เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1141 ต้องการให้เป็นอาจารย์ประจำสถาบันหลวง
บทที่ 1141 ต้องการให้เป็นอาจารย์ประจำสถาบันหลวง
……….
บทที่ 1141 ต้องการให้เป็นอาจารย์ประจำสถาบันหลวง
ปี่หลิงหลงอารมณ์เสียขณะที่นางรออยู่ในห้อง ทุกคนภายนอกคิดว่านางทำได้ดีมากในฐานะองค์หญิงรัชทายาท แต่มีเพียงนางคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่ามันยากเพียงใด มันดูเป็นตำแหน่งที่น่าทึ่ง แต่จริง ๆ แล้วเต็มไปด้วยอันตราย
เป็นไปได้ไหมที่โชคชะตาของข้าจะถูกทำลาย… ไม่ ตราบใดที่องค์รัชทายาทกลายเป็นจักรพรรดิ ข้าก็จะเป็นจักรพรรดินี! ข้าสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของข้าได้! สีหน้าว่างเปล่าของนางกลายเป็นมั่นคงทันทีเมื่อนางมีความคิดเหล่านั้น นางไม่เห็นว่าผู้เบิกเท็จแอบส่ายหน้าอยู่ข้างหลังนาง
…
ซูอันสบายใจขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงลั่วฝูพูด อย่างไรก็ตาม เขายังคงกังวลเล็กน้อย นางคงไม่สามารถมองผ่านตัวตนของเขาในฐานะผู้ข้ามมิติได้ใช่ไหม?
“ทำไมเจ้าถึงจ้องมองเขานานนัก ผลลัพธ์เป็นยังไง?” เจียงลั่วฝูเดินไปหาฉีเหยากวงด้วยความอยากรู้
“เป็นไปได้ยังไง?” ฉีเหยากวงงงงวย “ข้ามองไม่เห็นเส้นทางแห่งโชคชะตาของเขาเลย เห็นแต่ดอกท้อเต็มไปหมด*[1]”
“ดอกท้อ? นั่นหมายความว่าอย่างไร?” เจียงลั่วฝูขมวดคิ้ว
ฉีเหยากวงส่ายศีรษะ “ข้าไม่รู้ สิ่งเดียวที่ข้าเห็นคือสีชมพูเต็มไปหมด”
ซูอันก็สับสนเช่นกัน สาวน้อยคนนี้มีทักษะในการทำนายจริง ๆ หรือว่านางเป็นแค่นักต้มตุ๋นตัวเล็ก ๆ กันแน่?
“เจ้ายังบอกไม่ได้เหรอ?” เจียงลั่วฝูคิดว่ามันเหลือเชื่อไปหน่อย
ฉีเหยากวงส่ายศีรษะอีกครั้ง สองมือก็ปรับหมวกที่เอียงเล็กน้อย “มันแปลกจริง ๆ อย่างน้อยข้าก็สามารถเห็นบางอย่างในตัวคนอื่นได้ แต่ข้ามองไม่เห็นอะไรจากเขาเลยสักอย่าง!”
สีหน้าของเจียงลั่วฝูเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “ดอกท้อเต็มไปหมดงั้นเหรอ? หมายความว่าผู้ชายคนนี้จะยุ่งกับผู้หญิงทุกประเภทไปตลอดชีวิต? เขามีโชคกับผู้หญิงเหรอ?”
องค์หญิงรัชทายาทตากระตุกเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ไม่แปลกใจเลยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเขา เสื้อผ้าของข้าก็หายไปด้วย! คนงี่เง่าคนนี้ต้องเป็นเทพแห่งตัณหากลับชาติมาเกิดหรืออะไรสักอย่าง
ฉีเหยากวงส่ายศีรษะ “มีหลายวิธีในการตีความดอกท้อ อาจเป็นโศกนาฏกรรมดอกท้อ แต่ก็อาจเป็นอย่างอื่นได้เช่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับโชคชะตาของเขา สิ่งที่อธิบายชะตากรรมของคน ๆ หนึ่งเป็นอย่างอื่น… เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น?” นางเดินไปรอบ ๆ ซูอันในขณะที่พูด ดวงตาที่ง่วงงุนแต่เดิมตอนนี้เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ศิษย์พี่ ข้าสนใจเพื่อนของท่านมากขึ้นเรื่อย ๆ”
ซูอันก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าสองคนนี้เล่นใหญ่เกินไป “ข้าแต่งงานแล้ว เข้าใจไหม? แม่นางจะพูดอะไรโปรดสำรวมด้วย”
“เจ้าแต่งงานแล้ว?” ฉีเหยากวงแตะที่แผนภาพดาวของนาง ปรับนี่ปรับนั่น “เดี๋ยวก่อน เจ้าแต่งงานแล้ว แต่เจ้าไม่… นี่มันอะไรกัน? หัวของข้ากำลังจะระเบิดแล้ว!”
เจียงลั่วฝูพูดอย่างรวดเร็วว่า “สถานการณ์ของเขาค่อนข้างซับซ้อน เขาแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ แต่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา พวกเขาหย่าขาดจากกันแต่เพียงภายนอกและยังคงความรักที่มีต่อกันไม่เปลี่ยนแปลง”
ซูอันขนลุก พี่สาวคนสวยไม่ได้แอบดูชีวิตส่วนตัวของเขาใช่ไหม?
ถึงตอนนี้ฉีเหยากวงเข้าใจแล้ว “เป็นอย่างนั้นนั่นเอง”
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว ความสัมพันธ์ของเขากับคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ยังดีขนาดนั้นเลย? ตระกูลฉู่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? พวกเขาเป็นตระกูลที่มีอำนาจ ทำไมถึงปล่อยให้ลูกสาวตัวเองติดตามคนอย่างซูอัน?
ฉีเหยากวงจ้องซูอันแล้วกะพริบตา “เจ้าไม่ได้เป็นคู่สมรสกันแล้วด้วยซ้ำ แต่เจ้ายังใช้ชีวิตกับนางเหมือนเมื่อก่อน เจ้าไม่ได้เป็นแค่คนไร้ยางอายเหรอ?”
ซูอันพูดไม่ออก การถูกสาวน้อยหน้าตาน่ารักเรียกว่าคนไร้ยางอายเป็นความเจ็บปวดที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ปี่หลิงหลงแอบชูนิ้วโป้งใหญ่ให้นาง นางชอบหญิงสาวตัวเล็กคนนี้มากขึ้น คำพูดของฉีเหยากวงสะท้อนใจนางจริง ๆ!
เจียงลั่วฝูยิ้มให้ซูอันอย่างคลุมเครือ ถึงเวลาแล้วที่เจ้าหนุ่มคนนี้จะต้องเจ็บปวดสักครั้ง คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมาก แต่นางก็ยังวนเวียนอยู่กับผู้ชายคนนี้จนเกิดเรื่องซุบซิบกันไปทั่วเมืองหลวงแล้ว
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เป้าหมายของนางในวันนี้ ในขณะที่ศิษย์น้องเล็กกำลังตรวจตราซูอัน นางโบกมือไปทางบ้านไม้ “ท่านอาจารย์ ศิษย์ของท่านพาซูอันมาด้วยความปรารถนาจะพบท่าน” แม้ว่านางจะเชื่อในสิ่งที่ศิษย์น้องพูดแล้ว แต่นางก็ยังต้องลองอีกครั้ง
เสียงตอบลากยาวออกมาจากบ้านไม้ “เมื่อถึงเวลา เราคงได้พบกันเป็นธรรมดา” คำพูดของเขาบ่งบอกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพบกัน
เจียงลั่วฝูกัดริมฝีปากแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า “ศิษย์คนนี้ต้องการให้ซูอันเป็นอาจารย์ประจำสถาบันหลวง ข้าหวังว่าท่านอาจารย์จะให้ความเห็นชอบกับข้า”
องค์หญิงรัชทายาทตกใจ ผู้หญิงคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซูอัน ทำไมนางถึงช่วยเขาแบบนี้?
