เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1131 ตรรกะควอนตัม
บทที่ 1131 ตรรกะควอนตัม
อินซือไม่ได้โกรธกับคำพูดตรงไปตรงมาของเจียงลั่วฝู กลับกันเขาพูดต่อด้วยรอยยิ้มแทน “คำพูดของศิษย์พี่แปดฟังแล้วไม่กระจ่างเลยนะ เจ้าต้องการให้ข้าไปไหน?”
“กลับไปทุกที่ที่เจ้าคลานจากมา” ดวงตาของเจียงลั่วฝูกระตุก เห็นได้ชัดว่านางหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ไปในที่ที่ข้าจากมา? ศิษย์พี่แปดฉลาดอย่างยิ่ง เจ้ามีวาสนากับสาขาตรรกะของเราจริง ๆ!” อินซือถอนหายใจด้วยความชื่นชม
ซูอันพูดด้วยรอยยิ้ม “ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่าทำไมท่านถึงอยากวิ่งเร็วกว่านี้” ชายคนนี้ชอบต่อล้อต่อเถียงและกำจัดได้ยากอย่างไม่น่าเชื่อ ใครจะจัดการเรื่องแบบนี้ได้?
ตอนนี้อินซือสังเกตเห็นซูอันแล้วถามว่า “หืม? แล้วนี่ใคร?” จากนั้นสายตาของเขาก็เลื่อนไปที่มือที่ประสานกันของซูอันและเจียงลั่วฝู “โอ้? น้องแปดมีคนรักแล้วเหรอ? ทุกคนรู้ว่าเจ้าปฏิเสธผู้ชายทุกคนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเกือบจะคิดว่าเจ้ามีความพิการตรงนั้นมาแต่กำเนิดหรืออะไรสักอย่าง ในที่สุดพวกเราพี่น้องทุกคนก็รู้สึกโล่งใจจนได้”
สีหน้าของเจียงลั่วฝูมืดลง นางกำหมัดแน่นจนสั่น “ไอ้อ้วน แกอยากโดนดีใช่ไหม?”
อินซือรีบโบกมือ “สุภาพบุรุษใช้วาจาไม่ใช่กำปั้น ความรุนแรงถือเป็นเรื่องไร้มารยาทเกินไป”
เจียงลั่วฝูหัวเราะอย่างเย็นชาและตอบโต้ “ข้าเป็นผู้หญิง ไม่ใช่สุภาพบุรุษ”
“ห้ามมีการต่อสู้ในสถาบันหลวงโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานะเช่นเรา มันจะทำให้เกิดความวุ่นวายมากเกินไป หากเราต่อสู้จริง ๆ อาจารย์อาจจับพวกเรากักตัว! ด้วยอุปนิสัยร่าเริงอย่างข้า ข้าคงทนอยู่ในห้องแยกกักตัวที่ไม่มีใครคุยด้วยไม่ได้จริง ๆ!” อินซือคร่ำครวญ
สีหน้าของเจียงลั่วฝูเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่านางมีความกลัวต่อห้องแยกกักตัวที่ว่านี้เช่นกัน
“แล้วเรื่องนี้ล่ะ? ข้ารู้สึกไม่สบายใจในบางเรื่อง ถ้าศิษย์พี่แปดสามารถตอบคำถามของข้าได้ ข้าก็จะเต็มใจกลับไปยังที่ที่จากมา และจะไม่รบกวนเจ้าอีกต่อไป” อินซือพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
ดวงตาของเจียงลั่วฝูกระตุก “เมื่อเทียบกับการโต้วาทีกับเจ้า ข้าคิดว่าห้องแยกกักตัวอาจจะดีกว่านิดหน่อย”
“เอาน่า… เจ้าก็พูดเกินไป! ใครจะไปรู้ เจ้าอาจสามารถช่วยข้าแก้ปัญหาได้ก็ได้” อินซือกลัวว่านางจะปฏิเสธและรีบพูดว่า “ข้าเพิ่งศึกษาทฤษฎีเมื่อไม่นานมานี้… เงาของนกไม่เคยเคลื่อนไหว ศิษย์พี่แปดรู้สึกว่าคำพูดของข้าสมเหตุสมผลไหม?”
