริง ๆ ด้วยธรรมชาติของฝ่าบาท เขาจะยินดียกสนมของตัวเองให้กับชายอื่นหรือไม่?” เขาถามขณะจ้องตรงมาที่นาง
ไป่โหรวเซวี่ยหายใจถี่ขึ้น หน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ไม่ต้องถามต่อ ข้าจะไม่ตอบอะไรทั้งนั้น”