เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1157 พลังลึกลับ
บทที่ 1157 พลังลึกลับ
“มันก็แปลกนะ” ซูอันหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเปลี่ยน เขามองไปที่ต๋าจี่ มันยากที่จะเชื่อมโยงสาวงามล่มเมืองคนนี้กับปีศาจจิ้งจอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ “ถ้าเราบอกว่านางมีเจตจำนง สีหน้าแววตาของนางก็ว่างเปล่าเกินไป และนางก็พูดไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าไม่มี แล้วทำไมนางถึงไม่ให้ข้าแตะเนื้อต้องตัวเลย”
หมี่ลี่หัวเราะเยาะ “เจ้าก็แค่คนนิสัยเสีย อยากจะทำอะไรพิเรนทร์เพียงเพราะนางสวย”
“แล้วทำไมท่านไม่ลองดูบ้างล่ะ?” ซูอันตอบโต้อย่างรวดเร็ว
หมี่ลี่กลอกตา นางไม่อยากให้ความสนใจเขาอีกต่อไป “เนื่องจากตอนนี้เจ้าเป็นเจ้าของหนึ่งในเก้ากระถางมังกร เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันมีหน้าที่อะไร?”
ซูอันเช็ดเลือดตามเนื้อตัว แม้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะดูน่ากลัว แต่ไม่มีอันตรายร้ายแรงอะไร “ข้าไม่มีเวลาตรวจสอบก่อนหน้านี้ ให้ข้าดู…” เขาหลับตาลง เชื่อมโยงความคิดของเขาเข้ากับเจตจำนงอันเก่าแก่และลึกซึ้งของกระถางมังกร ต่อมาไม่นาน เขาก็ลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าแปลก ๆ
“ว่ายังไงบ้าง?” หมี่ลี่ถามด้วยความสงสัย
“เตาหลอมยังไม่สมบูรณ์ มันจึงใช้พลังได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สามารถใช้ในการหลอมเม็ดยาได้ และท่านก็รู้ถึงลักษณะพิเศษในการหลอมเม็ดยาของมันเช่นกัน” ซูอันตอบ
“ข้าเนี่ยนะรู้?” หมี่ลี่รู้สึกงุนงง นางไม่เคยเห็นกระถางมังกรมาก่อนเลย แล้วนางจะรู้ได้อย่างไร?
“ท่านน่าจะรู้แล้วตั้งแต่ตอนที่เราอยู่กับเสิ่นซวีจื่อ ลักษณะของเตาหลอมนี้เป็นส่วนผสมของเตาหลอมใจดี ใจร้าย มัธยัสถ์ ละลายทรัพย์ และเตาหลอมอื่น ๆ ทุกประเภท”
หมี่ลี่ตกใจและประหลาดใจ “แล้วนั่นไม่ได้หมายความว่ามันรวมผลประโยชน์ทั้งหมดของทุกเตาหลอมไว้ในตัวเองเหรอ?”
“ใช่แล้ว” ซูอันยิ้มกว้าง เขามีอาการคันทุกครั้งที่เสิ่นซวีจื่อแนะนำเตาหลอมอื่น อย่างไรก็ตาม พวกมันทั้งหมดมีความเย่อหยิ่งในตัวเองจึงไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ตอนนี้ หนึ่งในเก้ากระถางมังกรทำได้อย่างนั้น! ตัวมันเองมีคุณสมบัติทุกอย่างที่เขาต้องการ
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ข้าสงสัยว่าเตาหลอมใบนี้มีความสามารถในการคัดลอกคุณสมบัติพิเศษของเตาหลอมอื่น ๆ หรือไม่?”
