เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1168 ข้าเคยแตะผู้หญิงของเขามาแล้ว
บทที่ 1168 ข้าเคยแตะผู้หญิงของเขามาแล้ว
ซูอันตัวสั่น เขารู้ว่าจักรพรรดิกำลังสงสัย โชคดีที่คิดเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว “สาเหตุที่วิชานี้บ่มเพาะได้เร็วก็เพราะผู้เฒ่ามี่พยายามจะครอบครองร่างกายของกระหม่อม จึงถ่ายเทการบ่มเพาะทั้งหมดแก่กระหม่อม ซึ่งค่อย ๆ ย่อยการบ่มเพาะของเขามาตลอด นี่คือเหตุผลที่กระหม่อมก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว”
จักรพรรดิพยักหน้า คลายความสงสัย ด้วยความรู้และประสบการณ์ เขาจึงรู้ซึ้งถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถเพิ่มพูนการบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ส่งผลดีต่อผู้บ่มเพาะเลยในระยะยาว เพราะจะทำลายรากฐานของคนคนหนึ่ง คงไม่มีใครหวังว่าจะไปถึงระดับการบ่มเพาะที่สูงขึ้นได้
แต่จักรพรรดิไม่ได้บอกซูอันเรื่องนี้ การบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาสมบูรณ์แบบแล้วสำหรับสิ่งที่จักรพรรดิต้องการ ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการบ่มเพาะของซูอันในอนาคตนั่นเป็นเรื่องที่เขาต้องกังวลเกี่ยวกับตัวเอง
“ไม่สำคัญหรอกว่าขอบเขตการบ่มเพาะของเจ้าจะสูงขึ้นหรือไม่ เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเจ้าอยู่แค่ระดับเจ็ดเท่านั้น แล้วข้าจะให้สมบัติวิเศษที่สามารถซ่อนการบ่มเพาะได้กับเจ้า นั่นน่าจะช่วยได้” จักรพรรดิกล่าว ถ้าไม่ใช่เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจูเซี่ยฉือซินอยู่ในระดับใด จ้าวฮั่นอาจจะมอบให้เขาแทน
ซูอันตกใจมาก “ในโลกนี้มีของแบบนั้นด้วย? การทดสอบนี้ไม่กลายเป็นง่ายเลยหรือพะย่ะค่ะ? เราสามารถส่งผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังไปช่วยได้ การทดสอบจะกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย!”
จักรพรรดิตะคอก “มันจะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร แม้ว่าจะมีสมบัติมากมายที่สามารถปกปิดคลื่นพลังของเจ้าได้ แต่ก็มีไม่กี่ชิ้นที่สามารถรอดพ้นจากการสังเกตของผู้บ่มเพาะอย่างแท้จริง สมบัติวิเศษนี้เป็นชิ้นเดียวที่ตัวข้าค้นพบแม้หลังจากกวาดล้างโลกไปแล้ว อย่าทำให้ข้าหมดศรัทธาในตัวเจ้า”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ภายนอกราวกับซูอันรู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง ในใจเขาก็ยังชื่นชมในทักษะการแสดงของตัวเอง ข้าหวังว่าข้าจะไม่กลายเป็นโรคไบโพลาร์หรืออะไรสักอย่างด้วยการเสแสร้งเช่นนี้ตลอดเวลา…
จากนั้นจักรพรรดิก็เตือนเขาเกี่ยวกับบางสิ่งที่ต้องใส่ใจก่อนที่จะเข้าไปในมิติลับ การปกป้องรัชทายาทคือสิ่งสำคัญอันดับแรกสุด หลังจากนั้นจักรพรรดิก็พูดว่า “เจ้าออกไปได้แล้ว ไปหาสนมไป่ด้วย แล้วนางจะมอบมันให้เจ้า”
“เข้าใจแล้ว!” ซูอันออกจากห้องหนังสือส่วนพระองค์อย่างสงบเหมือนปกติ แต่มีอารมณ์ที่ยอดเยี่ยมพลุ่งพล่านอยู่ในตัวเขา ไม่คาดคิดว่าสมบัติที่สามารถซ่อนการบ่มเพาะของตนจะอยู่ในความครอบครองของสนมไป่
ขณะที่หลงอยู่ในความคิด ซูอันก็ได้เดินเข้าไปในตำหนักร้อยดอกไม้ ซูอันรู้สึกเย็นวาบที่หลัง… เดี๋ยวก่อน จักรพรรดิรู้ด้วยหรือว่าข้ายั่วยุพระชายาของรัชทายาท? ความคิดมากมายอยู่ในใจ แต่เขาสงบลงหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ แม้ว่าจักรพรรดิจะรู้ แล้วอย่างไรล่ะ? เขาไม่เปิดโปงหมายความว่าเขายังต้องการข้า ซึ่งทำให้ข้ามีพื้นที่ในการทำงานมากขึ้นด้วย
เขาถูกนางกำนัลพาเข้าไปข้างใน สนมไป่กำลังโยกชิงช้าไปมาอย่างเนิบนาบโดยมีทารกอยู่ในอ้อมแขน ดูไม่แปลกใจที่เห็นซูอันเลย นางโบกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนออกไป
“ไล่นางกำนัลออกไปแบบนี้ เจ้าบอกเป็นนัยให้เรามาต่อจากที่ค้างไว้เหรอ?” ซูอันถามอย่างซุกซน
สนมไป่ไม่ได้ดูขัดเขิน แต่ส่งยิ้มคลุมเครือให้เขาแทน “ตอนนี้เจ้ายังกล้าอีกเหรอ?”
