เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1171 เพื่อนสมัยเด็ก
บทที่ 1171 เพื่อนสมัยเด็ก
ปี่หลิงหลงอึ้งไปครู่หนึ่งกับคำถามของซูอัน ก่อนจะตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “อย่าคิดอะไรไร้สาระ พวกเขาเป็นเหมือนครอบครัวของเราเท่านั้น” ทว่าหลังจากตอบ นางก็ตกตะลึงกับตัวเองอีกรอบ ทำไมข้าถึงต้องอธิบายเรื่องนี้ให้เขาฟัง?
นางกังวลว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป จึงรีบพูดว่า “ส่วนเจ้า ข้าได้เพิ่มชื่อเจ้าในรายการผ่านเส้นสายของพ่อข้าแล้ว แม้ว่าการบ่มเพาะของเจ้าจะเกินระดับเจ็ด แต่ก็ไม่ได้เกินไปหลายระดับ ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหา วันนี้พักผ่อนให้เพียงพอ พรุ่งนี้เราจะเข้ามิติลับด้วยกัน”
ซูอันยิ้ม เขาคิดกับตัวเองว่าสาวน้อยคนนี้ยังคงใช้อิทธิพลของตระกูลของนาง และไม่รู้ว่าจักรพรรดิได้วางแผนจัดการทุกอย่างล่วงหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดอะไรและตอบรับเท่านั้น
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ปี่หลิงหลงตื่นแต่เช้าและแต่งตัว เนื่องจากวันนี้เป็นวันสำคัญ คืนก่อนนางจึงไม่ค่อยได้นอนมากนัก โชคดีที่นางเป็นผู้บ่มเพาะ มันจึงไม่ส่งผลกระทบต่อนางมากนัก
หรงโม่นางกำนัลซึ่งกำลังช่วยนางจัดทรงผมถอนหายใจเป็นระยะ ๆ “องค์หญิง ท่านควรนอนอีกสักหน่อย ทำไมท่านตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะเพคะ แถมยังแต่งพระพักตร์ประณีตขนาดนี้? ขนาดตอนแต่งงานท่านยังไม่พิถีพิถันขนาดนี้เลยเพคะ”
“อย่างเจ้าจะไปรู้อะไร” ปี่หลิงหลงหน้าแดง มองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก นางดูสวยขึ้นกว่าปกติ จนแม้แต่ตัวเองก็ตกตะลึง ทำไมนางถึงทำเช่นนี้? เป็นเพราะกำลังจะไปเจอคนคนนั้นหรือเปล่า? หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้น นางอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโอกาสขององค์รัชทายาท แน่นอนว่าข้าต้องทำให้ดีที่สุด สงครามนี้ไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้กับฝ่ายของราชันลมปราณเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนของเราอีกด้วย”
หรงโม่ยิ้มและพูดว่า “องค์หญิงทรงงดงามมาก ผู้ชายพวกนั้นจะต้องตกหลุมรักพระองค์อย่างแน่นอนเพคะ”
ปี่หลิงหลงไม่พอใจ “เจ้าพูดไร้สาระแบบนี้ได้ยังไง?”
“องค์รัชทายาทไม่อยู่ที่นี่นะเพคะ” หรงโม่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ “พูดตามตรง เมื่อเร็ว ๆ นี้ สภาพพระทัยขององค์หญิงดีขึ้นกว่าเดิมมากเพคะ”
“จริงเหรอ?” ปี่หลิงหลงตกตะลึง นางไม่ได้สังเกตตัวเองด้วยซ้ำ
“เพคะ” หรงโม่พูดอย่างต่อเนื่อง “ปกติแล้วองค์หญิงทรงดูเป็นกังวลเสมอ แต่ตอนนี้พระองค์มักจะแย้มสรวลกับตัวเองอยู่บ่อยครั้งนะเพคะ”
“ไร้สาระ! ข้าจะเปลี่ยนไปมากขนาดนั้นได้ยังไง?” ปี่หลิงหลงตกใจทันที จากนั้นนางก็มองหญิงสาวผู้งดงามในกระจก เอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้าตัวเองเบา ๆ หรือว่าจะเป็นเพราะเขา?
ครู่ต่อมา นางกำนัลข้างนอกรายงานว่ามีคนมาเยี่ยมเยือนวังตะวันออก
“อย่างนั้นเหรอ? ให้พวกเขาเข้ามาได้” ปี่หลิงหลงพูดและยืนขึ้น ขณะที่นางกำลังจะออกไปข้างนอก จู่ ๆ นางก็หยุดและหันกลับมาตรวจสอบตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรบกพร่อง จากนั้นนางจึงรีบออกไป
หรงโม่ตกตะลึง เกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงรัชทายาท? จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้นไหมเมื่อท่านจะไปทักทายผู้ใต้บังคับบัญชา?