อย่างไรก็ตาม หมี่ลี่ส่ายศีรษะ “ข้ารู้สึกว่ามันตรงกันข้าม เตาหลอมยาใบอื่นนั้นอยู่รอบกระถางมังกรนี้เป็นเวลานาน พวกมันไม่ใช่เตาหลอมธรรมดา ดังนั้นจึงดูดซึมคุณสมบัติพิเศษบางอย่างของกระถางมังกรได้ แต่ไม่ว่าพวกมันจะพิเศษแค่ไหน พวกมันก็ยังห่างไกลจากกระถางมังกรมาก จึงเป็นเหตุผลที่พวกมันดูดซึมได้เพียงส่วนเล็ก ๆ และยังมีข้อจำกัดในการใช้”
“นั่นสินะ” ซูอันรู้สึกว่าการวิเคราะห์ของนางมีเหตุผลมากกว่า เขารีบนำส่วนผสมที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา โรงแพทย์หลวงได้มอบรากกระเรียนสวรรค์และหยกดาราสีชาดในปริมาณที่พอเหมาะแก่เขา แต่เขามีบุปผาสวรรค์สีม่วงเพียงสองก้านเท่านั้น มันคือก้านดอกไม้เล็ก ๆ ที่เขาได้มาจากรังของมังกรแดงนอกเมืองจันทร์กระจ่าง ก่อนหน้านี้เขาเคยมีอีกสองสามก้าน แต่โชคไม่ดีที่พวกมันเสียหายไปในเตาหลอมยาธรรมดา
“หวังว่าข้าจะทำสำเร็จนะคราวนี้” ซูอันวางวัตถุดิบลงในเตาหลอมสีเขียวตามสูตรยาควบแน่นพลังชี่ จากนั้นให้ต๋าจี่เริ่มจุดไฟ
ดวงตาของต๋าจี่เบิกกว้าง แต่นั่นอาจเป็นเพียงความเข้าใจผิดของซูอันแววตาของนางดูไม่เต็มใจสักนิด แต่นางก็ไม่ปฏิเสธและยื่นมืออันเรียวยาวไปด้านบนเตาหลอมยาด้วยไฟจิ้งจอก
ทั้งสองเกือบจะเชื่อมโยงกันได้แล้วในตอนนี้ เขาสามารถควบคุมความแรงไฟจิ้งจอกของต๋าจี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซูอันค่อนข้างอยากรู้ ในเมื่อเขาและนางเชื่อมโยงกันได้แบบนี้ ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่?
ซูอันสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วและเริ่มมุ่งเน้นไปที่การหลอมเม็ดยา เตาหลอมเริ่มส่องแสงระยิบระยับในขณะที่ไฟจิ้งจอกลุกโชน สามารถเห็นส่วนผสมที่อยู่ภายในกำลังเปลี่ยนรูป
หมี่ลี่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เตาหลอมใบนี้มีคุณภาพสูงสุดสำหรับการหลอมเม็ดยา เหตุผลที่อัตราความสำเร็จของการหลอมเม็ดยาต่ำมาก ส่วนใหญ่เป็นเพราะกระบวนการนี้ต้องใช้รายละเอียดอย่างมาก หากปริมาณส่วนผสมที่ใช้สูงหรือต่ำเกินไปเล็กน้อย หรือหากควบคุมไฟไม่ดี อาจนำไปสู่การล้มเหลวได้ง่าย มีเพียงนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถควบคุมตัวแปรเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม แต่เจ้าสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของส่วนผสมภายใน ดังนั้นเจ้าจึงสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง สิ่งนี้สามารถช่วยเจ้าประหยัดประสบการณ์หลายทศวรรษเมื่อเทียบกับผู้อื่น!”
สีหน้าของซูอันไม่ได้ผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย เขาพูดด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า “นี่ยังไม่พอ ไฟยังไม่เพียงพอ”
“เป็นเพราะระดับการบ่มเพาะของต๋าจี่ต่ำเกินไปหรือเปล่า?” หมี่ลี่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่” ซูอันส่ายศีรษะ “ข้อเสนอแนะที่ข้าได้รับจากเกระถางมังกรคือมีบางอย่างขาดหายไป ข้าจะอธิบายมันยังไงดี? ดูเหมือนว่าต้องใช้ไฟประเภทอื่น แต่ข้าก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน”
“หืม?” หมี่ลี่สามารถเห็นส่วนผสมภายในทั้งหมดถูกปรุงอย่างช้า ๆ แต่ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วนึกอะไรบางอย่างออก “ข้าเข้าใจแล้ว สิ่งที่กระถางมังกรต้องการน่าจะเป็นการรวมกันของหยินและหยาง ไฟจิ้งจอกของต๋าจี่นั้นเป็นธาตุหยิน ถ้ามีเพียงหยินก็ไม่อาจมีชีวิตได้ ถ้ามีเพียงหยางก็ไม่อาจเติบโตได้ ข้าเชื่อว่าต้องใช้เปลวไฟหยางประเภทอื่นร่วมกับเปลวไฟหยินนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากเตาหลอมนี้”
ซูอันตกตะลึง “แต่ข้าจะหาเปลวไฟหยางได้ที่ไหน?”
