เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1140 ไม่ให้พบ
บทที่ 1140 ไม่ให้พบ
ซูอันรู้สึกสับสนอย่างไม่น่าเชื่อ นี่คือภูเขาด้านหลังของสถาบันหลวงที่มีชื่อเสียง แต่กลับมีโจรคอยรีดไถค่าผ่านทาง? เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปทางต้นเสียง เห็นหญิงสาวนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ขาเรียว ๆ ของนางห้อยอยู่กลางอากาศราวกับเป็นเพียงสาวน้อยข้างบ้านที่กำลังเล่นชิงช้า นางดูไม่เหมือนโจรเลย
อย่างไรก็ตาม ชุดของนางค่อนข้างแปลก นางสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้ม กระโปรงมีลายดาวสีขาวและสีเหลืองอ่อน ลวดลายบนเสื้อผ้าดูคุ้นเคยอย่างลึกลับ แต่เขาจำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน โจรรีดไถยังสวมหมวกทรงสูงและแหลมที่ดูค่อนข้างคล้ายกับหมวกแม่มดในนิยายจากโลกเก่าของเขา
แต่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความชั่วร้ายที่มาจากหญิงสาวคนนี้ ตรงกันข้ามนางกลับดูอ่อนหวานมาก ดวงตาสุกสกาวราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ผิวที่ขาวซีดอย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับว่าไม่เคยเดินใต้แสงอาทิตย์มาก่อนเลย
ทว่าความซีดของนางไม่ใช่อาการเจ็บป่วย แต่เป็นการเพิ่มความละเอียดอ่อนให้กับรูปลักษณ์ของนาง สองข้างแก้มนั้นมีลักยิ้มทรงเสน่ห์
ช่างเป็นสาวน้อยที่น่ารักจริง ๆ แต่ตอนนี้มีวงกลมสีดำขนาดใหญ่สองวงรอบดวงตาของนาง นอกจากนี้ นางกำลังหาว ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์อยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ซูอันไม่ได้ลดความระมัดระวังลงเพราะรูปร่างหน้าตาที่สะสวย ใครก็ตามที่จะหยุดพวกเขาไว้และพยายามรีดไถคงไม่ใช่คนดีเด่อะไร ร่างกายทั้งหมดของซูอันเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อย่างลับ ๆ
“น้องเล็ก?” ซูอันจำได้ว่ามีศิษย์สายตรงคนหนึ่งที่ค้นคว้าเกี่ยวกับการทำนายดวงชะตาและปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์
เขาคิดว่าจะเป็นหญิงชราเสียอีก! ท้ายที่สุดแล้ว ลำดับศิษย์พี่น้องมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่เป็นการตัดสินว่าใครถูกรับเข้ามาเป็นศิษย์ก่อน มีโอกาสที่คนที่อยู่ในลำดับหลังจะแก่กว่าเจียงลั่วฝูมาก แต่แท้จริงแล้วคือสาวน้อยน่ารักคนนี้
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าลวดลายบนเสื้อผ้าของนางคืออะไร พวกมันเป็นแผนที่ดวงดาวในจักรวาล! ตำแหน่งของดวงดาวในโลกนี้แตกต่างจากในโลกก่อนหน้าของเขา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่รู้ในทันทีว่าพวกมันคือลวดลายอะไร
แม้ว่า… แม้ว่าพวกมันจะเหมือนกัน แต่นักเลงคีย์บอร์ดอย่างเขาก็ยังแยกความแตกต่างไม่ได้
เมื่อมองดูรูปร่างหน้าตาของสาวน้อยตัวเล็กคนนี้แล้ว มันเป็นเรื่องยากสำหรับซูอันที่จะจินตนาการว่านางมีความสามารถในการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ คนที่เรียนเรื่องพวกนี้ล้วนแต่เป็นคนเก่าแก่หรือบัณฑิตที่เข้มขลังอย่างจูกัดเหลียงไม่ใช่เหรอ?
