เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1159 เริ่มหลอมยา
ซูอันรู้ว่าสิ่งที่นางพูดนั้นเป็นความจริง แม้ว่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาจะไม่ได้ต่ำ แต่ก็เป็นเพราะเขาพึ่งพากลโกงมากเกินไป ในแง่ของประสบการณ์พื้นฐาน เขายังด้อยกว่าผู้ที่ยังคงอยู่ในระดับการบ่มเพาะนั้น ๆ มานานหลายสิบปี
หมี่ลี่รู้สึกพอใจที่เห็นว่าซูอันไม่ได้ทำตัวไร้สาระเหมือนปกติ นางรู้ว่าเขาเข้าใจที่พูด “ไม่จำเป็นต้องเร่งรัดเรื่องเหล่านี้ มันต้องใช้เวลา ทำไมเราไม่ตรวจสอบดูว่าเจ้าได้ปลุกนกอะไรใหม่หรือเปล่า?”
ซูอันตรวจสอบตัวเองทันทีและเห็นว่าอักขระตัวที่เจ็ดสว่างขึ้น ก่อตัวเป็นรูปร่างใหม่ มันมีหัวไก่ หางปลา คองู และกระดองเต่า ทั้งหมดเป็นสีทองแวววาว คล้ายกับหงส์ที่เคยเห็นตามสื่อของโลกก่อนหน้านี้
เขารีบมองไปที่มุมขวา เส้นสีทองประสานกันเป็นตัวอักษร : หงส์ทองคำ!
“ไม่ใช่หงส์ไฟเหรอ?” ซูอันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาอยากได้หงส์ไฟเพื่อที่จะหลอมเม็ดยาต่อไป
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด หมี่ลี่ก็ถอนหายใจเช่นกัน “ดูเหมือนว่าเจ้าจะต้องรอการพัฒนาครั้งต่อไปเพื่อรับหงส์ไฟ ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้กับส่วนผสมพวกนี้ ไว้เราค่อยรวบรวมกันใหม่”
ซูอันรู้สึกหดหู่ ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรวบรวมส่วนผสมเหล่านี้ โดยเฉพาะบุปผาสวรรค์สีม่วง เป็นสิ่งที่แม้แต่โรงแพทย์หลวงยังไม่มี เขาไม่รู้ว่าเมื่อไรจะหามันได้อีก
ซูอันรู้สึกผิดหวัง แต่จู่ ๆ เขาก็พูดว่า “เดี๋ยวก่อน!” เขาสัมผัสได้ถึงสายใยก่อตัวที่ริบหรี่ในร่างกาย ภาพนกตัวใหม่กำลังก่อตัวขึ้น
เขาตระหนักว่าหงส์ทองคำควรจะปรากฏในช่วงที่ก้าวเข้าสู่ระดับแปด เหตุผลที่มันไม่เคยปรากฏก็เพราะเขาจำเป็นต้องก้าวไปสู่ระดับแปดให้ลึกขึ้นในระดับหนึ่งก่อน ตอนนี้เขาอยู่ที่ขั้นที่สี่ของระดับเก้าจึงเข้าเงื่อนไขที่นกตัวต่อไปจะปรากฏตัว
ซูอันไม่สามารถแยกแยะลักษณะที่แน่นอนของนกประหลาดตัวนี้ได้ มองเห็นแต่เปลวไฟเท่านั้น เขาทำได้เพียงเพ่งมองตรงกลางที่เห็นได้เพียงเลือนราง
ชื่อของมันถูกเขียนไว้ด้วยริ้วไฟสองสามเส้น : หงส์ไฟ!
“ได้นกสองตัวพร้อมกัน?” ซูอันรู้สึกประหลาดใจ ความสุขเกิดขึ้นทันทีทันใดจนแทบไม่อยากเชื่อ
หมี่ลี่สงบกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับเขา “เมื่อเร็ว ๆ นี้การบ่มเพาะของเจ้าเพิ่มขึ้นสองระดับอย่างรวดเร็ว เจ้าเลยได้รับนกสองตัว ข้าเกือบจะคิดว่าเจ้าจะต้องไปถึงขั้นสูงสุดของขอบเขตการบ่มเพาะเพื่อให้ได้นกตัวที่สอง สถานการณ์นี้ดีกว่าที่ข้าคิดไว้มาก ลองดูสิ แล้วบอกข้ามาว่าเจ้าได้ความสามารถแบบไหนจากนกสองตัวนี้”
หมี่ลี่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นเขาพึมพำแบบนั้น “แล้วหงส์ทองคำทำอะไรได้?”
หงส์ทองคำเป็นสัตว์มงคล เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และสง่างาม จึงถูกใช้เป็นเครื่องประดับยศของจักรพรรดินีอยู่เสมอ หมี่ลี่มีความประทับใจที่ดีต่อหงส์ทองคำ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมนางจึงอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า หงส์ทองคำมีความสามารถอย่างไร
ซูอันตอบว่า “หงส์ทองมีคำมีคุณสมบัติเป็นโลหะ ความสามารถของมันคือ ‘ความรักมั่นคงยิ่งกว่าทอง’ มัน… มันสามารถปลุกตัณหาของหญิงสาวและทำให้นางอดไม่ได้ที่จะรักข้า”
หมี่ลี่อึ้ง นางถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวแล้วเย้ยหยัน “ฮึ่ม ดูเหมือนนกจะเหมือนกับเจ้านายของมัน แม้แต่หงส์ที่รุ่งโรจน์ก็กลายเป็นขยะเพราะเจ้า”
สีหน้าของซูอันเริ่มมืดมน “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าควบคุมได้…”
หมี่ลี่ไม่พอใจ “มีข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการใช้ไหม? หรือมีข้อจำกัดเรื่องการบ่มเพาะของเป้าหมาย?”
