เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1198 ยาวิเศษ
บทที่ 1198 ยาวิเศษ
ปี่หลิงหลงตกตะลึง ไม่คาดคิดมาก่อนว่าทั้งสองคนจะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด นางถอนหายใจ พวกนางเติบโตมาด้วยกัน แม้ว่าจะไม่มีความรัก แต่ก็ยังมีความพึงพอใจในฐานะสหาย นี่เป็นสายสัมพันธ์ที่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้
อย่างไรก็ตาม นางรีบตั้งสติและมองซูอัน “คำพูดสุดท้าย พวกเขาหมายความว่าอะไรกันแน่?”
ซูอันเริ่มคิดกับตัวเอง
เกาอิ้งกล่าวว่า “มันอาจเป็นเพียงคำสาปแช่งจากความแค้น คนที่มากับเราครั้งนี้มีจำนวนมาก ซือถงและคนอื่น ๆ ได้เปิดเผยตัวเองแล้ว ราชันลมปราณไม่น่าจะส่งผู้บ่มเพาะคนอื่นนอกเหนือจากคนพวกนี้มาอีกใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นพวกเราที่เหลืออาจจะต้องเชือดคอตัวเองเพื่อจบเรื่องทั้งหมด”
ปี่หลิงหลงพยักหน้า “ใช่ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางครั้งนี้ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีและผ่านการตรวจสอบประวัติอย่างเข้มงวด ความจริงที่ว่าซือถงสามารถเข้ามาได้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง สิ่งที่สามารถหลอกลวงอุปกรณ์วัดการบ่มเพาะนั้นหาได้ไม่ง่ายนัก”
ซูอันพยักหน้าและพูดว่า “ข้าหวังว่าจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด”
สิ่งที่พวกเขาพูดมีเหตุผล จักรพรรดิและผู้บ่มเพาะคนอื่น ๆ ในกลุ่มของรัชทายาทไม่ใช่คนงี่เง่า พวกเขาจะปล่อยให้มีช่องโหว่ขนาดใหญ่ในแผนที่วางเอาไว้แต่แรกได้อย่างไร?
แม้แต่ซือถงซึ่งอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับแปดก็ยังถูกซูอันสังหารได้อย่างง่ายดาย เกาอิ้งไม่สามารถจินตนาการได้จริง ๆ ว่าซูอันจะไม่สามารถรับมือกับอันตรายแบบไหนได้บ้าง
ปี่หลิงหลงรู้สึกคล้ายกัน นางมองซูอันและพูดว่า “ขอบคุณ”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ “ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าเจ้าไม่ได้ไว้ใจคนผิดใช่ไหม?”
ปี่หลิงหลงหน้าแดง นี่เป็นความลับที่มีแต่เขาและนางเท่านั้นที่รู้กัน ในตอนนั้น นางเคยถามซูอันว่านางไว้ใจเขาได้ไหม และเขาก็ตอบรับ อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้รู้สึกมั่นใจเท่าไรนัก และแน่ใจว่าเขาเองก็รู้สึกได้เหมือนกัน
ทั้งสองมองหน้ากันนิ่ง บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างแปลกขึ้นมา
“อะแฮ่ม…” เกาอิ้งกระแอมเบา ๆ “น้องเพ่ยอาจไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป”
อันที่จริงเขาอยากจะบอกว่า ตัวเขาเองนี่แหละอาจจะทนไม่ได้อีกต่อไป เจ้าสองคนกำลังมองกันและกันอย่างหลงใหล พวกเราไม่มีตัวตนในสายตาพวกเจ้างั้นหรือ?
ปี่หลิงหลงรู้สึกตัวขึ้นมาทันที นางรีบไปดูเพ่ยโยวด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ซูอันก็ติดตามนางไปเช่นกัน เพ่ยโยวได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของซือถง แม้แต่หน้าอกที่เคยแข็งแกร่งก็ยุบลง เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส ความจริงที่ว่าเขาสามารถยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงเจตจำนงอันแน่วแน่ของเขา
“อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไป ข้ากลัว…” ปี่หลิงหลงอดไม่ได้ที่จะโศกเศร้า คนผู้นี้ตกอยู่ในสภาพนี้เพราะพยายามช่วยนาง ก่อนหน้านี้นางยังเคยสงสัยในความภักดีของเขาด้วยซ้ำ
น่าเสียดายที่การบ่มเพาะของเขายังไม่ถึงระดับเจ็ด อย่างน้อยที่สุดผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดจะสามารถอยู่รอดได้ด้วยความสามารถในการเสริมสร้างโลหิต
ซูอันคุกเข่าลงข้าง ๆ เพ่ยโยวแล้วถามทันทีว่า “เจ้ามาจากตระกูลเพ่ย เจ้ารู้จักเพ่ยเหมียนหมานหรือไม่?”
