เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1185 ศพ
บทที่ 1185 ศพ
เกาอิ้ง เครือญาติของตระกูลหลิวอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แต่องค์หญิงรัชทายาททรงตรัสว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซูอันนั้นสูงกว่าระดับหกมาก นอกจากนี้ เจ้ายังเห็นว่าพวกอาจารย์จากภูเขาด้านหลังปฏิบัติต่อเขาดีเพียงใด อย่างน้อยที่สุดเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”
หลิวเซียนหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ใครจะรู้ บางทีเขาอาจจ่ายเงินให้อาจารย์เหล่านั้นมาสร้างภาพให้ ตระกูลฉู่มีกิจการเกลือและเหล็กจึงมีเงินมากเกินพอ”
“เป็นไปไม่ได้!” คนอื่น ๆ ร้องพร้อมกันเป็นครั้งแรก “อาจารย์จากสถาบันหลวงล้วนมีสถานะพิเศษและไม่ใช่คนที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินทอง แม้แต่ราชันลมปราณก็เคยพยายามมาก่อน แน่นอนว่ามันล้มเหลว ดังนั้นแค่คนอย่างซูอันจะทำได้ยังไง?”
“แต่ความเคารพรักที่พวกเขาแสดงต่อซูอันนั้นเราก็เห็นกันอยู่ แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้น?” หลิวเซียนถามด้วยความสับสน
เมิ่งผานกล่าวว่า “ตามที่ข้ารู้ อาจารย์จากภูเขาด้านหลังนั้นล้วนแต่เป็นตัวตนที่น่าเกรงขามอย่างยิ่ง ทั้งหมดอยู่ระดับแนวหน้าในสาขาของตน ตัวอย่างเช่นเฮยไป๋จื่อ เก่งเรื่องหมากล้อม อินซือเด่นในเรื่องการโต้วาที หวางซู่หยางเป็นเลิศในการทำเกษตร… ซูอันมาจากข้างท้องถนน เขาอาจจะเคยจุ่มเท้าแตะ ๆ เรื่องที่ดูเหมือนจะเหมาะกับรสนิยมของพวกอาจารย์ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกอาจารย์พากันยกย่องเขาอย่างนี้”
“ข้าเห็นด้วย! ไอ้สารเลวเมิ่ง ใครจะคิดว่าเจ้าจะพูดอะไรดี ๆ กับเขาขึ้นมาได้?” จ้าวซีปรบมือและหัวเราะอย่างเต็มที่
“เปล่า” เมิ่งผานไม่พอใจ
“รู้ไปหมด แต่หาดีไม่ได้สักเรื่อง” เพ่ยโยวหัวเราะเยาะ “นั่นคือสาเหตุที่การบ่มเพาะของเขาธรรมดามาก”
คนอื่น ๆ พยักหน้า ต่างคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ความไม่พอใจของพวกเขาที่มีต่อซูอัน เนื่องจากบรรดาอาจารย์และคำพูดที่จริงจังของปี่หลิงหลงค่อย ๆ หายไป
หลังจากนั้นไม่นาน ค่ำคืนก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าภูเขานั้นอันตรายมากขึ้นในตอนกลางคืน พวกเขาจึงไม่รุกคืบต่อไปและตั้งค่ายพักแรมแทน การเดินทางจะเริ่มขึ้นเมื่อท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนเป็นทหารราชองครักษ์ของวังตะวันออกซึ่งได้รับการบ่มเพาะอย่างเข้มงวด นั่นเป็นเหตุผลที่ซูอันให้พวกเขาเตรียมผู้บ่มเพาะสำหรับจัดเวรยามในบริเวณรอบ ๆ
สำหรับบรรดานายน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่จำเป็นต้องทำงานแบบนั้น ต่างพากันห้อมล้อมจ้าวรุ่ยจื่อและปี่หลิงหลง พูดพล่ามว่าพวกตัวเองเอาชนะสัตว์ร้ายที่พบในตอนกลางวันได้อย่างง่ายดาย รัชทายาทรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องราวทั้งหมดและบอกว่าในวันพรุ่งนี้ทุกคนจะต้องจับสัตว์ร้ายมาให้เขาลงมือฆ่าด้วยตัวเอง
พี่น้องตระกูลกู่ทั้งคู่ถือโอกาสนำไก่ย่างมาให้ปี่หลิงหลงอย่างใส่ใจ
“หลิงหลง วันนี้เจอเรื่องมาเยอะ เจ้าคงจะเหนื่อย ขอให้เพลิดเพลินกับไก่ไม้นี้”
เมื่อเห็นไก่ย่างในมือของกันและกัน หนังตาก็กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ พี่น้องคู่นี้ใจตรงกันจริง ๆ!