ซูอันไม่พอใจ เดินไปนั่งลงบนชิงช้า เขาอุ้มสนมไป่ขึ้นนั่งบนตักแล้วกอดไว้
สนมไป่ตกใจและโกรธมาก หลังจากงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง นางก็เริ่มดิ้นรน “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ปล่อยข้านะ!”
—
ท่านยั่วยุไป่โหรวเซวี่ยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +34 +34 +34…
—
ซูอันถอนหายใจ “นี่เป็นเหตุผลที่เจ้าไม่ควรถามผู้ชายเช่นนี้”
สนมไป่หยุดดิ้น นางค้นพบว่ายิ่งดิ้นรนมากเท่าไรร่างกายก็ยิ่งเสียดสีกับซูอันมากขึ้นเท่านั้น ไป่โหรวเซวี่ยบังคับตัวเองให้สงบลงและถามอย่างจริงจังว่า “เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ถ้าข้าทูลฝ่าบาท แม้แต่เก้าชีวิตของเจ้าก็รักษาไว้ไม่ได้”
ซูอันโอบเอวที่สวยงามและบั้นท้ายงอนงามของนาง ตอบด้วยน้ำเสียงไร้กังวล “แต่เจ้าจะไม่บอกฝ่าบาทใช่ไหมล่ะ?” ความคิดของเขาแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาชอบเป็นฝ่ายรุกมากกว่า
สีหน้าของสนมไป่มืดลง “อย่าคิดว่าเจ้าจะขู่ข้าได้เพียงเพราะรู้ความสัมพันธ์ของข้ากับสำนักมาร”
“แต่วิธีนี้ค่อนข้างได้ผลไม่ใช่เหรอ?” ซูอันไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เหตุผลที่เขาแกล้งนางก็เพียงเพื่อลดการป้องกันและสร้างความสนิทสนมเพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม เขาไม่ได้คิดจะทำอะไรนางไปมากกว่านี้
สนมไป่หายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นน้ำเสียงของนางก็กลับมายั่วเย้าอีกครั้ง “แล้วถ้าข้าบอกเจ้าว่าข้าเป็นผู้หญิงของจักรพรรดิล่ะ? ยังจะกล้าแตะต้องข้าอีกไหม”
สนมไป่เริ่มรู้สึกวิงเวียน เดิมทีคิดว่าเขาจะหวาดกลัว จักรพรรดิคือผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ใครจะกล้าล่วงเกินเขา? แม้แต่ราชันลมปราณที่ต่อสู้กันมาหลายปีก็ยังไม่กล้าแตะต้องผู้หญิงของเขา ไม่เพียงแต่ซูอันเท่านั้นที่ไม่กลัว แถมยังดูตื่นเต้นกว่าเดิมอีกด้วย ข้าเข้าใจสถานการณ์ผิดเองหรือมีบางอย่างผิดปกติกับสมองของชายคนนี้?
“เจ้าเป็นผู้หญิงของจักรพรรดิ?” ซูอันเสียสมาธิไปชั่วขณะ อย่างไรก็ตาม เขาก็ตั้งสติได้ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับสนมไป่และจักรพรรดิ
“ถ้ารู้ก็ปล่อยข้า!” สนมไป่พยายามแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวและดุร้าย น่าเสียดายที่นางอ่อนแอและตัวเล็กเกินไป ไม่เพียงดูไม่น่ากลัว แต่กลับกระตุ้นให้ผู้ชายคิดมีความคิดแปลก ๆ
“ทำไมข้าต้องปล่อย ข้าเคยแตะต้องหญิงของจักรพรรดิมาแล้ว จะช้าหรือเร็วก็ต้องตายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ดีกว่าเหรอถ้าข้าอาจจะสนุกกับตัวเองได้อีกสักหน่อยก่อนตาย จะได้จากโลกนี้ไปโดยไม่เสียใจเลย” ซูอันกล่าวพร้อมหัวเราะเบา ๆ
สนมไป่พูดไม่ออก ทำไมชายคนนี้ถึงไม่มีพฤติกรรมในแบบที่คนปกติจะทำกันล่ะ? นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอะไรกับเขาดี ในที่สุดก็หายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “ตกลง ข้าสัญญาว่าจะไม่บอกฝ่าบาทเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม?”
ซูอันตอบด้วยรอยยิ้ม “เจ้าจะไม่แม้แต่จะทูลฝ่าบาท ข้าไม่ควรใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด?”
สนมไป่ตกตะลึง ผู้ชายคนนี้จะไร้ยางอายได้ขนาดนี้เลยเหรอ? ทารกในอ้อมแขนของนางดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ของแม่และเริ่มร้องไห้ นางเริ่มตื่นตระหนก
ในขณะที่สนมไป่กำลังครุ่นคิดหาวิธีที่จะออกจากสถานการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม ซูอันก็ปล่อยมือในที่สุด นางตกใจมาก รีบยืนขึ้นและมองเขาด้วยความสงสัย
ซูอันหัวเราะ เขาแค่หยอกเย้านางเผื่อจะได้รับข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติม จึงไม่กดดันอีกฝ่ายไปมากกว่านี้ “ตอนนี้ข้าแค่ทำตามแรงกระตุ้นเท่านั้น ถ้าทำให้ขุ่นเคืองใจประการใดโปรดหักห้ามใจดูแลเด็กก่อน”
สนมไป่ไม่พอใจ “เจ้ามันไม่ใช่คนดีจริง ๆ”
แม้ว่าชายคนนี้จะลูบ ๆ คลำ ๆ บ้าง แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับนาง นางจึงไม่อยากเอาเรื่องเอาราวมากนัก
………………..