เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1165 คณิกากับสุนัข
………………..
บทที่ 1165 คณิกากับสุนัข
นอกวังไร้พิพาท ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง เป็นจักรพรรดินีที่ต้องการฆ่าหม่าอัน! แต่ทำไมล่ะ?
จักรพรรดินีขมวดคิ้ว “การบ่มเพาะของคนผู้นั้นสูงกว่าเจ้าเหรอ? แต่หลังจากผู้เฒ่ามี่และเว่ยต้านตายไป ก็ไม่มีใครมีการบ่มเพาะสูงพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้อีก คนผู้นี้เป็นใครกันแน่?”
ขันทีลู่อารมณ์เสีย “การบ่มเพาะของบุคคลนั้นอาจไม่สูงกว่าข้า และข้ารู้สึกได้ว่าการใช้พลังและความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับขอบเขตการบ่มเพาะนั้นไม่คงที่ แต่น่าแปลกใจที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ข้าไม่ต้องการใช้ทักษะธาตุเพราะเกรงว่าจะทำให้จักรพรรดิสงสัย ดังนั้นจึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ”
จักรพรรดินีมองเขา “แพ้ก็คือแพ้ เจ้ากลายเป็นคนที่ชอบแก้ตัวมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”
สีหน้าของขันทีลู่จริงจัง “เจ้าพูดถูก หนิงเอ๋อร์”
“คนผู้นั้นไม่ได้ตามมาใช่ไหม?” จักรพรรดินีลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินไปที่ริมหน้าต่าง นางถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ
ขันทีลู่กล่าวว่า “โปรดวางใจเถิด ด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของลู่ฉีผู้นี้ มีเพียงผู้ครอบครองวิชาร่างก้าวทานตะวันของผู้เฒ่ามี่เท่านั้นที่มีโอกาสตามทัน และผู้เฒ่ามี่ก็ตายไปแล้ว นอกจากนี้ การป้องกันของวังไร้พิพาทเข้มงวดขึ้นหลายส่วน เราจะรู้ทันทีที่มีคนบุกรุก”
จักรพรรดินีพยักหน้า จากนั้นนางก็ขยุ้มหลังคอแมวดำตัวใหญ่แล้วอุ้มมาสวมกอด “เจ้าตัวร้าย แกไปยุ่งกับแมวตัวเมียพวกนั้นอีกแล้วเหรอ? ดูเหมือนชีวิตของแกจะดียิ่งกว่าเจ้าของวังแห่งนี้อีก”
ลู่ฉีไม่กล้าพูดอะไรเมื่อสัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองลึกล้ำในน้ำเสียงของนาง มันเป็นความผิดทั้งหมดของเขาที่ตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นในตอนนั้น ตอนนี้เขาไม่มีความมั่นใจเพียงพอที่จะปลอบโยนนางได้
“เมี้ยว~” แมวดำตัวใหญ่ดิ้นอยู่ในอ้อมกอดครู่หนึ่ง แต่มันก็สงบลงและเพลิดเพลินกับนิ้วยาวที่กำลังลูบไล้อย่างอ่อนโยนของจักรพรรดินี
ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ เขาเคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ ช่างนุ่มนิ่ม… และใหญ่จริง ๆ
จักรพรรดินีอุ้มแมวดำกลับเข้าไปในห้อง นางถามว่า “เจ้าได้ข้อมูลอะไรจากการต่อสู้กับคนนั้นหรือเปล่า?”