“ขอบคุณ!” ปี่หลิงหลงตอบกลับ เมื่อเทียบกับรัชทายาทผู้ตื่นเต้นกับเรื่องราวทั้งหมดและไร้กังวลโดยสิ้นเชิง นางห่างไกลจากคำว่าผ่อนคลายอยู่มาก มือขาวผุดผ่องรับไก่ย่างทั้งสองมาและส่งให้ซูอันหนึ่งไม้ “เจ้าคงหิวเหมือนกัน”
ซูอันไม่ปฏิเสธนางและเริ่มกิน เขาบ่มเพาะวิชาปฐมบทแรกเริ่ม ซึ่งทำให้ร่างกายมีความแข็งแกร่งและอัตราการฟื้นฟูมากกว่าคนปกติ แต่ยังเพิ่มปริมาณอาหารที่ต้องบริโภคด้วย เขาจำเป็นต้องเติมพลังอย่างต่อเนื่อง พี่น้องสองคนนี้อาจจะน่ารำคาญ แต่ทักษะการย่างไก่ไม่ได้แย่เลย
ปี่หลิงหลงยิ้มเมื่อเห็นซูอันดูเอร็ดอร่อยกับไก่ในมือ แล้วพูดว่า “กินช้า ๆ ยังมีอีก เอ้า! เอาของข้าไปด้วย”
พี่น้องตระกูลกู่พูดไม่ออกเลย พวกเขาอยากจะร้องไห้ เราสองคนทุ่มเทกับไก่สองไม้นั้นเพื่อเจ้า!
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ฉากนี้ทำให้เขานึกถึงเรื่องราวจากอินเทอร์เน็ตจากโลกก่อนหน้านี้ ผู้ชายคนหนึ่งใช้ชีวิตอย่างอดออมมาหลายเดือนเพื่อซื้อของขวัญล้ำค่าให้หญิงสาวในฝัน หวังที่จะได้เห็นรอยยิ้มของเธอ แต่แล้วเธอกลับกลายเป็นมอบของขวัญนั้นให้กับผู้ชายอีกคนที่ตัวเธอชื่นชอบในทันที แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นโลกไหนก็ไม่มีที่ยืนให้พวกขี้แพ้!
