เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1137 เสียเปรียบเต็มประตู
บทที่ 1137 เสียเปรียบเต็มประตู
“ข้าเนี่ยนะ…?” ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ พี่สาว… เจ้าไม่มั่นใจในตัวข้ามากเกินไปเหรอ? ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะชนะได้ไหม
เซี่ยซิวเดินมาพร้อมกับตัวหมากสีดำและสีขาว วางหมากสีขาวไว้ข้างอาจารย์ของเขา
เฮยไป๋จื่อขมวดคิ้ว สีดำเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ดังนั้นผู้เล่นใหม่หรือผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าจะเริ่มต้นด้วยตัวหมากสีดำ เขากังวลว่าเรื่องนี้จะทำให้ซูอันขุ่นเคือง แต่ด้วยชื่อเสียงของเขาในฐานะเซียนหมากล้อมคนหนึ่ง มันจะน่าอายเกินไปไหมที่จะเริ่มด้วยหมากดำ? ในใจเขาค่อนข้างขัดแย้ง
ซูอันเห็นความลำบากใจของเขาและกล่าวว่า “ตัวตนที่โดดเด่นของท่านเป็นเซียนหมากล้อมที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ดังนั้นท่านจึงมีความอาวุโสกว่าข้า แน่นอนว่าข้าควรเริ่มด้วยหมากดำ”
เฮยไป๋จื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านซูเป็นคนใจกว้าง เชิญ!”
เมื่อเริ่มด้วยหมากดำ ซูอันรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เหตุผลที่เขากล้าเล่นกับเซียนหมากล้อมเพราะเกมเรียงห้ามีวิธีการชนะที่แน่นอน แต่กฎคือเจ้าต้องเริ่มวางหมากก่อน
เขาวางหมากดำไว้กลางกระดานอย่างใจเย็น
สีหน้าของเฮยไป๋จื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในเกมหมากล้อม การวางตัวหมากจากขอบจะดีกว่า การวางหมากตรงกลางทำอะไรไม่ได้มากนัก เหมือนเสียเปล่าจริง ๆ
ซูอันจงใจออมมือให้เขาหรือไม่? ท้ายที่สุดแล้ว ระหว่างผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง ชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นเพียงความแตกต่างเท่านั้น ถ้าเขากล้าที่จะออมมือให้ข้าจริง ๆ หมายความว่าทักษะของชายคนนี้เหนือกว่าข้ามากไม่ใช่หรือ?
ร่างที่นั่งอยู่ของซูอันดูลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ เฮยไป๋จื่อไม่กล้าแสดงความประมาทในตอนนี้ เขารีบนั่งตัวตรงและใช้ความสนใจเกินสิบส่วน เขาเคยเล่นเกมเรียงห้านี้มาก่อน ดังนั้นจึงรู้โดยธรรมชาติว่าตำแหน่งใดที่ต้องป้องกัน นอกจากนี้ เขาต้องเปลี่ยนจากตำแหน่งรับเป็นรุกไม่อย่างนั้นจะถูกกดดันตลอดเวลา
ทั้งสองคนผลัดกันวางหมาก ในตอนแรก เฮยไป๋จื่อยังดูค่อนข้างผ่อนคลาย แต่สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
เจียงลั่วฝูมีรอยยิ้มบนใบหน้า แม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องที่นางชำนาญ แต่ก็ยังสามารถบอกได้ว่าซูอันเป็นฝ่ายได้เปรียบ ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นว่าซูอันกำลังจะชนะ
ในอีกด้านหนึ่ง เซี่ยซิวมีความสุขมากจนแทบจะกระโดด เฮยไป๋จื่อ ไอ้แก่ เห็นไหมใครกำลังหัวเราะอยู่ตอนนี้? เจ้าเอาแต่รังแกข้าวันแล้ววันเล่า แต่ตอนนี้เจ้าถูกรุ่นเยาว์กระทำ! มาดูกันว่าต่อไปเจ้าจะวางหน้าหยิ่งยโสอย่างไร! แน่นอนว่าไม่มีทางที่เขาจะพูดออกมาดัง ๆ ภายนอกเซี่ยซิวดูโศกเศร้าเพราะกลัวว่าอาจารย์ของเขาจะโกรธเอา