ซูอันส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ… ไม่มีคำอธิบายเขียนไว้ ต้องค่อย ๆ ลองผิดลองถูกไปก่อน”
หมี่ลี่ถอยหลังไปอีกก้าวด้วยสีหน้าเหยเก “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิ่งนั้นกับข้า!”
ซูอันตะโกน “ข้าเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวและหล่อมากด้วย ผู้หญิงล้วนชมชอบข้า! สาว ๆ รอบตัวข้าสวยทุกคน แล้วทำไมข้าต้องใช้ของแบบนี้เพื่อครอบครองหัวใจใครสักคนล่ะ?”
หมี่ลี่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง “โชคของเจ้ากับผู้หญิงค่อนข้างดีทีเดียว”
“นั่นเพราะข้ารูปงาม!” ซูอันยืดอก “ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังจะกลัวอะไรอีกล่ะ? ท่านเป็นเพียงวิญญาณ”
“มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า แต่ยังไงก็เถอะ อย่าใช้มันกับข้าเลย” หมี่ลี่จ้องหน้าเขา
ซูอันทิ้งท่าทีขี้เล่นและพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ใช้กับท่านหรอก”
หมี่ลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาจนถึงตอนนี้ นางรู้ว่าเขาไม่ได้โกหก รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปากของนาง
“งั้นเรามาหลอมยากันก่อน เจ้าต้องแน่ใจว่าควบคุมพลังของไฟได้ อย่าปล่อยให้ส่วนผสมถูกเผา” หมี่ลี่เตือน นางไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเตาหลอมใบนี้
ซูอันพยักหน้าแล้วค่อย ๆ กางแขนออก เปลวไฟสีทองปรากฏขึ้นที่กลางฝ่ามือของเขา ทั้งห้องร้อนขึ้นทันที
หมี่ลี่ขมวดคิ้ว แขนเสื้อของนางปัดออกด้านนอก ส่งอักขระวิเศษริบหรี่ล้อมรอบตัวทั้งสองไว้ “ข้าสร้างแนวป้องกันเพื่อไม่ให้สิ่งรอบ ๆ ตัวเราถูกทำลายด้วยเปลวเพลิง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้ความผันผวนในพลังของเปลวไฟรั่วไหลและทำให้ผู้บ่มเพาะของเมืองหลวงตื่นตระหนก”
ซูอันเปล่งเสียงประหลาดใจ หมี่ลี่เป็นคนลึกลับจริง ๆ เขารู้สึกขอบคุณสวรรค์ที่ตอนเผชิญหน้ากับนางครั้งนั้นตัวเองมีเส้นใยสุขสันต์ เขาไม่กล้าที่จะเสียสมาธิ ดังนั้นจึงรีบส่งเปลวเพลิงสีทองไปห้อมล้อมเตาหลอมไว้ มันสร้างความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับไฟจิ้งจอกสีน้ำเงินของต๋าจี่
เนื่องจากตอนนี้เขาเชื่อมโยงกับต๋าจี่เรียบร้อยแล้ว เขาจึงสามารถควบคุมความแรงของเปลวไฟทั้งสองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พวกมันทำงานสอดคล้องกันอย่างเหมาะสมที่สุด เนื่องจากประสบการณ์ในการใช้ไฟจิ้งจอก เขาจึงมีความเชี่ยวชาญอย่างมากกับหงส์ไฟ ส่วนผสมในเตาหลอมกำลังละลายอย่างรวดเร็ว จากนั้นซูอันจึงจัดการควบคุมความแรงของเปลวไฟต่อไปตามขั้นตอนของสูตรยาควบแน่นพลังชี่ในขณะที่ค่อย ๆ เพิ่มส่วนผสมอื่นตามลงไป
ส่วนผสมทั้งหมดกลายเป็นของเหลวอย่างสมบูรณ์ ซูอันโคจรพลังชี่ล้อมรอบของเหลวเพื่อไม่ให้มันระเหย ของเหลวประเภทต่าง ๆ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว สิ่งเจือปนถูกกำจัดออกไป ส่วนผสมสำคัญทั้งหมดรวมกันและทำปฏิกิริยาซึ่งกันและกัน
หมี่ลี่เตือนจากด้านข้างว่า “ระวัง อัตราความสำเร็จของนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีประสบการณ์ก็ไม่เกินห้าในสิบส่วน นับประสาอะไรกับมือใหม่อย่างเจ้า”
ราวกับจะพิสูจน์สิ่งที่นางเพิ่งพูดไป จู่ ๆ ของเหลวที่ห่อด้วยพลังชี่ก็สั่นกระฉอกอย่างรุนแรง ราวกับทุกอย่างอาจพังทลายได้ทุกเมื่อ
หยดเหงื่อไหลลงมาที่หน้าผากของซูอัน “ไม่ดีแน่ ข้าควบคุมมันไม่ได้!”
………………..