เมื่อนึกถึงสิ่งที่พี่น้องเหล่านี้พูดถึงเขาตลอดทาง เขาคงไม่ใช่ซูอันถ้าไม่ใช้โอกาสนี้แก้แค้น มือมัน ๆ หยิบกระดูกไก่ขึ้นมาแล้วโบกต่อหน้าทั้งสองคน แล้วพูดว่า “เจ้าย่างได้ไม่เลวเลย! ย่างอีกสองไม้ให้ข้าได้ไหม? ท่าทางสองไม้นี้จะไม่เพียงพอสำหรับความอยากอาหารของข้า”
“เจ้าคิดว่าเราเป็นพ่อครัวหรือ!” พี่น้องตระกูลกู่คำรามด้วยความโกรธแค้น
—
ท่านยั่วยุกู่เหิงสำเร็จ ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666 +666 +666…
ท่านยั่วยุกู่ซิงสำเร็จ ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666 +666 +666…
—
ปี่หลิงหลงกลอกตาและพูดว่า “เจ้าจงใจยั่วโมโหพวกเขา”
ปี่หลิงหลงหน้าแดง ผู้ชายคนนี้กล้าหาญมากขึ้นเรื่อย ๆ! นางคิดกับตัวเองว่าต้องหาโอกาสสอนบทเรียนให้เขาบ้าง
เวลาล่วงเลยไปอีก ท้องฟ้าดำสนิท เหล่านายน้อยกลับไปที่กระโจมเพื่อพักผ่อน สำหรับรัชทายาทหลังจากอิ่มหมีพีมันแล้วก็นอนกรนเสียงดังในกระโจม
ปี่หลิงหลงนั่งหารือกับซูอันเกี่ยวกับแผนของอีกสองสามวันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนก่อนนางแทบไม่ได้พักผ่อนเลย อาการง่วงเหงาหาวนอนจึงเริ่มคืบคลานเข้ามา ศีรษะพับพิงไหล่ของซูอันโดยไม่ได้ตั้งใจและหลับไป
เมื่อได้กลิ่นหอมจาง ๆ จากร่างกายของหญิงสาว ซูอันก็เริ่มหลับตาและมุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะ การบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสองระดับและต้องการการหลอมรวมอย่างเร่งด่วน
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนเพิ่งเสร็จสิ้นการลาดตระเวนและกำลังจะกลับมาคุยกับซูอัน ทั้งสองกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แต่เมื่อเห็นฉากนี้ รอยยิ้มของพวกเขาก็แข็งค้างทันที ต่างคนต่างมองหน้ากันแล้วรีบถอยออกไปด้านนอก
เผี่ยวตวนเตียวหลั่งเหงื่อเย็นจนชุ่มไปทั่วหน้าผาก “ไม่นะ แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี?”
ใบหน้าของเจียวซือกุนก็ซีดเหมือนคนตายเช่นกัน แต่เขาค่อนข้างสงบมากกว่า “หมายความว่ายังไง ทำยังไงต่อไป? ยังไม่นับว่าระหว่างพวกเขาสองคนมีอะไรลึกซึ้งไปกว่าที่เห็นนี่”
“นี่ยังไม่นับอีกเหรอ? หากมีคนอื่นรู้เข้า ไม่ต้องคิดถึงพี่ซูเลย แม้แต่องค์หญิงรัชทายาทก็ไม่รอดจากหายนะ!” เผี่ยวตวนเตียวพึมพำกับตัวเอง “พี่ซู กำลังคิดอะไรอยู่? เขากล้าแตะต้ององค์หญิงรัชทายาทได้ยังไง?”
“เจ้าเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ หรือ” เผี่ยวตวนเตียวมองเขา
เจียวซือกุนฝืนยิ้ม “เราต้องเชื่อแม้ว่าจะรู้สึกขัดแย้งก็ตาม ถ้าเรื่องนี้รั่วไหลออกไป พี่ซูจะเป็นยังไง?”
เผี่ยวตวนเตียวลังเล “แต่ถ้าเรารู้ความจริงและไม่รายงาน นั่นมีโทษถึงขั้นประหารทั้งโคตร!”
“พี่ซูดีกับพวกเรามาก แล้วเราจะทำร้ายเขาได้ยังไง? ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขานอกจากการผล็อยหลับไป ดังนั้นเราจะแสร้งทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แล้วค่อยหาโอกาสเตือนพี่ซูอีกที” เจียวซือกุนกล่าว
“นั่นคือทั้งหมดที่เราทำได้” เผี่ยวตวนเตียวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้น “ข้าจะย้ายทหารลาดตระเวนไปให้ไกลจากตรงนี้หน่อย เจ้าควรยืนยามอยู่ตรงนี้ เฝ้าไว้ไม่ให้ใครเห็นอะไร”
“ตกลง!”
พวกเขาทั้งสองใช้เวลาทั้งคืนด้วยความหวาดกลัว
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแห่งรุ่งอรุณสาดส่องไปทั่วขุนเขาและแมกไม้ ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังก้องไปทั่วทั้งค่าย “มีศพ!”
………………..