เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1128 พบเจียงลั่วฝูอีกครั้ง
บทที่ 1128 พบเจียงลั่วฝูอีกครั้ง
เมื่อซูอันมาส่งฉู่ชูเหยียนออกไปนอกเมือง รอยแดงบนใบหน้าของนางก็ยังไม่จางหายไป นางพูดว่า “อาซู ข้าจะกลับมาหาเจ้าทันทีที่ข้าจัดการเรื่องในเมืองจันทร์กระจ่างเสร็จแล้ว”
“ตกลง บอกข้าทันทีที่เจ้ากลับมา ตอนนี้ข้ามีกำลังและทรัพยากรในเมืองหลวงเพียงพอ เราไม่ต้องถูกรังแกเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว” ซูอันบอกนาง
ฉู่ชูเหยียนเปล่งเสียงรับ จากนั้นจึงพูดกับน้องสาวคนเล็กว่า “โหยวเจา เจ้าต้องดูแลพี่เขยของเจ้าให้ดีในขณะที่ข้าไม่อยู่”
ซูอันตกตะลึง “เจ้าพูดผิดหรือเปล่า?”
แม้แต่มู่หรงชิงเหอก็ยังสับสน พี่ฉู่ของนางเป็นคนอ่อนโยนและงดงาม ทำไมเขาถึงต้องเป็นฝ่ายดูแลวายร้ายอย่างชายคนนี้ด้วย?
ฉู่ชูเหยียนส่ายหัว “โหยวเจาเติบโตมาภายใต้การดูแลของท่านตา และมีชิงเหอคอยช่วยเหลือเช่นกัน ข้าจึงไม่กังวลเกี่ยวกับเขามากนัก แต่เจ้ามักจะตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลาที่อยู่ในเมืองหลวง และอาจจะไม่โชคดีทุกครั้ง”
ฉู่โหยวเจารู้สึกตื่นเต้น นางยืดอกและพูดว่า “พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วง! ข้าจะดูแลพี่เขยอย่างดี”
ซูอันยิ้ม เขาจับมือของฉู่ชูเหยียนไว้เมื่อรู้สึกถึงความกังวลของนาง “ชูเหยียน ขอบคุณ”
…
เดิมทีพวกเขาวางแผนที่จะแยกทางกันในเขตชานเมือง แต่กลับเดินต่อไปอีกหลายสิบลี้ด้วยกัน สุดท้ายก็ยังต้องแยกจากกัน
เมื่อกลับมาที่เมืองหลวง อารมณ์ของซูอันไม่ค่อยดีนัก ฉู่โหยวเจารู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี นางจึงไม่อยู่รบกวนเขาและออกไปกับมู่หรงชิงเหอเพื่อให้ซูอันมีพื้นที่ส่วนตัว
ซูอันนั่งบนเตียงด้วยอาการซึมเซา เหมียนหมานใหญ่จากไปแล้ว เสวี่ยเอ๋อร์จากไปแล้ว เจิ้งตานจากไปแล้ว ชิวฮัวเล่ยจากไปแล้ว และตอนนี้ชูเหยียนก็จากไปเช่นกัน เขารู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนตัวคนเดียวในเมืองหลวงแห่งนี้
“เจ้าต้องการสหายร่วมดื่มไหม?” มีเสียงพูดขึ้นที่ริมหน้าต่างทำลายความโดดเดี่ยวที่เขากำลังจ่อมจมอยู่
ซูอันหันกลับมา สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเรียวขาอันสวยงาม “อาจารย์ใหญ่เจียง?”
ต้นขาของนางหนา แต่น่องกลับเรียวยาวเกิดเป็นเส้นโค้งที่สมบูรณ์แบบ เมื่อรวมกับผิวที่เนียนเรียบ ทำให้เกิดความแตกต่างที่ทรงพลัง
แต่ซูอันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะชื่นชมสิ่งเหล่านี้ เขามองผู้หญิงโตเต็มวัยที่นั่งอยู่บนขอบหน้าต่างด้วยความประหลาดใจและถามว่า “อาจารย์ใหญ่เจียง มาทำอะไรที่นี่?”
