เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1202 ไม่สะทกสะท้านต่อภัย
บทที่ 1202 ไม่สะทกสะท้านต่อภัย
ลูกบอลน้ำแตกออก จากนั้นหุ่นเชิดที่ติดอยู่ภายในก็ตื่นขึ้น พวกมันพุ่งเข้าหาเมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังของสิ่งมีชีวิต คนทั้งกลุ่มสามารถสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจอันทรงพลังของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้แม้จากที่ไกลแสนไกล ส่วนผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ทุกคนเข้าประจำที่ มือธนูยิงไปที่เป้าหมายของเจ้า กองสอดแนมเตรียมกับดัก คนอื่นเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด…” แม้ว่าใบหน้าของปี่หลิงหลงจะซีดเล็กน้อย แต่นางก็ยังออกคำสั่งอย่างแน่วแน่ เสียงที่มั่นคงของนางเริ่มส่งผลกระทบต่อทุกคน กระบวนรบซึ่งเริ่มไม่เป็นระเบียบเล็กน้อยก็เข้าที่เข้าทางเช่นกัน
สายฟ้าฟาดลงมาเป็นชุด ทั่วบริเวณสว่างวาบด้วยแสงสีขาวซึ่งมาจากสมบัติธาตุน้ำแข็งพิเศษที่สลักโดยปรมาจารย์ด้านอักขระ สามารถเปลี่ยนพลังชี่ให้เป็นธาตุน้ำแข็งได้
นี่คือการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ของรัชทายาท ทางราชวงศ์จึงให้ทรัพยากรมากมายแก่พวกเขา อสรพิษหยกจันทราสามารถกลืนกินสัตว์อสูรอื่น ๆ และเปลี่ยนวิญญาณของพวกมันให้กลายเป็นหุ่นเชิด นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาเตรียมสายฟ้าและสมบัติวิเศษธาตุน้ำแข็งมาเป็นพิเศษ
หลังจากนั้นไม่นาน ลูกศรธาตุน้ำแข็งจำนวนมากจากมือธนูพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย หุ่นเชิดถูกก้อนน้ำแข็งปกคลุมอย่างรวดเร็ว
หากหุ่นเชิดเหล่านี้อยู่เพียงระดับหก พวกมันอาจกลายเป็นประติมากรรมเยือกแข็งไปแล้วหลังจากโดนลูกธนูธาตุน้ำแข็งจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ น่าเสียดายที่พวกมันเป็นสัตว์อสูรระดับเจ็ด ลูกธนูสามารถปกคลุมพวกมันด้วยผลึกน้ำแข็งได้ แต่ไม่เพียงพอที่จะแช่แข็งพวกมันได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม กองสอดแนมได้วางกับดักในเส้นทางที่หุ่นเชิดเหล่านี้ต้องผ่านเสร็จแล้ว ไฟหลายดวงกะพริบเมื่อกับดักถูกเปิดใช้งาน
หุ่นเชิดทั้งสี่สั่นสะท้านไปทั้งตัวราวกับกำลังกรีดร้องอย่างน่าสมเพช แม้แต่ร่างกายของพวกมันก็เริ่มมืดมัว อย่างไรก็ตาม พวกมันยังคงฝ่ากับดักมาได้และพุ่งเข้าสู่กระบวนรบของทั้งกลุ่ม
เหล่าผู้ต่อสู้ระยะประชิดที่รอคอยช่วงเวลานี้พุ่งไปข้างหน้า พวกเขาล้อมรอบเป้าหมายตามลำดับตามแผนที่เตรียมไว้
ปี่หลิงหลงไม่เคลื่อนไหวและออกคำสั่งจากศูนย์กลาง สั่งเคลื่อนย้ายคนไปมาหากเห็นว่าฝ่ายหนึ่งกำลังลำบาก ในเวลาเดียวกันก็กำกับการโจมตีและป้องกันทุกรูปแบบ
บางคนกรีดร้องเมื่อได้รับบาดแผลหรือแม้แต่เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ภายใต้คำสั่งของปี่หลิงหลง กระบวนรบไม่ได้พังทลายลง ตรงกันข้ามดูเหมือนทุกคนจะได้รับแรงบันดาลใจจากนาง ทุกคนพุ่งเข้าใส่ศัตรูโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง
บางคนถูกเขาของวัวศึกทองคำขวิดจนลำไส้ทะลักกระจายไปทั่วพื้น อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงเฮือกสุดท้าย เขาแทงอาวุธในมือเข้าที่คอของวัว พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระบายพลังธาตุน้ำในร่างกายของมัน
อีกคนหนึ่งถูกพยัคฆ์สายฟ้ากลืนกินฟาดเข้าที่เอว ร่างฉีกเป็นสองท่อนทันที อย่างไรก็ตาม ร่างกายท่อนบนของเขายังคงยึดขาหลังของมันเอาไว้ ทำในสิ่งที่ทำได้เพื่อลดความเร็วของพยัคฆ์สายฟ้ากลืนกินลงแม้เพียงเล็กน้อย
บางคนที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดจากขนของสุกรป่าขนแข็ง เมื่อเห็นว่าไม่มีความหวังในการอยู่รอด เขาพุ่งตัวไปที่ร่างของมัน โดยใช้ร่างกายป้องกันให้สหายร่วมรบ
บางคนเห็นเพื่อนถูกหมีน้ำแข็งยักษ์ฉีกครึ่งอย่างง่ายดาย แต่แทนที่จะถอยกลับ เขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