เพ่ยโยวตกตะลึง เขาตอบอย่างอ่อนแรงว่า “ข้า… นางคือ… ลูกพี่ลูกน้องของข้า ตอนที่เรายังเด็ก… ข้ายังสอนทักษะบางอย่างให้นางด้วย…”
เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ซูอันถึงถามเขาแบบนี้ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเอาชนะซือถงอย่างกล้าหาญ เขาจะไม่แม้แต่จะสนใจตอบคำถามที่ประหลาดนี้ในขณะที่ตัวเองนอนพะงาบใกล้ตายอยู่
ซูอันพยักหน้า จากนั้นเขาก็หยิบเม็ดยาออกมาจากกระเป๋าด้านในแล้วพูดว่า “กินสิ”
ปี่หลิงหลงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ข้าได้ให้ยาที่ดีที่สุดของโรงแพทย์หลวงแก่เขาแล้ว…”
ความหมายของนางชัดเจน ในฐานะองค์หญิงรัชทายาท เห็นได้ชัดว่านางมียารักษาที่ดีที่สุดของราชวงศ์ ถ้าแม้แต่ยาของนางก็ไม่ได้ผล โอกาสที่ยาของคนอื่นจะทำอะไรได้ก็คงไม่มี
เขาป้อนยาให้เพ่ยโยวแล้วโคจรพลังชี่เข้าไปในร่างกายของอีกฝ่ายเพื่อช่วยให้ดูดซับผลของยา และรักษาอวัยวะภายใน กระดูก และส่วนอื่น ๆ ที่บาดเจ็บ
เพ่ยโยวโคจรพลังชี่ที่เหลืออยู่ในร่างกายพร้อมกับซูอัน ไม่นานดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ข้าคิดว่ามันได้ผล ท่านซู ยาของท่านไม่เหลือเชื่อไปหน่อยเหรอ?”
ปี่หลิงหลงตกตะลึง ตรวจสอบชีพจรของเพ่ยโยวอย่างรวดเร็วและสัมผัสได้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาคงที่แล้ว นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากความเร็วในการฟื้นตัว ตราบใดที่การรักษานี้ดำเนินต่อไป เพ่ยโยวย่อมรอดชีวิตอย่างแน่นอน
“ดีแล้วที่ได้ผล” ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก นี่คือยาเม็ดคืนวิญญาณที่เขาได้รับจากจี้เติ้งถูในตอนนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่ามีสรรพคุณวิเศษจนเกือบจะชุบชีวิตคนตายได้ เขาได้ลองด้วยตัวเองไม่กี่ครั้งและรู้สึกว่ามันเป็นรองเพียงแค่น้ำยาศรัทธาพี่น้องที่ได้รับจากระบบคีย์บอร์ดเท่านั้น
เขาได้รับยามหัศจรรย์นี้จากจี้เติ้งถูสิบสองเม็ด ตอนนี้เหลือแค่หกเม็ด เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถใช้มันแบบสิ้นเปลืองได้ นี่คือเหตุผลที่เขาถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพ่ยโยวกับเพ่ยเหมียนหมาน หากทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกัน เขาคงทำได้แค่ขอโทษ
จริง ๆ แล้วเขามีน้ำยาศรัทธาพี่น้อง ตราบใดที่ผู้ป่วยยังมีลมหายใจเหลืออยู่ก็สามารถดึงกลับมาจากประตูยมโลกได้ไม่ว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงแค่ไหนก็ตาม ทว่าเขาไม่เต็มใจจะใช้น้ำยาที่ล้ำค่าขนาดนี้กับคนที่เขาไม่ได้สนิทสนมมากนัก
จากนั้นเขาก็เดินไปหาเกาอิ้ง อาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายเบากว่า ซูอันจึงนำยาที่ฉู่โหยวเจาให้มาก่อนหน้านี้แก่เกาอิ้ง
“ขอบคุณ” เกาอิ้งรีบนั่งลงเพื่อทำสมาธิโคจรพลังชี่ คลื่นพลังของเขาก็ค่อย ๆ คงที่เช่นกัน
ปี่หลิงหลงเดินมาหาซูอัน จ้องมองเขาด้วยความสงสัยและถามว่า “เจ้าได้ยามาจากไหน? ดูเหมือนจะดีกว่าโรงแพทย์หลวงด้วยซ้ำ”
“จากหมอวัยกลางคนที่สมองเลอะเทอะคนหนึ่ง” อันที่จริงซูอันค่อนข้างตกใจเช่นกัน เขาคิดว่าจี้เติ้งถูเป็นเพียงหมอเทวะในเมืองจันทร์กระจ่าง ไม่คิดว่าชายผู้นั้นจะเก่งกว่าแพทย์หลวงด้วยซ้ำ นี่หมายความว่าภูมิหลังของหมอเทวะจี้มีค่าควรแก่การไตร่ตรอง
“ฮะ?” ปี่หลิงหลงมีสีหน้าแปลก ๆ แต่เมื่อนางได้ยินว่าเป็นหมอวัยกลางคนที่สมองเลอะเทอะ จึงหมดความสนใจอย่างรวดเร็ว