“ศิษย์พี่แปดนั่นเอง” สาวน้อยคนนั้นกระโดดลงมาจากต้นไม้ แผนภาพดาวปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้ารองรับน้ำหนักไว้ขณะที่นางลงมาอย่างสบาย ๆ
เจียงลั่วฝูก็ยิ้มเช่นกัน นางพูดกับซูอันว่า “อาซูข้าจะแนะนำนาง นี่คือ ฉีเหยากวง ศิษย์น้องของข้า ศิษย์น้องเล็กนี่คือสหายของข้า ซูอัน”
“ฉีเหยากวง?”
เจียงลั่วฝูพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้ารู้สึกว่าชื่อนี้คุ้น ๆ บ้างไหม? มิติลับหยกจรัสในภูเขาจันทร์กระจ่างเหมือนกับชื่อของนาง ข้าพบว่ามันค่อนข้างบังเอิญเช่นกัน”
ฉีเหยากวงกล่าวว่า “ข้าอยากจะลองไปดูสักครั้ง แต่ก็พลาดโอกาสไปทุกครั้งด้วยเหตุผลหลายประการ”
“ว่าไง ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?” เจียงลั่วฝูถามด้วยความอยากรู้
ฉีเหยากวงตอบว่า “จู่ ๆ ข้านึกอยากทำนายให้ตัวเอง ข้ารู้ว่าอาจารย์จะเรียกข้ามาที่นี่เพื่อหยุดพวกท่าน ข้าเลยมาก่อนเวลา จะได้ไม่ต้องฟังเขาดุด่า”
ซูอันอดไม่ได้ที่จะยิ้ม ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะครอบครัวไหน น้องเล็กคนสุดท้องก็จะเอาแต่ใจอยู่เสมอ เขาสามารถบอกได้จากน้ำเสียงของน้องสาวคนนี้ว่าผู้เบิกเท็จนั้นหลงใหลในตัวนางอย่างมาก หืม? เดี๋ยวก่อน นางทำนายว่าผู้เบิกเท็จจะเรียกนางมาหยุดพวกเรา?
“อาจารย์เรียกเจ้ามาห้ามพวกเราเหรอ?” เจียงลั่วฝูก็ตกใจเช่นกัน “ทำไม?”
“โอ้” ฉีเหยากวงพยักหน้า “อาจารย์มีแขกคนสำคัญมาขอเข้าพบก่อน”
ซูอันยิ้มและพูดว่า “ข้ารอได้” เขามีคำถามมากมายที่จะถามผู้เบิกเท็จ จึงไม่รังเกียจที่จะรอสักหน่อย แม้จะไม่รู้ว่าใครคือแขกคนสำคัญที่ควรค่าแก่การเข้าพบผู้เบิกเท็จเป็นการส่วนตัว
ฉีเหยากวงถอนหายใจ “ศิษย์พี่ พวกท่านมักจะพูดว่าความฉลาดทางอารมณ์ของข้าต่ำ แต่ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะต่ำกว่าข้า? ท่านอาจารย์แค่ใช้คำว่ามีแขกคนสำคัญเป็นข้ออ้าง พวกท่านจะได้ไม่รู้สึกแย่ แต่จริง ๆ แล้วเพราะเขาไม่อยากเจอพวกท่านเลยต่างหาก แต่พวกท่านกลับยืนยันที่จะอยู่รอเสียได้”
ซูอันพูดไม่ออก อะไร? คำพูดเหล่านั้นทำร้ายจิตใจอย่างยิ่ง
…
องค์หญิงรัชทายาทตกใจ นางมองร่างลึกลับ “ผู้เบิกเท็จ ทำไมท่านไม่ไปพบเขา” ในตอนแรกนางคิดว่าเป็นเพราะสถานะของซูอันต่ำเกินไปจึงเป็นสาเหตุที่ผู้เบิกเท็จไม่ต้องการพบเขา แต่ทันใดนั้นนางก็จำได้ว่าศิษย์สายตรงของเขาเป็นคนพาซูอันมาที่นี่ ไม่ควรมีเหตุผลใดที่เขาต้องเป็นแบบนี้
