เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1173 ชัดเจนและมีเหตุผล
บทที่ 1173 ชัดเจนและมีเหตุผล
กู่เหิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “องค์หญิง ถ้าท่านซูยังไม่มาอีก เราจะรออยู่ที่นี่ตลอดไปหรือไม่? ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเราพี่น้องที่จะรอ แต่มันไม่เหมาะสมสำหรับองค์รัชทายาทที่จะรอข้าราชบริพารเช่นนี้ นอกจากนี้คงจะแย่หากมิติลับปิดตัวลงก่อนที่เราจะเข้าไป”
กู่ซิงพยักหน้าด้วยความชื่นชม ความคิดของพี่ชายสอดคล้องกับความคิดของเขาเอง แต่กู่เหิงสามารถซ่อนวัตถุประสงค์ที่แท้จริงไว้เบื้องหลังเหตุผลที่ฟังดูสูงส่งได้ เขามักจะรู้สึกว่านั่นเสแสร้งเกินไป แต่ตอนนี้เขารู้สึกชอบพี่ชายมากยิ่งขึ้น
เจ้าอ้วนส่งเสียงดังเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ถูกต้อง! เอาแต่รออยู่แบบนี้มันน่าเบื่อจริง ๆ”
กู่เหิงและกู่ซิงแลกเปลี่ยนสายตากันเงียบ ๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของรัชทายาท รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของพวกเขา
แววแห่งความผิดหวังฉายผ่านดวงตาของปี่หลิงหลงเมื่อเห็นว่ารัชทายาทกำลังงอแงอย่างไร นางพูดเสียงเรียบว่า “โม่เอ๋อร์ พวกเจ้าทุกคนพาองค์รัชทายาทไปที่สถาบันหลวงก่อน ข้าจะไปเยี่ยมบ้านของท่านซู”
“เย้! เราจะไปเล่นที่โรงเรียน!” รัชทายาทวิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น
หรงโม่ไม่มีเวลาแม้แต่จะพูดอะไร นางรีบสาวเท้าตามไปคุ้มกันรัชทายาท องครักษ์หลายคนรีบตามหลังไปติด ๆ
พี่น้องตระกูลกู่ไม่เคลื่อนไหว พวกเขากล่าวว่า “เพื่อความปลอดภัยขององค์หญิงรัชทายาทพวกเราจะไปด้วย อยากเห็นด้วยตาตัวเองว่าท่านซูคนนี้เป็นบุรุษประเภทไหนเช่นกัน”
องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว สัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ที่ทั้งสองมีต่อซูอัน ในใจคิดว่าไม่ควรพาไปด้วยให้ยุ่งยาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว นางรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะได้พบกันในตอนนี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายจะใช้เวลาร่วมกันในมิติลับต่อจากนี้ไป ด้วยเหตุนี้นางจึงพยักหน้าและเรียกเผี่ยวตวนเตียวกับเจียวซือกุนติดตามไปที่บ้านของซูอัน
…
ที่พักของซูอันอยู่ในเมือง พวกเขามาถึงอย่างรวดเร็ว ปี่หลิงหลงเดินตรงไปยังบ้านของซูอัน
เมื่อคนรับใช้เห็นองค์หญิงรัชทายาท พวกเขาตกใจและทักทายนาง หลังจากมองไปรอบ ๆ ปี่หลิงหลงไม่เห็นซูอันที่ไหนเลยจึงถามว่า “ท่านซูอยู่ที่ไหน?”
“ท่านซูออกไปแต่เช้าแล้วเพคะ” สาวใช้คนหนึ่งตอบ
“เขาไปแล้ว?” ปี่หลิงหลงตกตะลึง ทำไมนางยังไม่เห็นเขาเลย? แล้วระหว่างทางมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ หรือเปล่า?
หลังจากคิดเช่นนั้น นางรีบถามเผี่ยวตวนเตียวว่า “องครักษ์เผี่ยว วันนี้มีการต่อสู้เกิดขึ้นในเมืองหรือไม่?”
เผี่ยวตวนเตียวส่ายหัว “กระหม่อมไม่ได้รับรายงานเลยพะย่ะค่ะ”
กู่ซิงพูดด้วยรอยยิ้ม “บางทีเขาอาจจะรู้ว่ามิติลับนั้นอันตรายแค่ไหน เขาจึงหวาดกลัวและหลบหนีไปแล้ว” รัชทายาทไม่อยู่ตรงนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะได้ยินแล้วจะซักถามอีกต่อไป
เจียวซือกุนเกรี้ยวกราดและพูดว่า “ท่านซูไม่ใช่คนประเภทนั้น” เขาโกรธมากที่ได้ยินสองคนนี้พูดไม่ดีเกี่ยวกับซูอันระหว่างทางมาที่นี่
“เป็นไปได้ที่จะรู้จักใครสักคนเป็นเวลานานโดยไม่รู้ธาตุแท้ของเขา เจ้าก็เห็นด้วยตัวเองแล้วนี่ เขาไม่มาตามเวลาที่ตกลงกันไว้ใช่ไหม?” กู่ซิงพูดพร้อมกับยักไหล่
“ท่านซูอาจถูกรั้งไว้ด้วยเรื่องอื่น” เผี่ยวตวนเตียวพูดขึ้นเช่นกัน
กู่เหิงขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าซูอันคนนี้ค่อนข้างจะมีสายสัมพันธ์ที่ดีในวังตะวันออก… แม้แต่องครักษ์สองคนนี้ก็พูดแทนเขา
กู่ซิงหัวเราะออกมา “อะไรจะสำคัญไปกว่าการสอบของรัชทายาทในวันนี้?”