ในขณะเดียวกัน เขาก็แอบมองซูอันอยู่สองสามครั้ง เด็กคนนี้โดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ! ดูเหมือนว่าสายตามองผู้ชายของพี่สาวจะเฉียบคมกว่าข้า…
จิ๊ ตาข้าน่ะมีดีแค่ส่องสาว ๆ เท่านั้นแหละ! ทำไมข้าต้องเก่งในการประเมินผู้ชายด้วยล่ะ? ตัวอย่างเช่นอาจารย์ใหญ่เจียงนี่เอาไปสิบเต็มสิบเลย ดูขาเรียว ๆ นั่นสิ…
ทำไมเจ้าไม่จ้องหน้าซูอันแบบนี้ล่ะ? เจ้านั่นก็มองเจ้าเหมือนข้านี่แหละ ซูอันดูได้ แต่ข้าดูไม่ได้งั้นเหรอ? ซูอันมีคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ คุณหนูเพ่ย และพี่สาวของข้าอยู่แล้ว… แน่นอนว่าเขาคิดแต่เรื่องพวกนั้น ในท้ายที่สุด เขามั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะเป็นการดีกว่าสำหรับเขาที่จะหาสาวงามจากครอบครัวที่ต่ำต้อย ผู้หญิงเหล่านั้นอ่อนโยนและใจดีกว่ามาก ปล่อยให้ซูอันสนุกกับแม่เสือสาวพวกนั้นไปเถอะ
หลังจากที่เจียงลั่วฝูจ้องเซี่ยซิวด้วยท่าทางดุร้าย นางพูดกับเฮยไป๋จื่อว่า “ศิษย์พี่ห้า ท่านจะทำอะไรก็รีบทำเถอะ พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว มันจะไม่ช้าไปหน่อยเหรอ?”
สีหน้าของเฮยไป๋จื่อซีดลง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ในท้ายที่สุดเขาลดตัวหมากลงอย่างช่วยไม่ได้และยอมแพ้ “ข้าแพ้แล้ว”
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เซียนหมากล้อมก็คือเซียนหมากล้อม แม้ว่าเขารู้วิธีชนะอย่างแน่นอน แต่มีหลายครั้งที่เฮยไป๋จื่อเกือบทำสำเร็จ ในที่สุดเขาต้องใช้สมาธิอย่างมากและไม่กล้าประมาท ไม่อย่างนั้นคนที่ชนะน่าจะเป็นเฮยไป๋จื่อแทน
เฮยไป๋จื่อจ้องมองซูอันด้วยความงุนงง “ท่านซูยังเด็กมาก แต่กลับมีฝีมือโดดเด่นยิ่งนัก นอกจากนี้ท่านยังให้แต้มต่อข้าในตอนเริ่มต้น ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับความพ่ายแพ้”
ใบหน้าของซูอันร้อนขึ้น คนที่เริ่มก่อนได้เปรียบอย่างชัดเจน เหตุผลเดียวที่เฮยไป๋จื่อคิดแบบนั้นเพราะเขาคิดจากมุมมองของเกมหมากล้อม “ผู้อาวุโสสุภาพเกินไป อันที่จริง ชัยชนะและความพ่ายแพ้อยู่ใกล้กันมาก มีหลายครั้งที่ข้าเกือบจะพ่ายแพ้”
เฮยไป๋จื่อหัวเราะเบา ๆ “ท่านยังเด็ก แต่กลับไม่หยิ่งยโส ไม่เลว ๆ ศิษย์น้องแปด ตัวเลือกของเจ้าไม่เลวเลยนะ”
เจียงลั่วฝูรู้สึกว่าใบหน้ากำลังกระตุก “ดูท่านพูดสิ เขาเป็นแค่สหายเท่านั้น” เกิดอะไรขึ้นกับตาแก่ตดเหม็นเหล่านี้? ทำไมจู่ ๆ พวกเขาถึงลุกขึ้นมาเล่นบทพ่อสื่อกันหมด?
“แค่สหาย?” เฮยไป๋จื่อมีรอยยิ้มที่คลุมเครือบนใบหน้า เชื่อลิงดีกว่าเชื่อเจ้า! ผู้หญิงคนนี้ดุร้ายมาก นางเคยใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนมาก่อนตั้งแต่เมื่อไร? นับประสาอะไรกับการพาเขามาที่ภูเขาด้านหลัง คิดว่าข้าตาบอดเหรอ?!
เจียงลั่วฝูไม่สามารถทนต่อสายตาแปลก ๆ ของเขาได้ นางคว้ามือซูอันและพูดว่า “อาซูเราไปกันเถอะ จบเกมแล้วนี่!”