“มันยังไม่ถึงเวลา” ผู้เบิกเท็จพูดด้วยน้ำเสียงลากยาว
ปี่หลิงหลงตกตะลึง หมายความว่าอย่างไร? ยังไม่ถึงเวลา? นางต้องการถามมากกว่านี้ แต่ผู้เบิกเท็จไม่ได้สนใจนางอีกต่อไป เขายังคงยืนอยู่หน้าภาพวาดฝาผนังนั้นด้วยอาการเหม่อลอย
…
ภายนอก เจียงลั่วฝูก็งงงวยเช่นกัน “ทำไมอาจารย์ถึงไม่อยากพบเขา? ข้าพาเขามาที่นี่เพราะมีเรื่องต้องรายงานอาจารย์”
ฉีเหยากวงเอียงศีรษะมองไปที่ซูอัน “ข้าไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงออกคำสั่งแปลก ๆ โดยปกติเขาสามารถเลือกที่จะไม่พบท่านหากไม่ต้องการ แต่ทำไมอาจารย์ถึงเรียกข้ามาที่นี่เพื่อหยุดท่าน? ผู้ชายคนนี้แตกต่างจากคนอื่นตรงไหน?”
“บางทีข้าอาจจะหล่อมาก?” ซูอันยืดอก
ฉีเหยากวงมองเจียงลั่วฝู “ศิษย์พี่ อย่าบอกนะว่านี่คือความฉลาดทางอารมณ์ที่สูงขึ้น”
สีหน้าของเจียงลั่วฝูมืดลง “อย่าฟังเรื่องไร้สาระของชายผู้นี้ เขาเป็นแบบอย่างที่ดีของคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ”
ดวงตาของฉีเหยากวงเป็นประกาย นางรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นเมื่อมองไปที่ซูอัน
ซูอันคิดกับตัวเองว่า มีสถานที่หลายแห่งที่ข้าเข้าไปได้ แต่เจ้าเข้าไปไม่ได้ หยุดพยายามทำตัวสนิทสนมกับข้าเถอะ
ฉีเหยากวงกล่าวว่า “เดี๋ยวนะ อาจารย์ทำตัวแปลกจริง ๆ ให้ข้าดูชะตากรรมของท่านหน่อย”
ขณะที่นางพูด ดวงดาวมากมายก็ก่อตัวขึ้นในมือของนางแล้ว พวกมันหมุนวนจนเป็นแผนที่จักรวาล จากนั้นนางก็บิดบางสิ่งที่ดูเหมือนหน้าปัด ดวงตาเริ่มเปล่งประกายเมื่อนางมองซูอัน
หลังจากเห็นภาพอันตื่นตาที่ฉีเหยากวงแสดง ซูอันกระโดดด้วยความตกใจ “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” เขาเคยสัมผัสกับภาพลวงตาของตาปีศาจและเจียซืออี๋มาก่อน ด้วยความกังวลว่ามันจะคล้ายกันจึงตื่นตัวทันที
เจียงลั่วฝูปลอบใจ “ไม่ต้องกังวล นี่คือความสามารถของนาง นางสามารถมองเห็นอนาคตของบุคคลได้ในระดับหนึ่ง เมื่อครั้งที่ข้าลังเลว่าตัวเองควรจะเป็นองค์หญิงรัชทายาทหรือไม่ นางช่วยข้าดูและบอกว่าชีวิตข้าจะดีขึ้นมากถ้าไม่ได้เป็นองค์หญิงรัชทายาท นอกจากนี้ ข้าไม่ต้องการที่จะเป็นองค์หญิงรัชทายาทอยู่แล้ว ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่นางพูดในตอนนั้นถูกต้อง”
……….