เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1181 ถูกกำหนดให้ล้มเหลว
บทที่ 1181 ถูกกำหนดให้ล้มเหลว
อาจารย์จากภูเขาด้านหลังสถาบันหลวงเริ่มโต้เถียงกันเอง ซูอันใช้โอกาสนี้เดินไปที่ด้านข้างของเจียงลั่วฝูและถามว่า “พี่สาว ท่านมาที่นี่ทำไม? ข้าเกรงว่าเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของตระกูลท่านกับราชันลมปราณ”
เจียงลั่วฝูยิ้มและตอบว่า “ข้ารู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่ถ้าข้ามาด้วยกันกับศิษย์พี่ศิษย์น้องก็คงไม่เป็นไร”
“ที่ท่านว่ามาก็จริง” ซูอันหัวเราะ
“ศิษย์พี่แปด ท่านต้องระวัง! ผู้ชายคนนี้เป็นชายเจ้าสำราญ ท่านจะปล่อยให้เขาหลอกไม่ได้! จะเป็นยังไงถ้าเขามาไข่ทิ้งไว้แล้วหนีไปหรืออะไรทำนองนั้น” จู่ ๆ ฉีเหยากวงก็เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นมา
สีหน้าของเจียงลั่วฝูมืดลง “อย่าพูดเหมือนตัวเองฉลาดหากเจ้าไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไร ห่วงตัวเองก่อนเถอะ! เจ้าเป็นคนที่ดูมึนงงตลอดเวลา และอาจเป็นคนที่โดนเขาหลอกกินเต้าหู้*[1] โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น”
“อา! ข้ายังเด็กอยู่เลยนะ มาพูดเรื่องสกปรกให้ฟังแบบนี้ ข้าจะฟ้องอาจารย์!” ฉีเหยากวงตอบ เจียงลั่วฝูพูดไม่ออก
พี่น้องตระกูลกู่และบุตรหลานขุนนางคนอื่นตกตะลึง เกิดอะไรขึ้นตอนนี้? เหตุใดบุคคลผู้เย่อหยิ่งและมีเกียรติเหล่านี้จึงดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง? พวกเขาไม่เพียงแค่เป็นมิตรกับซูอัน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะ… ประจบประแจงซูอันด้วยซ้ำ?
ปี่หลิงหลงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นว่าทั้งหมดอยู่ในความงุนงง ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกสดชื่นเมื่อทุกอย่างลงเอยในรูปแบบนี้โดยที่นางไม่ต้องออกแรงตำหนิด้วยตัวเอง ฮึ่ม พวกเขาทั้งหมดเป็นเพียงกลุ่มคนโง่เขลา!
…
จากระยะไกล ในกลุ่มของฝ่ายราชันลมปราณ ฉู่โหยวเจาเห็นเจียงลั่วฝูและฉีเหยากวงยืนใกล้ชิดกับซูอัน สายตาของนางจับจ้องไปที่เรียวขายาวที่สวมถุงน่องสีดำอย่างช่วยไม่ได้
มู่หรงชิงเหอถอนหายใจด้วยความชื่นชม “ขาของแม่นางเจียงทั้งยาวและเรียวสวย แม้แต่ผู้หญิงอย่างข้าก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม”
“ฮึ่ม นางเป็นแค่จิ้งจอก ขาพี่สาวของข้าก็สวยเหมือนกัน แค่นางไม่แต่งตัววาบหวิวจนเห็นได้ชัดแบบนี้” ฉู่โหยวเจาบ่นพึมพำ
มู่หรงชิงเหอมีสีหน้าแปลก ๆ มีผู้ชายที่ไม่ชอบขาของเจียงลั่วฝูด้วยเหรอ? แต่นางก็ไม่ได้คิดมากเรื่องนี้เช่นกัน นางแค่คิดว่าเขาปกป้องพี่สาวของตัวเอง
ฉู่โหยวเจากล่าวว่า “หมั่นไส้นัก ไปที่นั่นกันเถอะ” มู่หรงชิงเหอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ แต่นางก็ยังตามเขาไป
ก่อนที่ฉู่โหยวเจาจะเข้าใกล้ซูอัน นางตะโกนเสียงดังว่า “พี่เขย ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว!”