เห็นได้ชัดว่า นางเข้าใจดีว่าตัวตนของอาจารย์ประจำสถาบันหลวงมีประโยชน์เพียงใด มีคนมากมายที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อเป็นอาจารย์ประจำสถาบันหลวง แต่ข้อกำหนดนั้นเข้มงวดและมีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ได้สมดังที่ตั้งใจ
ผู้หญิงคนนี้มาเพื่อถามเรื่องนี้กับผู้เบิกเท็จเพราะเห็นแก่ซูอันจริงเหรอ? พวกเขามีความสัมพันธ์แบบไหน?
ปี่หลิงหลงไม่มีความสุขอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะชอบซูอัน แต่นางคิดว่าซูอันเป็นคนจากพระราชวังตะวันออกซึ่งเป็นหนึ่งในคนของนาง ตอนนี้ราวกับว่าของเล่นชิ้นหนึ่งถูกผู้หญิงอีกคนขโมยไป และผู้หญิงคนนั้นก็เป็นอดีตผู้ที่ถูกวางตัวให้เป็นองค์หญิงรัชทายาทก่อนหน้านางด้วยซ้ำ!
—
ท่านยั่วยุปี่หลิงหลงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +368 +368 +368…
—
ซูอันรู้สึกมึนงง ข้าไปทำบ้าอะไรให้นาง? แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ เขากังวลเกี่ยวกับคำตอบของผู้เบิกเท็จมากกว่า
“สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามกฎ” ผู้เบิกเท็จกล่าว ความเงียบงันมาจากกระท่อมไม้ จากนั้นผู้เบิกเท็จก็พูดขึ้นอีกครั้ง “หากเจ้าสามารถได้รับการยอมรับจากศิษย์สายตรงจำนวนครึ่งหนึ่ง ก็สามารถเป็นข้อยกเว้นได้”
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว นางเคยได้ยินเกี่ยวกับศิษย์สายตรงของผู้เบิกเท็จมาก่อน พวกเขาทั้งหมดล้วนแปลกประหลาด ขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงหลายคนต้องการเข้าหาพวกเขาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ แต่เหล่าศิษย์สายตรงกลับไม่สนใจใครหน้าไหนเลย การทำให้พวกเขาเห็นชอบกับเรื่องนี้เป็นงานที่ยากอย่างแน่นอน
แม้ว่านางจะไม่มีความสุขเลยที่จะได้เห็นซูอันถูกรายล้อมไปด้วยผู้หญิงสวย ๆ แต่นางรู้ว่ามันจะมีประโยชน์แค่ไหนหากซูอันสามารถเป็นอาจารย์ของสถาบันหลวงได้ นางจึงยังคงหวังว่าเขาจะทำสำเร็จ
น่าเสียดาย ยิ่งหวังมากเท่าไร ปี่หลิงหลงก็ยิ่งกังวลมากเท่านั้น เมื่อนึกถึงสิ่งที่ทุกคนพูดเกี่ยวกับศิษย์สายตรงเหล่านั้น นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ดูเหมือนว่าจะไม่มีความหวังในครั้งนี้ ข้าจะดูว่าข้าสามารถช่วยเขาคิดวิธีในครั้งต่อไปได้หรือไม่
ทันใดนั้น เสียงที่ฟังดูตื่นเต้นประหลาดใจก็ดังขึ้นว่า “ท่านซู ท่านซู! ในที่สุดข้าก็พบท่าน!”
องค์หญิงรัชทายาทมองชายร่างเตี้ยและท้วมเกลือกกลิ้งราวกับก้อนเนื้อ จะเป็นใครได้อีกนอกจากศิษย์สายตรงคนที่สิบเอ็ด อินซือ? ด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้ มันคงเป็นเรื่องยากแม้ว่าปี่หลิงหลงจะไม่ต้องการจดจำเขา
*[1] ดอกท้อ เป็นคำอุปมาถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ
……….