เมื่อการบ่มเพาะพัฒนาขึ้นสู่ระดับหก เขาไม่ได้บ่มเพาะธาตุเหมือนกับคนอื่น เหตุผลที่เขาสามารถใช้ธาตุไฟได้เพราะเขายืมไฟจิ้งจอกของต๋าจี่
หากเป็นเวลาอื่น เขาสามารถใช้เวลาคิดเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างการหลอมยา! เขามีความมุ่งมั่นแล้วและไม่สามารถหยุดกลางคันได้ มิฉะนั้นส่วนผสมล้ำค่าจะถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่จะสามารถรวบรวมส่วนผสมได้เพียงพออีกครั้ง
หมี่ลี่ขมวดคิ้วเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าติดขัดกับปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม นางมีประสบการณ์มากมายและคิดวิธีแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
“เจ้าไม่ได้ปลุกพวกนกแปลก ๆ ทุกครั้งที่พัฒนาวิชาวัฏจักรหงส์อมตะเหรอ? พวกมันต่างก็มีความสามารถเฉพาะใช่ไหม?” หมี่ลี่พูดอย่างรวดเร็ว
ซูอันพยักหน้า “ใช่”
ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนั้นจากนางด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขา
หมี่ลี่กล่าวว่า “นกที่เจ้าปลุกคือ จ้าววายุ นกกระจิบร้อยเสียง นกเป็ดน้ำสีคราม หงส์หิมะ และหงส์ฟ้า หากความสงสัยของข้าไม่ผิด พวกมันควรจะเป็นบุตรทั้งเก้าของหงส์อมตะ”
“บุตรทั้งเก้าของหงส์อมตะ?” ซูอันตกตะลึง
หมี่ลี่พยักหน้า “ใช่ มีข่าวลือว่ามีนกศักดิ์สิทธิ์เก้าตัวที่สืบเชื้อสายมาจากหงส์อมตะ แต่ละตัวมีความสามารถเฉพาะตัว ทักษะที่เจ้าบ่มเพาะคือวิชาวัฏจักรหงส์อมตะและมีนกหลายตัวเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน”
ซูอันก็สงสัยเช่นกัน แต่เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนนาง
หมี่ลี่กล่าวต่อว่า “หากความสงสัยของข้าไม่ผิด มีบุตรหงส์อมตะตัวหนึ่งคือหงส์ไฟ ซึ่งสืบทอดเปลวไฟจากบรรพบุรุษของมัน หากสามารถปลุกนกตัวนี้ได้ เจ้าจะสามารถสร้างไฟหยางได้”
ซูอันพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “ข้าได้รับนกตัวใหม่เสมอเมื่อใดก็ตามที่การบ่มเพาะเพิ่มระดับ แต่แม้ว่าข้าจะมาถึงระดับแปดแล้วก็ไม่มีนกตัวใหม่ปรากฏขึ้น”
หมี่ลี่ตอบว่า “มีความแตกต่างระหว่างผู้บ่มเพาะก่อนระดับแปดและหลังจากนั้น ข้าเชื่อว่าเป็นเพราะเจ้าเพิ่งขึ้นสู่ระดับแปด และการบ่มเพาะของเจ้ายังไม่ถึงจุดที่สามารถปลดล็อกความสามารถของหงส์ไฟได้อย่างเต็มที่”
“งั้นตอนนี้เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว” ซูอันรู้สึกปวดหัว “ข้าจะเพิ่มการบ่มเพาะในเวลาอันสั้นได้ยังไง”
แม้เขาเพิ่งดูดซับการบ่มเพาะของหม่าอัน แต่หม่าอันอยู่เพียงระดับหก การบ่มเพาะจึงเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
หมี่ลี่มีสีหน้าแปลก ๆ “ลืมไปหรือเปล่าว่าเจ้ามีแหล่งพลังงานอื่นในตัวเอง?”