ซูอันหันกลับมา เมื่อเห็นว่าเป็นนาง เขาก็อดยิ้มไม่ได้ “โหยวเจานั่นเอง”
ฉู่โหยวเจาเดินมาถึงข้าง ๆ เจียงลั่วฝูและฉีเหยากวง จากนั้นนางก็หยิบหลายสิ่งหลายอย่างออกมาจากถุงแล้วมอบให้ซูอัน “พี่เขย นี่คือบางสิ่งที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า หวังว่าพวกมันจะมีประโยชน์ในมิติลับ นี่คือเค้กบางส่วน เจ้าอาจไม่สามารถหาอาหารในมิติลับได้ ยาเหล่านี้เป็นยาไล่แมลง เจ้าจะไม่โดนยุงรบกวน นี่คือยาแก้ไข้หากเจ้าเป็นไข้ และยาเหล่านี้เป็นยารักษาบาดแผลทั้งภายในและภายนอก เจ้าจะต้องต่อสู้อย่างหนัก ดังนั้นควรมียาเผื่อไว้จะดีกว่า นี่คือยาต้านพิษที่สามารถป้องกันเจ้าจากแมลงและพืชที่มีพิษ…”
“อย่าทำกับข้าเหมือนเป็นคนนอก พี่เขย! พี่ใหญ่บอกให้ข้าดูแลเจ้าให้ดีก่อนที่นางจะจากไป จำได้ไหม?” ฉู่โหยวเจาถาม นางมองเจียงลั่วฝูและฉีเหยากวงด้วยสายตาคมกริบ นางต้องปกป้องพี่เขยไม่ให้ถูกรังแกโดยนางจิ้งจอกเหล่านี้
คนของฝ่ายราชันลมปราณเริ่มกระซิบกระซาบกันเมื่อเห็นฉากนี้
มู่หรงถงเดินไปที่ด้านข้างของฉินเจิ้งและพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ว่า “มีลูกสาวคนหนึ่งก็เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน หว่านหรูก็หนีไปกับผู้ชาย มาถึงหลานสาวของเจ้าก็ไม่ซื่อสัตย์เลย ฉู่ชูเหยียนหย่ากับซูอันแล้ว แต่โหยวเจายังคงเรียกเขาว่าพี่เขยอย่างกระตือรือร้นและให้หลายสิ่งหลายอย่างแก่ซูอัน นี่ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของชูเหยียนกับเขายังคงปกติดีอยู่ใช่ไหม?”
สีหน้าหน้าของฉินเจิ้งมืดลง “โหยวเจาช่างอุกอาจจริง ๆ แม้แต่ชื่อเสียงของพี่สาวก็ยังต้องมามัวหมองไปด้วย!”
—
ท่านยั่วยุฉินเจิ้งสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +358 +358 +358…
—
มู่หรงถงยิ้ม ทุกวันนี้ไม่มีอะไรเป็นไปด้วยดีสำหรับเขา ดังนั้นการได้เห็นหลานสาวของเพื่อนเก่าดันไปเป็นมิตรกับฝ่ายตรงข้าม ทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย
ทันใดนั้น มู่หรงชิงเหอก็ส่งถุงใบใหญ่ให้ซูอัน “พี่ซู ข้าไม่มีอะไรมาก ดังนั้นข้าจะให้ถุงเก็บของนี้แก่ท่าน มันสามารถจุของได้หลายอย่าง และสามารถใส่ทุกอย่างที่พี่ฉู่ให้ท่านก่อนหน้านี้ได้ ท่านจะได้พกพวกมันไปไหนมาไหนได้ง่าย ๆ”
แม้ว่าเขาจะมีดวงแก้วผู้รอบรู้พร้อมพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่สะดวกที่จะนำสิ่งนั้นออกมาใช้ ด้วยถุงใบนี้ที่นางให้ เขาสามารถเก็บและนำสิ่งของออกมาใช้ได้ในเวลากลางวันแสก ๆ โดยไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป
มู่หรงชิงเหอหน้าแดง “พี่ซู เกรงใจเกินไปแล้ว ข้ายังคงต้องขอบคุณสำหรับการดูแลและความช่วยเหลือทั้งหมดของท่านเมื่อเร็ว ๆ นี้”
จากระยะไกล รอยยิ้มของมู่หรงถงแข็งค้างทันที และในขณะเดียวกัน ความหม่นหมองของฉินเจิ้งก็หายไปอย่างฉับพลัน เขาลูบเคราและคำรามด้วยเสียงหัวเราะ “จริงแท้แน่นอน ๆ บุตรสาวเปรียบได้กับโถส้วมที่อยู่หน้าบ้านอย่างแท้จริง ฮ่า ๆๆ!”
