เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1129 สถาบันหลวง
บทที่ 1129 สถาบันหลวง
“ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ข้าพบว่าเจ้าเกือบถูกลอบสังหารหลายครั้งแล้วตั้งแต่เจ้ามาถึงเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีหลายขั้วอำนาจที่ประสงค์ร้ายต่อเจ้าทั้งในที่แจ้งและในที่มืด” สายตาของเจียงลั่วฝูเผยให้เห็นความกังวลเล็กน้อย
ซูอันถอนหายใจ “ข้าจะว่ายังไงได้? ข้ามักจะดึงดูดความสนใจจากหญิงสาวในทุกที่ และผู้ชายทุกคนก็อิจฉา แน่นอนว่าพวกเขาต้องการให้ข้าตาย ๆ ไปเสีย”
“ปากของเจ้ายังเหมือนเดิมเสมอเลยนะ” เจียงลั่วฝูหัวเราะเบา ๆ และถามว่า “เจ้ายังจำได้ไหมว่า ตัวเองยังเป็นอาจารย์ของสถาบันจันทร์กระจ่าง?”
“ใช่ แต่นั่นเป็นเพียงหน้าที่ชั่วคราวนี่นา” ซูอันพึมพำ
เจียงลั่วฝูเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พูดว่า “ข้าจะลองดูว่าเจ้าจะได้รับตำแหน่งอาจารย์ในสถาบันหลวงด้วยไหม ด้วยตัวตนของอาจารย์แห่งสถาบันหลวง ข้าเชื่อว่าขั้วอำนาจเหล่านั้นจะต้องมีความวิตกมากกว่านี้ก่อนที่จะทำอะไรกับเจ้า”
ซูอันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ อาจารย์ใหญ่เจียง ทำไมท่านดีกับข้าขนาดนี้”
“บางทีเราอาจถูกนำพามาพบกันด้วยโชคชะตา” เจียงลั่วฝูยิ้มและพูดว่า “แต่อย่าคิดอะไรแปลก ๆ ล่ะ นี่เป็นเพียงน้ำใจให้เจ้าเท่านั้น เช่นเดียวกับพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำของเจ้าที่ทำให้ข้าสนใจ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะไปได้ไกลแค่ไหน”
“ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวแห่งความรัก?” ซูอันถาม ฟังดูผิดหวังเล็กน้อย
สีหน้าของเจียงลั่วฝูมืดลง “เจ้าบ้า!”
ไม่นาน นางก็พูดว่า “ตามข้าไปที่สถาบันหลวง เราจะไปเยี่ยมผู้เบิกเท็จหากเจ้าต้องการเป็นอาจารย์ในสถาบันหลวง เจ้าจะต้องได้รับการอนุมัติจากเขาก่อน” เจียงลั่วฝูลุกขึ้นจากที่นั่ง ขายาวของนางตั้งตรงอีกครั้ง
“ตกลง” ซูอันต้องการไปเยี่ยมผู้เบิกเท็จเพื่อหาคำตอบสำหรับความสับสนของเขา
“ถ้างั้นก็ออกไปกันเลย” เจียงลั่วฝูชี้นิ้วไปทางประตูแล้วเดินออกไป
เมื่อคนรับใช้เห็นซูอันตามนางออกไป ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ กลุ่มสาวใช้และคนรับใช้เริ่มกระซิบกระซาบกัน
“ขานางยาวมาก! นี่มันไม่มากไปเหรอ?”
“หืม นางแต่งตัวโป๊มาก นางจะเปรียบเทียบกับคุณหนูใหญ่ของเราได้ยังไง?”
“คุณหนูใหญ่เพิ่งจากไปเองนะ? แต่ตอนนี้นายน้อยตามผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว! เจ้าสำราญยิ่งนัก!”
“เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? นี่เป็นแค่การพิสูจน์ว่านายน้อยมีเสน่ห์อย่างมาก”
สถาบันหลวงตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองที่เชิงเขาอวี้เซวียน มีสถานที่ที่มีภูเขาไม่มากนักในเมืองหลวง
ซูอันติดตามเจียงลั่วฝูไปที่เชิงเขาอวี้เซวียน เขาเห็นซุ้มอนุสรณ์ขนาดใหญ่ เสาสีแดงขนาดใหญ่ และฉากหลังสีน้ำเงิน ตัวอักษรสามตัวเขียนด้วยลายมือตัวหนา ‘สำนักศึกษาหลวง’
เมื่อเห็นความสับสนในดวงตาของซูอัน เจียงลั่วฝูอธิบายว่า “สถาบันหลวงเดิมเรียกว่า สำนักศึกษาหลวง แล้วจึงเปลี่ยนเป็นชื่อสถาบันหลวงในภายหลัง แต่เนื่องจากป้ายนี้เขียนขึ้นโดยผู้เบิกเท็จรุ่นแรก และมีความเกี่ยวข้องกับผนึกป้องกันของสถาบัน ป้ายนี้จึงยังไม่ถูกเปลี่ยนและใช้มาตลอดจนถึงทุกวันนี้”
“ทำไมถึงต้องเปลี่ยนชื่อล่ะ?” ซูอันรู้สึกสับสน
เจียงลั่วฝูตกตะลึง “เจ้าถามคำถามที่ดีจริง ๆ น่าประหลาดใจ ข้าไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเปลี่ยนไปเหมือนกัน บางทีจู่ ๆ ทุกคนอาจจะพร้อมใจเรียกมันว่าสถาบันหลวงขึ้นมา”
“โอ้?” ซูอันเริ่มคิดกับตัวเอง
ผ่านซุ้มประตูอนุสรณ์เป็นทางตรงอย่างสมบูรณ์ ต้นไม้สองข้างทางสูงชะลูดและเก่าแก่ แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของที่นี่ จากนั้นพวกเขาก็มาถึงประตูใหญ่ ด้านบนเขียนด้วยคำว่า ‘สถาบันหลวง’ เมื่อพิจารณาจากการลายมือแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เขียนโดยบุคคลเดียวกันกับป้ายก่อนหน้า
บางทีอาจเป็นเพราะเห็นเจียงลั่วฝู ยามที่ทางเข้าจึงไม่ได้หยุดพวกเขาสองคน ซูอันติดตามเจียงลั่วฝูเข้าไปข้างใน การตกแต่งภายในให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากสถาบันจันทร์กระจ่างอย่างสิ้นเชิง
สถาบันจันทร์กระจ่างสว่างไสวกว่าเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรืออาคาร ทุกอย่างดูใหม่กว่า ส่วนสถาบันหลวงค่อนข้างมืดมน ต้นไม้สูงเสียดฟ้าและอาคารต่าง ๆ ดูเก่าแก่คร่ำคร่า กำแพงยังถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์หนาทึบ สื่อได้ถึงความยาวนานของกาลเวลา
จู่ ๆ ซูอันก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่แปลก ๆ นักศึกษาบางคนมองมาทางเขาเป็นครั้งคราว
เขายังไม่หน้าด้านคิดว่าทุกคนกำลังมองเขาอยู่ในเวลานี้ ขาของเจียงลั่วฝูสะดุดตาเกินไป นอกจากนี้ แม้ว่าต้าโจวจะเปิดกว้างมากกว่ายุคโบราณใด ๆ แต่ก็มีไม่กี่คนที่แต่งตัวเหมือนนางในโลกนี้
มีนักศึกษาที่กล้าได้กล้าเสียบางคนถึงกับส่งเสียงร้องเรียกเจียงลั่วฝู
“พวกเจ้ามาเร็วเข้า! ดูขานั่นสิ! สวรรค์ ถ้าถูกขาสวย ๆ สองข้างนั้นคล้องคอ ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะทนได้ถึงสามเหมี่ยว*[1]!”