ขันทีลู่มองแมวดำตัวใหญ่ที่ดูแสนสบายด้วยความหึงหวง เขาคิดกับตัวเองว่า ข้าแบกรับภาระและทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดหลายปี และไม่เคยมีความสุขกับอะไรแบบนี้เลย แต่เดรัจฉานอย่างเจ้ากลับได้เพลิดเพลินกับนางก่อน! “กระบวนท่าของคนผู้นั้นเลิศล้ำพิศดาร ดูเหมือนจะมาจากการประสานหลายวิชาเข้ารวมกัน ข้าบอกไม่ได้ว่าเขามาจากไหน สิ่งเดียวที่ข้าประทับใจคือร่างกายของคนผู้นั้นแข็งแกร่งมาก”
เห็นได้ชัดว่าขันทีลู่รู้ว่านางกำลังพูดถึงใคร เมื่อเห็นริ้วสีแดงบนใบหน้าของหลิวหนิง เขากำลังจะระเบิดความหึงหวงและความโกรธแค้นออกมา
—
ท่านยั่วยุขันทีลู่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233 +233 +233…
—
จักรพรรดินีแค่พูดเล่น นางไม่คิดว่าซูอันจะสามารถทำให้ขันทีลู่อยู่ในสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้ นางถอนหายใจและพูดว่า “ตอนนี้เรื่องราวยุ่งยากไปหมด ข้าไม่คิดว่าจะมีอำนาจอื่นหนุนหลังหม่าอัน ไม่มีทางรู้เลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว”
ลู่ฉีกล่าวว่า “ถ้าผู้บ่มเพาะผู้นั้นซ่อนตัวอยู่ในห้อง ข้าเชื่อว่าเขาคงลงปรโลกไปแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” จักรพรรดินีพูดต่อ “วันหลังจงไปเฝ้าโรงแพทย์หลวง รายงานข้าทันทีหากมีข่าวใด ๆ”
“เข้าใจแล้ว!” ขันทีลู่โค้งคำนับ “หนิงเอ๋อร์ แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าบุคคลลึกลับคนนั้นคือใคร แต่นี่ก็ยังเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเรา ตอนนี้มีคนอื่นช่วยจัดการกับเขาแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดเผย”
จักรพรรดินีถอนหายใจ “ถ้าข้ารู้ว่าเลือดของซูอันช่วยให้ข้าฟื้นตัวได้ ทำไมข้าถึงขอให้เจ้ารับยานั่นจากหม่าอัน? ข้ากังวลว่าเขาอาจจะตกลงไปกับเราด้วยข้อมูลชิ้นนั้นในมือ”
ข้างนอกซูอันรู้สึกปวดหัวอย่างมาก แม้ว่านางจะไม่ได้ลงรายละเอียดใด ๆ แต่เขาก็สามารถสรุปความจริงได้แล้ว
เมื่อเขาและองค์หญิงรัชทายาทมีเรื่องอื้อฉาวและถูกขังอยู่ในคุกหลวง จู่ ๆ ก็มีใครบางคนวางยาพิษในอาหารของเขา เขาหาตัวคนลงมือไม่เจอ และสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงใช้ยาที่ไม่อันตรายถึงตาย แต่เป็นยาที่มุ่งทำร้ายจิตใจ
ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจน เพราะเรื่องระหว่างเขากับจักรพรรดินี นางกังวลว่าเขาจะมาขู่เอาเรื่องไปเปิดเผยเพื่อแลกกับผลประโยชน์บางอย่าง ดังนั้นนางจึงต้องการกำจัดเขา
ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจจริง ๆ! ซูอันเดาะลิ้น เขาเคยช่วยชีวิตนางมาก่อนด้วยซ้ำ และเหตุผลที่พวกเขามีความสัมพันธ์กันก็เพราะตัวนางพยายามยั่วยุเองด้วย ไม่คาดคิดมาก่อนว่า จู่ ๆ นางจะหันคมมีดมาหาเขาเช่นนี้
ขันทีลู่พูดขึ้นอีกครั้ง “เจ้าคิดมากเกินไป เมื่อเจ้าใช้เขาอีกสักสองสามครั้งและฟื้นฟูร่างกายได้ดังเดิม เด็กนั่นก็ไม่เหลือคุณค่าอะไรอีก นอกจากนี้ ไม่มีทางที่ซูอันจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จะมารู้เอาตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เว้นแต่ว่า… เจ้าจะพัฒนาความรู้สึกที่มีต่อซูอันจริง ๆ?”
“ความรู้สึก?” จักรพรรดินีหัวเราะเยาะ “หยุดพยายามทดสอบข้าแบบนี้ อันที่จริงข้าชอบร่างกายที่แข็งแรงและอ่อนเยาว์ของเขา แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ในชีวิตนี้ ข้าเคยรู้สึกบางอย่างกับเจ้าเมื่อครั้งยังเด็กที่ไม่รู้ประสีประสา โชคไม่ดีที่เรื่องร้ายเกิดขึ้นจนทำให้ข้าได้เรียนรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ เช่นความรู้สึกเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในโลก ข้าไม่ต้องการความรัก ไม่เคยต้องการมันมาก่อนและจะไม่ต้องการอีกในอนาคต”
ขันทีลู่รู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนเดียวที่นางมีความรู้สึกด้วย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าการทำงานหลายปีมานี้ไม่ได้เปล่าประโยชน์ “หลังจากได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ ต่อให้ข้าตายตอนนี้ก็ยังคุ้ม หนิงเอ่อร์ไม่ต้องห่วง ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้เจ้าบรรลุความฝัน”
…
ซูอันจากไปอย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะเขามีความสุขกับร่างกายของจักรพรรดินีเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกอะไรทางจิตใจกับนางเลย ก่อนหน้านี้เขารู้สึกละอายเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับรู้สึกโล่งใจแทน ผู้หญิงประเภทนี้มีค่าแค่เล่นด้วยเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างต้องการใช้ประโยชน์จากอีกคน
เสียงของหมี่ลี่เย้ยหยันข้างหูของเขา “คณิกากับสุนัขช่างเหมาะสมกันจริง ๆ”
ซูอันพูดไม่ออก “ใครเป็นสุนัข?”