มู่หรงถงพูดไม่ออก เขาจะคาดคิดได้อย่างไรว่ากระแสน้ำจะเปลี่ยนอย่างรวดเร็วขนาดนี้!?
—
ท่านยั่วยุรอบมู่หรงถงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +399 +399 +399…
—
ไม่นานก็ถึงเวลาเข้าสู่มิติลับ ไม่ว่าฝ่ายของราชันลมปราณจะคิดอย่างไร พวกเขาก็ยังคงต้องกล่าวคำอวยพรให้รัชทายาทประสบความสำเร็จ ปี่หลิงหลงรู้ว่ารัชทายาทไม่รู้วิธีตอบรับอย่างถูกต้อง ดังนั้นนางจึงทำหน้าที่แทน
หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนบทสนทนาเยินยอปลอม ๆ กัน สายตาของราชันลมปราณก็จับจ้องไปที่ซูอันขณะที่พูดว่า “ท่านซู ข้าต้องมอบภารกิจมิติลับลับนี้ให้กับเจ้าดูแลเสียแล้ว”
ด้วยคุณสมบัติอะไร? เขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะระดับหก! ทำไมเราต้องพึ่งพาเขา?
—
ท่านยั่วยุ จ้าวซี สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +477!
ท่านยั่วยุ เมิ่งผาน สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +477!
ท่านยั่วยุ เพ่ยโยว สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +477!
—
…
ในหมู่พวกเขาไม่มีใครเป็นตะเกียงที่ขาดน้ำมัน*[2] พวกเขาตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว ทำไมราชันลมปราณถึงสนใจซูอันมากขนาดนี้?
แม้ว่าจะอยู่คนละฝ่าย แต่พวกเขาก็ยังรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของราชันลมปราณ ยิ่งกว่านั้น นี่คือหัวหน้าของอีกฝ่ายหนึ่ง ใครบางคนที่สามารถยืนหยัดต่อสู้อย่างเท่าเทียมกับจักรพรรดิได้ ซึ่งคนที่บรรพบุรุษของพวกเขา หรือแม้แต่ปู่ของพวกเขายังต้องก้มหัวให้ แต่บุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องใดกับซูอันหรือไม่?
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวังหลวง ปี่หลิงหลงรู้ว่าราชันลมปราณและซูอันเผชิญหน้ากันหลายครั้งแล้ว แต่ราชันลมปราณไม่เคยได้สิ่งที่ต้องการ มันสมเหตุสมผลอย่างยิ่งที่เขาจะให้ความยกย่องกับซูอัน
ซูอันไม่สะทกสะท้านเลยเมื่อเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามา เขาไม่ถือว่าคนเหล่านี้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด เขากล่าวว่า “ราชันลมปราณ ท่านอย่ากังวลไป เชื่อใจข้าได้ว่าองค์รัชทายาทจะต้องผ่านการทดสอบครั้งนี้อย่างแน่นอน”
ม่านตาของราชันลมปราณหรี่แคบลง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพูดอย่างลึกซึ้งว่า “เป็นเรื่องดีสำหรับเด็กที่มีความทะเยอทะยาน อย่างไรก็ตาม หากหยิ่งยโสเกินไป เจ้าอาจพบกับจุดจบก่อนเวลาอันควร”
*[1] หลอกกินเต้าหู้ ในกรณีนี้หมายถึงการถูกล่วงเกินทางร่างกาย
*[2] ตะเกียงที่ไม่ขาดน้ำมัน หมายถึง บุคคลที่เฉลียวฉลาด
………………..