เผี่ยวตวนเตียวพูดไม่ออก ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร
กู่ซิงมองดูบ้าน “บางทีท่านซูอาจจะแสร้งทำเป็นออกไป แต่จริง ๆ แล้วซ่อนตัวอยู่ข้างใน” เขาเดินตรงเข้ามาในบ้านหลังจากพูด เนื่องจากองค์หญิงรัชทายาทอยู่ด้วย จึงไม่มีใครกล้าหยุดกลุ่มของนางและทำได้เพียงเดินตามหลังไปอย่างใจจดใจจ่อ
หลังจากลังเลใจ ปี่หลิงหลงก็ไม่ได้หยุดกู่ซิง นางเองก็เริ่มจะโกรธเหมือนกัน ซูอันสัญญากับนางอย่างชัดเจน แต่กลับมาสายสำหรับการนัดหมายที่สำคัญเช่นนี้ ข้าอุส่าห์ตื่นแต่เช้าและแต่งหน้าโดยเปล่าประโยชน์ อยากรู้จริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233 +233 +233…
—
บ้านและลานโดยรอบไม่ใหญ่นัก กู่ซิงค้นหาทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เห็นวี่แววของซูอันเลย เขาหัวเราะและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ข้างนอก”
กู่เหิงกระแอม “น้องชาย อย่าด่วนสรุป ท่านซูอาจอยู่ที่วังตะวันออกแล้ว”
กู่ซิงหัวเราะเยาะ “เป็นไปได้ยังไง? เราเพิ่งมาจากวังตะวันออก แต่ไม่เห็นเขาแม้แต่เงา เฮ้อ ข้าว่าเราคงคาดหวังอะไรไม่ได้มากจากอันธพาลข้างถนนหรอก ถ้าสถานการณ์ปกติก็คงดูกล้าหาญชาญชัยดี แต่เมื่อเจอเรื่องกดดันเข้า นิสัยขี้ขลาดและน่าสมเพชของเขาก็จะปรากฏชัดขึ้น”
“ไร้สาระ!” เจียวซือกุนแย้งว่า “ท่านซูกล้าเผชิญหน้ากับทายาทระดับแปดของราชันลมปราณและยังเอาชนะมาได้! และยังต่อสู้กับหานเฟิงชิวผู้บ่มเพาะระดับเก้าได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ทำไมเขาถึงต้องกลัวมิติลับด้วย?”
กู่เหิงกล่าวว่า “การต่อสู้ครั้งนั้นใคร ๆ ก็รู้ว่าแท้จริงแล้วมีผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังซ่อนตัวอยู่และได้แอบอัญเชิญธาตุน้ำออกมาช่วยเหลือซูอัน เมื่อทายาทของราชันลมปราณใช้ท่าสายฟ้าขั้นสุดยอด จึงทำให้เขาต้องพ่ายแพ้ไปอย่างเป็นปริศนา”
“ใช่! ข้อเท็จจริงคือท่านซูมาจากข้างถนน ถ้าเขาเป็นอัจฉริยะจริง ๆ ทำไมถึงยอมเสียศักดิ์ศรีแต่งเข้าตระกูลฉู่?” กู่ซิงรู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อพูดแบบนี้ เพราะเขาเคยเห็นความงดงามของฉู่ชูเหยียนจากระยะไกลมาก่อน หากเทพธิดาเช่นนางจะรับเขยเข้าบ้าน แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังเต็มใจ “อะแฮ่ม การบ่มเพาะของเขาอยู่ในระดับประมาณห้าหรือหกเท่านั้น มากสุดอาจจะเป็นระดับเจ็ด เขาจะเอาชนะทายาทของราชันลมปราณที่อยู่ในระดับแปดได้ยังไง? หรือต่อสู้กับหานเฟิงชิวได้สมน้ำสมเนื้อหรืออะไรที่ว่านั่น? ยิ่งฟังยิ่งไร้สาระ”
เขาพูดต่อว่า “คนอย่างหานเฟิงชิวมีความแข็งแกร่งแค่ไหน? ทุกคนในเมืองหลวงรู้ว่าเขาอยู่ขั้นสูงสุดของระดับเก้า คนแบบนั้นสามารถบดขยี้คนที่อยู่ในระดับเจ็ดหรือแปดได้อย่างง่ายดายด้วยนิ้วเดียว หนูตัวเล็ก ๆ อย่างท่านซูจะไปสู้กับเขาได้ยังไง? อาจเป็นเพราะหานเฟิงชิวคอยระวังตัวจากผู้บ่มเพาะลึกลับที่ซ่อนอยู่คนนั้น สุดท้ายกลับกลายเป็นข่าวลือจอมปลอมว่าท่านซูต่อสู้กับหานเฟิงชิวได้สมน้ำสมเนื้อ นี่มันไร้สาระจริง ๆ!”
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนอ้าปากจะพูด แต่ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับพวกเขาผู้ที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับเก้าคือคนที่ระดับต่ำกว่าไม่สามารถเอาชนะได้ พวกเขามองไปรอบ ๆ ด้วยความหงุดหงิดและทำอะไรไม่ถูก พี่ซู ท่านอยู่ที่ไหน!?
………………..