…
ความได้เปรียบอย่างท่วมท้นของหุ่นเชิดระดับเจ็ดทั้งสี่ถูกขัดขวางโดยคนเหล่านี้
ซูอันรู้สึกเคารพอย่างสุดซึ้งต่อคนในกลุ่ม ก่อนหน้านี้เนื่องจากพฤติกรรมของบรรดานายน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดูถูกคนเหล่านี้เช่นกัน แต่ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี ไม่น่าแปลกใจที่จักรพรรดิจะไว้วางใจให้ติดตามรัชทายาท เป็นเพราะคนเหล่านี้เป็นตัวแทนที่เก่งที่สุดจากแต่ละตระกูล
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ เพราะคู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่หุ่นเชิดเหล่านี้ แต่เป็นอสรพิษในระดับเก้าที่มีความยาวหลายสิบจั้ง
อสรพิษหยกจันทรานั้นได้กำหนดเป้าหมายไว้ที่ซูอันเมื่อไม่นานนี้ สัญชาตญาณของสัตว์อสูรระดับเก้าบอกทันทีว่าเขาคือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาทุกคนที่นี่
ซูอันก็มองหาช่องโหว่เช่นกัน สัตว์อสูรระดับเก้ามีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อและมีทักษะทุกประเภท ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมันเทียบได้กับมนุษย์ในระดับปรมาจารย์
ไม่มีความหวังในชัยชนะสำหรับผู้บ่มเพาะระดับเก้าทั่วไป แม้แต่คนอย่างหานเฟิงชิวซึ่งอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเก้าก็ทำได้มากที่สุดคือวิ่งหนีไปให้ไกลเท่านั้น
ซูอันอยู่ที่ขั้นสี่ของระดับที่เก้า เนื่องจากทักษะอัศจรรย์ต่าง ๆ จำนวนและความหนาแน่นของพลังชี่ของเขาจึงมากว่าคนในระดับเดียวกันมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับระดับปรมาจารย์แล้ว เขาไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากนัก แต่ด้วยทักษะที่แปลกประหลาดและน่าอัศจรรย์ทั้งหมดของเขา มันไม่ได้สิ้นหวังไปเสียทีเดียว
ถึงอย่างนั้น อสรพิษหยกจันทราก็กำลังเฝ้าดูสนามรบเช่นกัน เมื่อมันเห็นว่าหุ่นเชิดของมันกำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับมนุษย์ที่อ่อนแอเหล่านั้น มันก็รู้สึกโกรธ อ้าปากพ่นลูกบอลน้ำอีกลูกออกมา ซึ่งกลายเป็นนกประหลาดทันที
“มันคือเหยี่ยวขนนิล!” เสียงของปี่หลิงหลงมีนัยของความสิ้นหวัง เป็นเพราะนี่เป็นสัตว์อสูรระดับแปด!
อสรพิษหยกจันทรากินสัตว์อสูรระดับแปดเข้าไปแล้ว! ไม่น่าแปลกใจที่มันสามารถขึ้นไปอยู่ในระดับเก้าได้ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้กับหุ่นเชิดระดับเจ็ดทั้งสี่นั้นถึงขีดจำกัดแล้ว พวกเขาจะเอาชนะสัตว์อสูรระดับแปดได้อย่างไร?
ปี่หลิงหลงกัดริมฝีปาก นางจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะถึงวาระสุดท้าย นางออกคำสั่งให้ทุกคนจัดตั้งกระบวนรบอีกครั้ง
จากนั้นมือธนูที่เตรียมจะยิงใส่หุ่นเชิดระดับเจ็ดทั้งสี่ก็ระดมยิงไปทางเหยี่ยวขนนิลบนท้องฟ้า สายฟ้านับไม่ถ้วนส่งเสียงสะเทือนเลือนลั่น
อย่างไรก็ตาม เหยี่ยวขนนิลสะบัดปีกส่งฟองอากาศธาตุน้ำออกไปทั่วผืนฟ้า สายฟ้าที่ร้ายกาจถูกกักไว้ทันทีเมื่อพวกมันสัมผัสกับฟองอากาศธาตุน้ำ พลังธาตุน้ำแข็งที่ฝ่ายมนุษย์มีอยู่ถูกทำให้เป็นกลางทันที
จากนั้นฟองอากาศที่เหลือตกลงบนกระบวนรบของวังตะวันออก เหล่าทหารรู้สึกราวกับติดอยู่ในหนองน้ำ พวกเขาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง พยายามที่จะปลดปล่อยตัวเอง น่าเสียดายที่หมือนคนว่ายน้ำไม่เป็น พวกเขาแค่สูญเสียพละกำลังไปโดยเปล่าประโยชน์
เหยี่ยวขนนิลชูคอขึ้นและแผดเสียงก้อง จากนั้นมันก็หุบปีกและถลาลงมา ร่างของมันเปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งตกกระทบเข้ากับกระบวนรบ เลือดระเบิดออกมาจากรูขนาดใหญ่บนหน้าอกของผู้ที่ไม่ได้ติดอยู่ในฟองอากาศ
การโจมตีของเหยี่ยวขนนิลนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง เกือบจะเหมือนกับกระบี่บินของผู้บ่มเพาะระดับเก้า ในขณะเดียวกัน คนเหล่านี้มีมากสุดเพียงระดับหกเท่านั้น พวกเขาจะต้านทานพลังนี้ได้อย่างไร?
………………..