หลังจากนั้นพวกเขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว ซูอันทำได้เพียงยกมือขอโทษเฮยไป๋จื่อ “ผู้อาวุโส เราจะได้พบกันใหม่” เพราะเขาชนะการแข่งขัน ข้อจำกัดทั้งหมดในความสัมพันธ์จึงหายไปโดยธรรมชาติ
“เราจะได้พบกันอีกแน่นอน อย่างไรก็ตาม ข้าไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นรุ่นพี่อีกแล้ว” เฮยไป๋จื่อถอนหายใจขณะมองดูทั้งสองจากไป เขารู้สึกอ้างว้างแปลก ๆ
แม้ว่าเซี่ยซิวจะมีความรู้สึกสะใจอยู่ภายใน แต่เขาพูดด้วยความเสแสร้งว่า “อาจารย์ ท่านไม่จำเป็นต้องรู้สึกเจ็บปวดเกินไป อาซูแค่โชคดี ทักษะหมากที่แท้จริงของเขาไม่ดีเท่าเซียนหมากล้อมอย่างท่านเลย”
“เจ้ามันไม่รู้อะไรเลย!” เฮยไป๋จื่อโกรธจัดและคำรามใส่เขา “คนที่มีความสามารถเท่านั้นที่ถือว่าความสำเร็จคือโชค! ถ้าอาจารย์ของเจ้าแพ้ก็คือแพ้! ทักษะการเล่นเกมของท่านซูนั้นสูงที่สุดในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่ข้าเคยเห็นมาในชีวิตนี้ เขาต่อให้ข้าตั้งแต่เริ่มเกม แต่ข้าก็ยังแพ้! ข้ามีแต่ความชื่นชมต่อเขา ข้าจะเป็นผู้แพ้อย่างเจ็บปวดได้ยังไง?”
“ท่านพูดถูก ท่านพูดถูก อาจารย์เป็นคนใจกว้างจริง ๆ” เซี่ยซิวเปลี่ยนมาเยินยอทันที
เฮยไป๋จื่อโวยวาย “ตั้งกระดานหมากอีกครั้งและเล่นกับอาจารย์ของเจ้าสักสองสามเกม”
“ฮะ?” ใบหน้าของเซี่ยซิวมืดครึ้มทันที เขาอยากจะอาเจียนทุกครั้งที่เห็นกระดานหมากล้อม
“หมายความว่ายังไง? เร็วเข้า” ด้วยการแกว่งแขนเสื้อของเฮยไป๋จื่อ หมากสีขาวและสีดำแยกออกเป็นสองกอง “เราจะเล่นเกมเรียงห้ากัน ทบทวนเกมระหว่างท่านซูกับข้าอีกครั้ง”
“ได้ ไม่มีปัญหา!” ดวงตาของเซี่ยซิวเป็นประกาย เขาคิดกับตัวเองว่า ข้าคงไม่สามารถเอาชนะเจ้าในเกมหมากล้อมได้ แต่เจ้าคิดว่าข้าไม่เคยเล่นเกมเรียงห้ามาก่อนเหรอ? ขนาดซูอันยังสามารถเล่นได้คล่องแคล่ว ข้าก็จะเล่นตามเขานั่นแหละ เอาให้เจ้าอดสูที่ต้องแพ้รุ่นเยาว์ถึงสองคน!… เขานั่งลงด้วยความคึกคะนอง แต่เขาก็เสียใจหลังจากนั้นไม่นาน เขาแพ้หลังจากการวางหมากเพียงไม่กี่ครั้ง
เฮยไป๋จื่อวิพากษ์วิจารณ์เขาเป็นครั้งคราว
“เจ้าโง่ เจ้าจะแพ้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง!?”
“ข้าจะทำอย่างไรกับสมองน้อย ๆ ของเจ้าดี?
“ทำไมเจ้าไม่เอาอย่างท่านซูล่ะ? อายุของเจ้าเท่ากัน แต่ความแตกต่างระหว่างพวกเจ้ากว้างราวกับโพ้นทะเล!”
เซี่ยซิวอยากจะร้องไห้ ผู้ชายคนนั้นแย่งพี่สาวของข้าไป แต่ข้าจับน้องสาวของเขาไม่ได้ ทำไมข้าต้องเสียเปรียบขนาดนี้…
……….