ร่างของหมี่ลี่ปรากฏขึ้น ใบหน้าของนางดูมีความสุข “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ดี ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจเริ่มคิดว่าเจ้าจะได้ผู้หญิงคนไหนก็ได้ในโลกนี้เพราะตัวเองมีความสามารถ แม้ว่าจริง ๆ แล้วเจ้าจะเป็นแค่ของเล่นสำหรับพวกนางก็ตาม”
ซูอันถามอย่างไม่พอใจ “จักรพรรดินีทั้งหมดมีจิตใจเย็นชาเช่นนางหรือไม่?”
หมี่ลี่เริ่มโกรธ “เจ้ากล้าเปรียบเทียบจักรพรรดินีผู้นี้กับคณิกานั่นหรือ!?”
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444 +444 +444…
—
ซูอันหัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาที่รุนแรงของนาง “ข้ารู้ว่าท่านแตกต่าง”
หมี่ลี่อารมณ์เย็นขึ้นมาบ้างแล้ว “เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร? ข้าไปนอนก่อนล่ะ!” นางหายไปทันที
ซูอันคุ้นเคยกับนิสัยของนางดีแล้ว เขายังคงยิ้มต่อไป
…
ในอีกไม่กี่วันต่อมา การหายตัวไปอย่างลึกลับของหม่าอันได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายในพระราชวัง จักรพรรดิมอบหมายให้ทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวนคดีนี้โดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่พบเบาะแสใด ๆ ทูตยุทธ์เสื้อแพรอาจลงทุนทรัพยากรมากขึ้นในการสืบสวน แต่จักรพรรดิและจูเซี่ยฉือซินกำลังหมกมุ่นเกี่ยวกับการทดสอบของรัชทายาทที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นการหายตัวไปของหัวหน้าโรงแพทย์ที่ขี้ปะติ๋วจึงดูจืดจางลงเมื่อเปรียบเทียบกัน
วันเวลาของซูอันค่อนข้างสบายในช่วงเวลานี้ วังตะวันออกกำหนดให้เขาพักร้อน ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ฉู่โหยวเจาน้องภรรยาคนเล็กมาเยี่ยมเป็นครั้งคราวและมอบสิ่งของบางอย่างให้เขา เนื่องจากเป็นสิ่งที่ฉู่ชูเหยียนฝากฝังไว้ก่อนที่จะจากไป นอกจากนี้นางยังพาเขาไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ
ซูอันรู้สึกเบื่อ จึงใช้โอกาสนี้ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของเมืองหลวง ฉู่โหยวเจายังเด็กและมีชีวิตชีวา เมื่อรวมกับมู่หรงชิงเหอที่ตัวติดกันแล้ว การมีสาวงามสองคนนั้นติดตามไปไหนต่อไหนด้วยก็เป็นเรื่องที่มีความสุขเช่นกัน
เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น มู่หรงชิงเหอเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองอย่างสิ้นเชิงจนถึงระดับที่จงใจประจบประแจงซูอัน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาช่วยพี่ชายของนาง หรือเป็นเพราะนางต้องการที่จะเข้ากับพี่เขยของฉู่โหยวเจาซึ่งจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันในอนาคตให้ได้กันแน่
แต่ความพยายามของนางทำให้ซูอันรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
องค์หญิงรัชทายาทได้วางแผนที่จะใช้มู่หรงหลัวเพื่อเกี่ยวข้องกับราชันลมปราณแต่นั่นไม่ได้ผลมากนัก ด้วยเหตุนี้นางจึงให้ความช่วยเหลือแก่ซูอันและปล่อยมู่หรงหลัวไป ทำให้มู่หรงชิงเหอทำตัวน่ารักกับเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของพวกเขาถูกกำหนดให้สิ้นสุดลงแล้ว การทดสอบของรัชทายาทใกล้เข้ามาทุกที องค์หญิงรัชทายาทจึงเรียกตัวซูอันกลับมาเพื่อหารือเกี่ยวกับการทดสอบดังกล่าว