“นั่นปะไร! พูดเหมือนว่าปกติเจ้าสามารถอยู่ได้นานกว่าสามเหมี่ยวงั้นแหละ”
“เจ้าเคยเห็นถุงน่องที่นางใส่ตามปกติไหม? ผิวขาวผ่องสวมถุงน่องสีดำตัดกันทุกวัน อา… แม้แต่พูดถึงมันก็ทำให้ข้าแทบบ้า…”
“เจ้าเบื่อชีวิตแล้วเหรอ? นางคืออาจารย์คนใหม่! ข้าได้ยินมาว่านางเคยเป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันจันทร์กระจ่างมาก่อน
“เคยเป็นอาจารย์ใหญ่เลยเหรอ? ตอนนี้ข้าชักจะรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นแล้ว!”
…
นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกระซิบกระซาบกันในระยะไกล แม้ว่าพวกเขาจะพยายามทำตัวให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เสียงสนทนาของพวกเขาก็ไม่รอดพ้นจากผู้บ่มเพาะระดับสูงอย่างซูอันและเจียงลั่วฝูที่ได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ
ซูอันทำหน้าแปลก ๆ “เดิมทีข้าคิดว่านักศึกษาในระดับที่สูงกว่าอย่างสถาบันหลวงจะแตกต่างจากสถาบันจันทร์กระจ่าง ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะเหมือนกันหมด”
เจียงลั่วฝูยิ้ม “ทั้งหมดยังหนุ่มยังแน่นและแข็งแรง มันจะแปลกกว่านี้ถ้าพวกเขาไม่มีความคิดเช่นนั้น”
ซูอันตกใจมาก “ท่านไม่โกรธเหรอ?”
“ทำไมข้าต้องโกรธด้วย?” เจียงลั่วฝูมองเขาอย่างแปลกประหลาด “ข้าแต่งตัวแบบนี้เพราะอยากให้คนอื่นมอง ถ้าพวกเขาชอบก็แสดงว่าข้าดูดี ซึ่งข้ายินดีมากที่ได้ยิน ข้าจะโกรธทำไม?”
ซูอันพูดไม่ออก เจ้ามีเหตุผลมากจนข้าไม่รู้จะพูดอะไรด้วยซ้ำ
เฮ้อ ผู้หญิงที่โตแล้วช่างแตกต่างจากสาวน้อยไร้เดียงสาจริง ๆ หากเป็นหญิงสาวตัวเล็ก ๆ พวกนั้น พวกนางคงอายมากในสถานการณ์เดียวกันนี้ บางทีนี่อาจเป็นเสน่ห์ของผู้ใหญ่ด้วย?
ถ้ารู้ว่ามันเป็นแบบนี้ เว่ยสั่ว เจ้าไม่ต้องแอบดูหรอก เจ้าจะนั่งมอง นอนมอง หรือตีลังกามองก็ยังได้!
เจียงลั่วฝูไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนัก นางยังคงเดินเข้าไปข้างในขณะที่กำลังอธิบาย “สถาบันหลวงแบ่งออกเป็นภูเขาด้านหน้าและภูเขาด้านหลัง ภูเขาด้านหน้าคือที่เจ้าเคยเห็นมาก่อน มันเหมือนกับสถาบันจันทร์กระจ่างไม่มากก็น้อย นักศึกษาได้รับการสอนวิชาต่าง ๆ ทุกประเภท”
“ภูเขาด้านหลังเป็นที่ซึ่งศิษย์สายตรงของผู้เบิกเท็จได้บ่มเพาะและเรียนรู้ นอกจากนี้ หากมีนักศึกษาที่โดดเด่นจากภูเขาด้านหน้าที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ พวกเขาอาจกลายเป็นศิษย์ของศิษย์สายตรงเหล่านั้นและได้รับการสอนแบบตัวต่อตัว”
ซูอันคิดกับตัวเองว่า สิ่งนี้เหมือนกับความแตกต่างระหว่างนักศึกษาระดับปริญญาตรีและนักศึกษาวิจัยหรือไม่? หืม แล้วในนิยายแนวบำเพ็ญเซียน นั่นเรียกว่าศิษย์สายนอกและสายในหรือเปล่า?
*[1] วินาที