สีหน้าของเจียงลั่วฝูมืดครึ้มราวกับเมฆฝน “ช่างย่ามันเถอะ มันสมเหตุสมผลอยู่แล้วที่เงาของนกต้องเคลื่อนไหว! ไม่ว่านกจะเคลื่อนที่ไปที่ใด เงาของมันก็ติดตามไปทุกที่นั่นแหละ”
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ดูเหมือนว่าเจียงลั่วฝูรู้สึกหงุดหงิดกับผู้ชายคนนี้จริง ๆ ปกตินางไม่เคยพูดแบบนี้
“อ๋อ แต่นั่นอาจไม่ใช่ก็ได้ เจ้าเข้าใจไหม?” อินซือมีรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้า เขาส่ายศีรษะและพูดว่า “เงาของนกไม่เคลื่อนไหว เพราะนกและเงาเชื่อมโยงกัน เกิดเงาใหม่ในขณะที่เงาเก่าจางหายไป มันเป็นแค่การสร้างภาพลวงตาของการเคลื่อนไหว”
เจียงลั่วฝูขมวดคิ้ว อยากจะสาปแช่งเขาจริง ๆ แต่นางรู้ว่าการพูดเป็นงานถนัดของผู้ชายคนนี้ และนางจะต้องทนทุกข์ทรมานทางโสตประสาทมากขึ้น นางจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สงบสติอารมณ์และพูดว่า “เอาล่ะ สิ่งที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล วิวาทะเรื่องนี้มีคุณค่าอย่างยิ่ง เราขอตัวก่อน” นางดึงซูอันไปข้างหลังและเริ่มออกเดิน
ทว่าอินซือหยุดพวกเขาไว้ “ศิษย์พี่แปด ได้โปรดอย่ารีบร้อน! ช่วยบอกทีว่าส่วนไหนที่สมเหตุสมผล ข้ายังไม่เข้าใจว่าตรรกะนี้จะนำไปใช้ในทางปฏิบัติได้ยังไง?”
เจียงลั่วฝูตกตะลึง ซูอันรีบหยุดนางอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่านางกำลังจะระเบิดความโกรธ เขามองไปที่คนอ้วนด้านหน้าและพูดว่า “อืม… น้องชายคนนี้มีคำถามที่คล้ายกันสำหรับเจ้า”
ดวงตาของอินซือเป็นประกายในขณะที่พูดอย่างตื่นเต้น “น้องชาย โปรดถามมา”
เจียงลั่วฝูขมวดคิ้ว รีบพูดว่า “อย่าเถียงกับเขา เจ้าไม่ชนะหรอก”
ซูอันมองดูนางและบอกว่า “อย่าห่วงเลย” จากนั้นพูดต่อว่า “เมื่อเจ้าเดินเล่นริมทะเลสาบในตอนค่ำ ดวงจันทร์กระจ่างลอยอยู่เหนือศีรษะ เจ้าจะพบว่าภาพดวงจันทร์กลับหัวในทะเลสาบติดตามเจ้าไปในขณะที่เดิน มีดวงจันทร์นับไม่ถ้วนในทะเลสาบ หรือมีเพียงดวงเดียวที่ติดตามเจ้าอยู่”
อินซือตอบว่า “แน่นอนว่าเป็นพระจันทร์ดวงเดียว ตามความคิดของข้าตอนนี้ แสงสะท้อนของดวงจันทร์ไม่เคยแม้แต่จะขยับเลย”
ซูอันยิ้มและพูดว่า “สมมติว่ามีเพียงหนึ่งเดียว แล้วคนที่อยู่อีกฝั่งของทะเลสาบล่ะ? เป็นไปได้ไหมที่เขาจะมองไม่เห็นภาพกลับหัว? ในสายตาของเขา ดวงจันทร์ดวงนั้นติดตามเขามาตลอด และตำแหน่งของดวงจันทร์นั้นแตกต่างจากที่เจ้าเห็น”
“หืม? น่าสนใจ…” อินซือยังคงลูบหนวดของเขาต่อไป “แล้วมีหลายดวงไหม?”
