เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1136 เกมเรียงห้า
บทที่ 1136 เกมเรียงห้า
……….
บทที่ 1136 เกมเรียงห้า
เซี่ยซิวเสียใจมาก คิดกับตัวเองว่าเขาปฏิบัติต่อซูอันอย่างเท่าเทียมกันมาโดยตลอด ต่อให้พี่สาวของเขาจะลงเอยกับผู้ชายคนนี้ เขาก็ยังไม่ต้องเรียกซูอันว่าอา แต่เป็นพี่เขย ใช่ไหม?
ทว่าพี่สาวของเขาไม่ได้ลงเอยกับซูอัน ในท้ายที่สุด ภายใต้สีหน้าที่ดูน่ากลัวของอาจารย์ เขาทำได้เพียงพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ท่านอา…”
ซูอันหัวเราะดังลั่น “อย่าเรียกอย่างนี้เลย เราก็รุ่นเดียวกัน”
เซี่ยซิวดูไม่พอใจอย่างยิ่ง ไอ้บ้าทำไมไม่พูดมาก่อนหน้านี้!? เจ้าเจตนาแกล้งข้าชัด ๆ… ข้าจะไปฟ้องพี่สาว เจ้าลืมไปได้เลยว่าจะมาเป็นพี่เขยของข้า! ฮึ่ม!
เฮยไป๋จื่อไม่สนใจว่าเซี่ยซิวรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ เขามองไปที่ซูอันอย่างกระตือรือร้น “ท่านซูมาเล่นกันเถอะ ใครก็ตามที่สามารถสร้างเกมเรียงห้าได้จะต้องมีทักษะหมากล้อมที่สูงส่ง เป็นเวลานานมากแล้วที่ข้าไม่ได้พบกับคู่แข่งที่มีทักษะสูสีกัน คันไม้คันมือเต็มทีแล้ว!”
ซูอันทำได้เพียงมองเจียงลั่วฝูเท่านั้น เจียงลั่วฝูกล่าวว่า “ศิษย์พี่ห้า ข้ายังต้องพาเขาไปหาท่านอาจารย์”
เฮยไป๋จื่อกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่เบียดเบียนเวลาของเจ้ามากเกินไป ผู้บ่มเพาะที่แท้จริงต้องการเพียงไม่กี่กระบวนท่าเพื่อทำความเข้าใจทักษะของอีกฝ่าย ด้วยทักษะของท่านซู เขาอาจบดขยี้ข้าด้วยการวางหมากเพียงไม่กี่ครั้ง” แม้ว่าเขาจะดูถ่อมตัว แต่ดวงตาของเฮยไป๋จื่อกลับบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถเอาชนะเขาได้ในเวลาอันสั้น
เฮยไป๋จื่อตัวสั่นเมื่อได้ยินคำว่า ‘ศิษย์น้องหญิง’ ราวกับได้ยินสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว “ไม่มีทาง ข้าจะไม่เล่นกับสัตว์ประหลาดตัวน้อยนั่น นางไม่ใช่มนุษย์!” เขาปฏิเสธด้วยความกลัว
ซูอันมองเจียงลั่วฝูอย่างสับสน “ศิษย์น้องหญิง?”
แม้แต่เซี่ยซิวก็ยังตื่นเต้น คนแบบไหนกันที่ทำให้เซียนหมากล้อมหวาดกลัวได้ขนาดนี้? ข้าต้องหาทางเข้าใกล้นางและทำให้นางทรมานเฮยไป๋จื่อเพื่อเขาจะได้ลิ้มรสความทุกข์ยากของข้าบ้าง
เจียงลั่วฝูยิ้ม “ศิษย์น้องหญิงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์และการทำนายโชคชะตา บางทีนางอาจจะรู้อนาคตก็ได้”
“อนาคต? นั่นไม่เกินไปหน่อยเหรอ?” ซูอันตกใจมาก ในนวนิยายและรายการโทรทัศน์ทั้งหมดที่เขาเคยดู ความสามารถที่ทำนายอนาคตได้นั้นมีข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัด บางครั้งการรู้อนาคตไม่ใช่เรื่องดีด้วยซ้ำ และอาจเป็นบ่อเกิดของโศกนาฏกรรมทุกรูปแบบ…
เจียงลั่วฝูตอบว่า “แน่นอนว่าไม่ใช่อนาคตที่แสนไกล ความสามารถของศิษย์น้องหญิงมีจำกัด นางสามารถทำนายอนาคตสั้น ๆ ที่ใกล้จะมาถึงได้เท่านั้น แม้ว่านางจะใช้มันเพื่อเล่นหมากล้อม…”
สีหน้าของเฮยไป๋จื่อมืดครึ้ม “เมื่อใดก็ตามที่ข้าเล่นกับนาง นางจะรู้ว่าข้าจะวางหมากตรงไหนล่วงหน้า ดังนั้นนางจึงชนะข้าเสมอ ช่างน่าผิดหวังจริง ๆ”