ปี่หลิงหลงชะงักค้างเมื่อเห็นว่าคนในห้องโถงไม่ใช่คนที่นางคาดหวัง
ชายหนุ่มสองคนในห้องโถงกำลังนั่งจิบชา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของทั้งสองจะคล้ายกัน แต่บรรยากาศรอบตัวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนที่มีเครานั่งตัวตรงให้ความรู้สึกมั่นคง อีกคนหนึ่งนั่งไขว่ห้างพลางกระดิกเท้าอยู่ไม่สุขตลอดเวลา มีสีหน้าขี้เล่น
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงเปิดประตูและเห็นว่าผู้ที่เข้ามาคือปี่หลิงหลง พวกเขาก็ลุกขึ้นยืนทันที
“คารวะองค์หญิงรัชทายาท!”
“พี่หลิงหลง!”
“พวกเจ้านั่นเอง” ปี่หลิงหลงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย สองคนที่อยู่ข้างหน้านางคือ กู่เหิงและกู่ซิง พี่น้องสองคนที่บ่มเพาะมาด้วยกันกับนางตั้งแต่ยังเด็ก คนที่มีเคราท่าทางสุขุมคือกู่เหิงผู้พี่ ส่วนคนที่กระดิกเท้าอยู่ไม่สุขคือกู่ซิงผู้เป็นน้องชาย
“พี่หลิงหลงคิดว่าเป็นใครล่ะ?” กู่ซิงถามด้วยรอยยิ้ม
อารมณ์ดีของปี่หลิงหลงจางหายไป แทนที่ด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นทางการ นางพูดว่า “ข้ารอเจ้าสองคนมาได้พักนึงแล้ว”
กู่เหิงถอนหายใจขณะที่มองนาง “จริงสิ ตั้งแต่ท่านเข้าวังในฐานะองค์หญิงรัชทายาท พวกข้าก็ไม่เคยเห็นท่านเลยตั้งแต่นั้นมา” มีความรู้สึกเสียใจลึก ๆ ในดวงตาของเขา
กู่เหิงขมวดคิ้ว “น้องชาย พระนางเป็นองค์หญิงรัชทายาทแล้ว ระดับของเราต่างกัน เราไม่สามารถพูดจาเล่นหัวกับพระนางเหมือนเมื่อก่อนได้อีกต่อไป”
ปี่หลิงหลงพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร พวกเราทุกคนเติบโตมาด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนคนแปลกหน้าหรอก นั่งลงเถอะ”
กู่ซิงพูดกับกู่เหิงด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ ข้าพูดอะไรผิดเหรอ? หลิงหลงไม่เปลี่ยนไปเลย นางยังคงเข้าใจผู้อื่นได้ดีเหมือนเดิม”
ปี่หลิงหลงยิ้มอย่างอ่อนโยนขณะที่นั่งลงในตำแหน่งสูงสุด ความนัยในสายตาของพวกเขาไม่รอดพ้นสายตานาง นางฉลาดทันคนตั้งแต่ยังเล็ก แล้วจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสองคนนี้ชอบนาง?
แต่นางไม่ได้เปิดโปงพวกเขาและแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย ในตอนแรกหลังจากที่นางได้ขึ้นเป็นองค์หญิงรัชทายาทแล้ว คิดไปเองว่าทั้งสองคงจะล้มเลิกความคิดเกินตัวไปแล้ว แต่หากสองคนนี้จะชอบนางก็ไม่ผิดอะไร ในฐานะคนที่มีสถานะสูงส่ง นางสามารถใช้ประโยชน์จากความรักของพวกเขาได้ ทำให้ง่ายต่อการควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชามากขึ้น
“หืม? ทำไมข้าไม่เห็นองค์รัชทายาทเลย?” กู่เหิงมองไปรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้
ปี่หลิงหลงตอบว่า “เขายังนอนอยู่บนเตียง”
“องค์รัชทายาททรงมีพระทัยมั่นคงจริง ๆ ไม่ทรงวิตกกังวลเลย” แม้ว่าภายนอกกู่เหิงจะพูดจายกย่องจ้าวรุ่ยจื่อ แต่ในสายตาของเขากลับฉายแววความดูถูก
“พระองค์ช่างโชคดี…ที่มีพระสวามีที่ดีเช่นนี้ พระองค์เองก็ควรพักผ่อนต่ออีกหน่อย” น้ำเสียงของกู่เหิงมีความหึงหวงเล็กน้อย
เมื่อเขาคิดภาพหมูโง่ตัวนั้นทรมานเทพธิดาของเขาคืนแล้วคืนเล่า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเหนื่อยจนนอนไม่ตื่น กู่เหิงแทบจะคลั่งเพราะความหึงหวง แต่ข้าจะทำอะไรได้? มันเป็นรัชทายาท!