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าถูกซุ่มโจมตีจึงมาดู พี่น้องเซี่ยก็อยากมาด้วย แต่เซี่ยเต๋าอวิ๋นได้รับคำสั่งให้ฝึกฝนการวาดอักขระวิเศษจากอาจารย์ของนาง ในขณะที่อาจารย์ของเซี่ยซิวให้เขาเล่นหมากรุกด้วยกัน พวกเขาค่อนข้างยุ่งเลยฝากให้ข้ามาเยี่ยมเจ้าแทน” ผมสีดำละเอียดของเจียงลั่วฝูถูกรวบไว้ด้วยปิ่นหยก ทำให้คอที่ยาวระหงของนางดูสง่างามยิ่งขึ้น ดวงตาภายใต้แว่นกรอบทองหรูหราเปล่งประกายระยิบระยับ
ถ้าซูอันได้เห็นนางในเวลาอื่น ภาพวิดิโอติดเรตของอาจารย์สาวเซ็กซี่และเลขานุการสาวออฟฟิศอาจเต็มหัวเขาไปแล้ว แม้แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกมึนงงเมื่อมองไปยังร่างที่คุ้นเคยตรงหน้า ราวกับว่าได้กลับไปสู่โลกเก่าของตัวเอง
“เจ็บหัวเหรอ? ตอนนี้หน้าเจ้าดูโง่มาก” เจียงลั่วฝูยิ้ม
ซูอันอารมณ์เสีย “ท่านไม่ได้ทำตัวเหมือนแขกที่ห่วงใยเจ้าบ้านเลย แต่เหมือนมาเพื่อเยาะเย้ยข้ามากกว่า”
“เจ้าไม่เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ?” เจียงลั่วฝูกระโดดลงมาจากหน้าต่างอย่างสง่างามด้วยขาเรียวยาวของนาง
ซูอันต้องยอมรับว่าแค่ดูผู้หญิงคนนี้เดินก็เป็นฉากที่น่ายินดีที่สุด มีดาราเพียงไม่กี่คนในโลกก่อนหน้านี้ที่เวลาเดินจะสง่างามทะมัดทะแมงเป็นจังหวะจะโคนเท่านาง
“หน้าต่างบ้านเจ้าฝุ่นเกาะแล้ว ควรทำความสะอาดบ้างนะ” เจียงลั่วฝูกล่าว นางขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะปัดฝุ่นออกจากก้นเสียงดังพึ่บพั่บ
ซูอันกล่าวอธิบาย “ข้าย้ายมาที่นี่ได้ไม่นาน และไม่มีใครช่วยข้าทำความสะอาดเลย เพิ่งรับคนรับใช้เข้ามาไม่กี่คน” เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงฉู่ชูเหยียน นางมักจะดูเย็นชาและห่างเหิน แต่เป็นคนที่ห่วงใยเขามากที่สุด
“ทำไมไม่เข้ามาทางด้านหน้า? ทำไมท่านต้องกระโดดเข้ามาทางหน้าต่างด้วย” เขาถาม แม้ว่าจะมีผนึกป้องกันที่เรียบง่ายรอบบริเวณที่อยู่อาศัยนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถหยุดผู้บ่มเพาะที่แท้จริงได้
เจียงลั่วฝูพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ข้าพยายามจะเข้าทางด้านหน้าแล้ว แต่คนรับใช้บอกว่าเจ้าอารมณ์ไม่ดี ไม่ต้อนรับแขก ข้าจะทำอะไรได้อีกนอกจากบุกเข้ามาอย่างนี้”
“ข้าขอโทษ” ซูอันหัวเราะแห้ง ๆ ด้วยความลำบากใจ นึกถึงความท้อแท้ก่อนหน้านี้ที่เป็นเหตุผลให้เขาสั่งความคนรับใช้ไว้ล่วงหน้า
“ดูเหมือนวันนี้อารมณ์ของเจ้าจะไม่ค่อยดีนัก หากเป็นวันอื่นเจ้าคงพูดจาไร้สาระกับข้าไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นล่ะ?” เจียงลั่วฝูรู้สึกประหลาดใจ
“พูดจาไร้สาระ? ข้าเป็นคนแบบนั้นเหรอ” ซูอันยืนขึ้น แต่กลับนิ่งเฉยอีกครั้งในขณะที่พูดอย่างโศกเศร้าว่า “ชูเหยียนกลับไปที่เมืองจันทร์กระจ่างแล้ว”
เจียงลั่วฝูทำหน้าประหลาดใจ “ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนที่น่ารักขนาดนี้”
ซูอันตกตะลึง เขาตอบว่า “พี่สาว ท่านกำลังชมข้า แต่ทำไมข้ารู้สึกเหมือนกำลังเยาะเย้ยมากกว่า”
เจียงลั่วฝูหัวเราะ แต่เมื่อเข้าใกล้ซูอัน สีหน้าของนางก็จริงจัง “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าถูกหน้าไม้มหากาฬโจมตี อาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เป็นไร…” ซูอันเริ่มพูด แต่ถูกขัดจังหวะก่อนที่จะพูดจบ
เจียงลั่วฝูตัดบท “ถอดเสื้อผ้าออกให้ข้าดูหน่อย?”