“ความจริงคือที่ผ่านมาท่านก็ไม่เคยชนะนาง” เจียงลั่วฝูพูดอย่างโหดเหี้ยม
ใบหน้าของเฮยไป๋จื่อแดงก่ำ “นางไม่ได้เล่นหมากล้อม นางกำลังโกง! การเล่นกับนางสนุกตรงไหนกัน? ท่านซูนี่สิน่าสนใจกว่ามาก” เขาโบกมือหลังจากพูดจบ ลำแสงจำนวนมากปรากฏขึ้นในอากาศ จากนั้นตัวหมากสีดำและขาวก็ปรากฏขึ้นรอบตัวพวกเขา
สีหน้าของเจียงลั่วฝูเปลี่ยนไป นางพูดกับซูอันด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า “เล่นกับเขาสักตาเถอะ เขาเปลี่ยนพื้นที่โดยรอบขังเจ้าไว้แล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางออกไปได้เว้นแต่จะเล่นกับเขา”
ดวงตาของเซี่ยซิวเป็นประกาย มันยอดเยี่ยมมาก! ข้าเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตหลังจากเล่นกับเขามาทั้งวัน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าอาจารย์เป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ที่รู้วิธีเล่นหมากล้อมเท่านั้น เขาไม่เคยสอนสิ่งที่มีประโยชน์ให้ข้าแม้แต่อย่างเดียว
ในวันหนึ่งถ้าข้าสามารถเรียนรู้ทักษะนี้จากเขาได้… ถ้าเจอผู้หญิงที่ชอบ ข้าจะขังนางไว้ด้วยตัวหมากและบังคับให้เล่นเกมกระดานด้วยกัน ใช่แล้ว ด้วยรูปลักษณ์และเสน่ห์ของคุณชายเซี่ยผู้นี้ ข้าสามารถทำให้พวกนางตกหลุมรักได้ภายในการเล่นเพียงรอบเดียว
แต่เกมกระดานที่ว่าต้องไม่ใช่หมากล้อมแน่นอน ข้าอยากจะอาเจียนทุกครั้งที่นึกถึงหมากล้อม
เซี่ยซิวรู้สึกตื่นเต้น แต่ซูอันกลับต่างออกไป เขาไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะติดการเดินหมากขนาดนี้ เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งรอบข้างด้วยพลังชี่ มีผนึกอยู่รอบตัวทั้งสอง พลังชี่ของซูอันไม่สามารถออกไปจากเขตผนึกได้เลย
ราวกับสัมผัสได้ว่าซูอันกำลังทำอะไร เฮยไป๋จื่อหัวเราะและพูดว่า “ข้าไม่คิดว่าท่านซูจะมีการบ่มเพาะที่ลึกซึ้งเช่นนี้ อย่างที่คาดไว้ว่า อัจฉริยะในเกมหมากล้อมจะบกพร่องด้านอื่นไปได้ยังไง?”
เจียงลั่วฝูพูดไม่ออก ทำไมข้าถึงรู้สึกไม่พอใจอะไรสักอย่าง?
ซูอันเริ่มครุ่นคิด เขาไม่สามารถยอมรับว่าตัวเองไม่รู้วิธีเล่นหมากล้อม และกังวลว่าอีกฝ่ายจะโกรธถ้าเขาพูดแบบนั้น เมื่อถึงจุดนั้นคงยากที่จะคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่เป็นภูเขาด้านหลังของสถาบัน ดังนั้นจึงไม่ฉลาดที่จะรุกรานศิษย์สายตรงของผู้เบิกเท็จ
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ซูอันไม่อยากกลายเป็นตัวโง่ในสายตาคนอื่น เขาไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ว่าไม่รู้วิธีเล่น เมื่อเห็นว่าเฮยไป๋จือกระตือรือร้นเพียงใด และแม้แต่เจียงลั่วฝูก็มองมาที่เขาด้วยความชื่นชม การยอมรับออกไปจะเป็นจุดจบของชีวิตทางสังคมหรือไม่?
ความคิดในสมองแล่นปราดอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าเขาก็พบวิธีแก้ปัญหา ซูอันตอบพร้อมกับกระแอมเบา ๆ “เอาอย่างนี้มั้ย? อย่าเล่นหมากล้อมเลยเรามาเล่นแค่เกมเรียงห้ากันเถอะ*[1]”
“เกมเรียงห้า?” เฮยไป๋จื่อขมวดคิ้ว เขาถามด้วยความลังเลเล็กน้อย “มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ?”