“แล้วถ้าเราบอกว่ามีหลายดวง แล้วทำไมมองเห็นแค่ดวงเดียว” ซูอันถาม
“นี่…” อินซืออึ้ง
ดวงตาของนักศึกษาโดยรอบเบิกกว้างด้วยความตกใจ แม้แต่เจียงลั่วฝูก็อ้าปากค้าง นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่นางได้เห็นอินซือนิ่งงัน เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูอันก็ยิ้มออกมา เขาคว้ามือของเจียงลั่วฝูและพานางจากไป
ใบหน้าของเจียงลั่วฝูแดงก่ำ เด็กคนนี้ไม่มีความเคารพผู้ใหญ่เลย! เมื่อครู่นางจับมือเขาเดินเพราะต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้าย ตอนนี้เหตุการณ์กลับสู่ความปกติ แล้วทำไมเขาถึงมาจับมือนาง?
อินซือเกาหัวด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะหนีไป เขาก็ไม่สามารถอดทนต่อไปได้ ร่างอ้วนรีบวิ่งไปที่ด้านข้างของซูอันและพูดว่า “เจ้าหนู แล้วมีแสงสะท้อนของดวงจันทร์กี่ดวง? ถ้าเจ้าไม่รู้ เจ้าก็แค่ล้อข้าเล่น! ข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้าง่าย ๆ แน่นอน!”
เจียงลั่วฝูก้าวไปข้างหน้าซูอัน “ไอ้อ้วน แกพยายามจะขู่ใคร?”
อินซือยิ้มทันทีและพูดว่า “ศิษย์พี่แปด โปรดอย่าโกรธเคือง ข้าแค่สงสัยจริง ๆ และหวังว่าน้องชายของเจ้าจะให้คำตอบกับข้าได้ ไม่อย่างนั้นความภาคภูมิใจของข้าคงถูกทำร้ายอย่างหนัก”
ซูอันตบมือของเจียงลั่วฝูบ่งบอกว่าไม่เป็นไร จากนั้นเขาก็เดินไปข้างหน้าและพูดว่า “ตามตรรกะของควอนตัมเบเซียนนิสม์*[1] การสะท้อนนั้นมีอยู่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีคนอยู่ที่นั่นเพื่อสังเกตมันหรือไม่ หากเจ้าเป็นคนเดียวที่นั่น แสดงว่ามีภาพสะท้อนเดียว ถ้ามีคนหลายคน ก็จะมีภาพสะท้อนมากมาย”
อินซืองุนงง “ใครคือ ‘ควอนตัมเบเซียนนิสม์’”
ซูอันกล่าวว่า “มันเป็นตรรกะควอนตัมที่คิดค้นขึ้นมาโดยอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลนี้ มีหลายสิ่งที่ดำรงอยู่ในสภาวะที่แน่นอนและไม่แน่นอนพร้อม ๆ กัน พวกมันจะปรากฏตัวในรูปแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับผู้สังเกต…” เขาเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ เกี่ยวกับทุกสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับทฤษฎีควอนตัม
อินซือขมวดคิ้วในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานดวงตาาก็เปล่งประกายระยิบระยับ เขาพึมพำกับตัวเอง “นั่นแหละ นั่นแหละ นั่นแหละ… ดูเหมือนข้าจะเกิดความคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ค้างคาใจมานาน…”
เขาเลิกยิ้มซุกซนและคำนับซูอัน “หากข้าได้รู้แจ้งในเต๋าแห่งตรรกะสักวันหนึ่ง ย่อมเป็นเพราะคำพูดของท่านในวันนี้ โปรดรับสามคำนับจากข้า” จากนั้นเขาก็คำนับซูอันสามครั้ง
นักศึกษาที่มุงดูกันอยู่ตาแทบถลนออกมาจากเบ้า เกิดอะไรขึ้น? ท่านอินซือเป็นศิษย์สายตรงของผู้เบิกเท็จ! เขามีสถานะที่ยิ่งใหญ่ในสถาบันหลวง แต่กลับมาคำนับเจ้าหนุ่มคนนี้?
*[1] ในทางฟิสิกส์และปรัชญาของฟิสิกส์ ควอนตัม Bayesianism คือ ชุดของวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการตีความของกลศาสตร์ควอนตัมของที่โดดเด่นที่สุดคือ QBism (ออกเสียง “Cubism”) QBism เป็นการตีความที่ใช้การกระทำและประสบการณ์ของตัวแทนเป็นประเด็นหลักของทฤษฎี ข้อเสนอ QBism กับคำถามที่พบบ่อยในการตีความของทฤษฎีควอนตัเกี่ยวกับธรรมชาติของ wavefunction ซ้อน การวัดควอนตัมและสิ่งกีดขวาง
……….