ซูอันพูดไม่ออก ผู้หญิงโตเต็มวัยล้วนก้าวร้าวขนาดนี้เลยเหรอ? ทำไมข้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกต้อนเข้ามุม
ในขณะที่ซูอันกำลังลังเล เจียงลั่วฝูก็เดินไปด้านข้างของเขาแล้ว นางถอดเสื้อผ้าของเขาออกโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ
ซูอันตกตะลึงในขณะที่เขาถามว่า “อาจารย์ใหญ่เจียง ท่านพยายามทำร้ายข้าหรือเปล่า?”
“ทำไมข้าต้องทำร้ายเด็กเหลือขออย่างเจ้าด้วย” เจียงลั่วฝูหัวเราะและพูดว่า “อีกอย่าง ข้าไม่ใช่อาจารย์ใหญ่แล้ว ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเรียกข้าแบบนั้นอีกต่อไป”
“ท่านไม่ใช่อาจารย์ใหญ่แล้วเหรอ?” ซูอันถามอย่างตกตะลึง
“เจ้าลืมไปแล้วหรือที่ข้าบอกเจ้าว่าข้าถูกย้ายกลับมาที่สถาบันหลวงแล้ว? และตอนนี้อาจารย์ใหญ่ของสถาบันหลวงคือผู้เบิกเท็จเฉิน” เจียงลั่วฝูอธิบายในขณะที่ตรวจสอบร่างกายของเขา “หืม? มันเจาะหน้าอกของเจ้าจริงด้วย! แต่ทำไมแผลถึงหายเร็วขนาดนี้?”
ไม่ว่าซูอันจะฟื้นตัวเร็วแค่ไหน บาดแผลก็ใหญ่มาก สีของผิวหนังที่ร่างกายเพิ่งสร้างใหม่นั้นยังซีดจางเล็กน้อย และมีร่องรอยของการตกสะเก็ด
“ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ว่าข้ามีความสามารถบ้า ๆ แบบไหน” ซูอันหัวเราะเบา ๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เจียงลั่วฝูไม่เคยเห็นใครที่มีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำมาก่อน ดังนั้นนางจึงไม่มีทางรู้เหตุผลเบื้องหลังที่แท้จริง
เจียงลั่วฝูเท้าคางด้วยมือข้างหนึ่งและพูดกับตัวเองว่า “พรสวรรค์ระดับเลิศล้ำมีความสามารถในการฟื้นฟูที่แข็งแกร่งเช่นนี้เลยเหรอ? มันไร้สาระเกินไปแล้ว! ไม่น่าแปลกใจที่มีคนระดับนี้ไม่มากนัก แต่ในที่สุด พวกเขาทั้งหมดก็กลายเป็นบุคคลในตำนาน”
ซูอันไม่สามารถรับได้อีกต่อไป เป็นเรื่องหนึ่งที่นางจะแต่งตัวเหมือนสาวออฟฟิศ แต่ตอนนี้แม้แต่ท่าเท้าคางของนางในตอนนี้ก็เย้ายวนอย่างยิ่ง เฮ้อ ผู้หญิงคนนี้กำลังล่อลวงให้ข้าทำเรื่องไม่ดีใช่ไหม?
เจียงลั่วฝูหายเหม่อลอยหลังจากนั้นไม่นานและพูดว่า “ใช่ นอกจากมาเยี่ยมอาการเจ้าแล้ว วันนี้มีเรื่องอื่นที่ข้าอยากจะพูดกับเจ้าด้วย”
“เรื่องอะไร?” รอยยิ้มขี้เล่นของซูอันจางหายไปเมื่อเห็นว่าเจียงลั่วฝูมีสีหน้าจริงจัง
……….