เขาชื่นชมซูอันในการคิดค้นวิธีเล่นใหม่ แต่นั่นเป็นเพียงความซาบซึ้งในความเข้าใจเกี่ยวกับเกมหมากล้อมเท่านั้น เขาคิดว่าทักษะการเล่นหมากล้อมของซูอันจะต้องสูงมากอย่างแน่นอน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมซูอันถึงสร้างวิธีเล่นที่น่าสนใจขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเซียนหมากล้อม เขายังสามารถบอกได้ว่าเกมเรียงห้านั้นค่อนข้างเรียบง่ายจากการมองปราดเดียว เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือคนทั่วไปเท่านั้น ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญหมากล้อมตัวจริงย่อมไม่มีค่าพอที่จะพูดถึง
ซูอันพูดด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าเกมเรียงห้านี้จะดูเรียบง่าย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งมากมาย”
“โอ้?” เฮยไป๋จื่อตื่นเต้นทันที “งั้นข้าคงต้องลองดูแล้วล่ะ”
หากคนอื่นพูดเช่นนี้เขาคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน เขาอาจจะถ่มน้ำลายใส่หน้าคนพูดด้วยซ้ำ แต่ชายคนนี้เป็นผู้คิดค้นเกม ซูอันได้กลายเป็นเซียนหมากล้อมในความคิดของเฮยไป๋จื่อแล้ว นั่นคือเหตุผลที่เขาอยากทดลองด้วยตัวเอง
ทั้งสองคนนั่งลงในศาลา เซี่ยซิวช่วยพวกเขาจัดเตรียมทุกอย่าง ส่วนเจียงลั่วฝูยืนอยู่ด้านข้างเฝ้าดูอย่างตื่นเต้น
ในฐานะผู้ทรงภูมิคนหนึ่ง นางเข้าใจเกมหมากล้อมโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่เกมสั้น ๆ อย่างเกมเรียงห้ากลับน่าสนใจกว่า ตอนนี้นางสามารถเฝ้าดูเซียนหมากล้อมสองคนเผชิญหน้ากันและลุ้นว่าใครจะชนะและใครจะแพ้
สายตาของเจียงลั่วฝูเลื่อนไปมองซูอัน จากนั้นนางก็ฟุ้งซ่านไปชั่วขณะ เมื่ออยู่ในสถาบันจันทร์กระจ่าง ชายหนุ่มคนนี้ถูกผู้คนประนามว่าไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าไม่ใช่เพราะนางบังเอิญรู้ว่าเขามีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำ นางก็คงคิดแบบเดียวกับคนอื่นใช่ไหม?
แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำ แต่กลับอ่อนแอมากในตอนนั้น นางสามารถฆ่าเขาได้ด้วยนิ้วเดียว แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเติบโตมาถึงระดับนี้แล้ว การบ่มเพาะของเขาเกือบจะไล่ทันข้าแล้ว! ดูเหมือนว่าเขาจะมีทักษะมากมายในทุกด้าน…
ท้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอินซือ หวางซู่หยาง หรือเฮยไป๋จื่อ พวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะในด้านของตน หากมีใครได้รับการยอมรับจากพวกเขาคนใดคนหนึ่ง ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว อย่างไรก็ตาม ซูอันกลับได้รับการยอมรับอย่างสูงจากทั้งสามคน?
ตอนนี้นางมีความรู้สึกมั่นใจในตัวซูอันอย่างไม่เคยมีมาก่อน นางพูดกับเขาผ่านกระแสพลังชี่ว่า “อาซู ถ้าเจ้าชนะเขา ข้าจะให้ตำแหน่งเจ้าง่ายกว่ามาก”
*[1] เกมเรียงห้า หรือ โกโมกุ เป็นเกมกระดานชนิดหนึ่ง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Gobang โดยทั่วไปแล้วเล่นกับตัวเดินหมากล้อม (หมากดำและหมากขาว) บนกระดานหมากล้อม (19×19) อย่างไรก็ตาม เพราะเดินได้ที่ละหนึ่งครั้ง และตัวเดินไม่สามารถย้ายที่หรือออกจากกระดานได้ โกโมกุอาจเล่นบนกระดาษกับปากกา เกมชนิดนี้เป็นที่รู้จักในหลายประเทศภายใต้ชื่อที่แตกต่างกัน โดยหมากตัวดำเดินก่อน ผู้เล่นวางตัวเดินบนตำแหน่งบนกระดานที่มีเส้นตัดกัน ผู้ชนะคือผู้ที่สามารถเรียงตัวเดินได้ 5 ตัวในแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวทแยงมุม
……….