เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1204 ข้าต่างหากที่ทำได้ .
บทที่ 1204 ข้าต่างหากที่ทำได้
ซูอันเคร่งเครียดถึงขีดสุด ความกดดันที่เขาเผชิญเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มันยากที่จะป้องกันไม่ให้ม่านพลังน้ำแข็งของเขามีช่องโหว่เนื่องจากลูกธนูน้ำที่พุ่งเข้ามาทุกทิศทาง ชั้นนอกสุดของม่านพลังเริ่มแตก จากนั้นรอยแตกก็ปรากฏมากขึ้นเรื่อย ๆ
ซูอันเปลี่ยนแผนและตัดสินใจถอนการป้องกัน ม่านพลังน้ำแข็งมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ ทำให้ความกดดันที่เขาเผชิญลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ลูกธนูน้ำยังคงโจมตีเขาต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“อย่าทำอย่างนี้ นี่คือรังของงูบัดซบนี่ น้ำตกขนาดมหึมาและแอ่งน้ำเบื้องล่างเต็มไปด้วยธาตุน้ำมากมายให้มันได้ใช้ประโยชน์ ถ้าขืนยังเป็นอย่างนี้ต่อไป พลังชี่ของเจ้าจะหมดลงในเวลาไม่นาน” หมี่ลี่พูดขึ้น
ซูอันรู้สึกอบอุ่นในใจ แม้หมี่ลี่จะพูดเสมอว่าไม่สนใจเขา เขาต้องดูแลตัวเอง แต่นางก็ยังอดไม่ได้ที่จะให้คำแนะนำ เขาตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ข้าพอรู้เกี่ยวกับอำนาจการยิงของลูกธนูน้ำแล้ว ข้าวางแผนที่จะปิดระยะด้วยจ้าววายุเพื่อเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ระยะประชิด ระหว่างนั้นคงจะโดนมันเข้าบ้าง แต่ท่านก็รู้ว่าร่างกายของข้าแข็งแกร่งแค่ไหน โดนลูกธนูน้ำไม่กี่ดอกก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา”
วิชาปฐมบทแรกเริ่มได้เสริมสร้างร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อให้กับเขาแล้ว ในเวลาเดียวกัน การฟื้นฟูที่ทรงพลังทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้นในการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ
“เจ้าอยู่ระดับเก้าแล้ว แต่รู้แค่วิธีการต่อสู้ด้วยการใช้กำลังเข้าแลกงั้นเหรอ?” เสียงของหมี่ลี่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “แม้ว่าวิธีของเจ้าจะกล้าหาญ แต่มันจะทำให้เจ้าพัฒนาความเชื่อมั่นที่ไม่ดีต่อมันและทำให้เจ้าเข้าใจผิดโดยไม่จำเป็น จริงอยู่ที่ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งและสามารถยืนหยัดต่อสู้กับศัตรูส่วนใหญ่ได้ แต่ถ้าหากวันหนึ่งเจ้าบังเอิญเจอคนที่มีพลังโจมตีสูงมากล่ะ ถ้าความเสียหายที่ได้รับเกินกว่าการฟื้นฟู? เจ้าจะรอดไหม?”
ไม่ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ไม่สามารถเทียบกับคนทั้งโลกได้ นอกจากนี้ ผู้บ่มเพาะคนไหนบ้างที่ไม่รู้วิธียืมพลังจากโลก? หากมีใครสักคนที่การโจมตีรุนแรงเป็นพิเศษและยืมพลังของโลกมาด้วย ร่างกายของเขาอาจรับไม่ไหวจริง ๆ
“แล้วข้าจะทำยังไงดี” ซูอันรู้สึกปวดหัว เขาชินกับวิธีการต่อสู้แบบนี้แล้ว จึงไม่สามารถคิดอะไรที่ดีกว่านี้ได้
“ตอนนี้เจ้ามาถึงระดับเก้าแล้ว ควรมุ่งเน้นไปที่การใช้ทักษะ” หมี่ลี่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของซูอันได้ดีที่สุด แม้ว่าเขาจะชนะซือถงและเริ่มเข้าใจในการยืมความแข็งแกร่งจากโลก แต่นั่นเป็นเพียงระดับแปดเท่านั้น เขายังขาดประสบการณ์สำหรับระดับเก้า นี่เป็นเหตุผลที่นางใช้โอกาสนี้สอนเขา “เจ้ามีทักษะที่สามารถอัญเชิญนกเป็ดน้ำสีครามได้ไม่ใช่เหรอ? นั่นเป็นทักษะที่มีความสัมพันธ์กับธาตุน้ำ”
ซูอันส่งเสียงอืมตอบรับ “มันทำให้หายใจในน้ำได้เหมือนปลา และยังทำให้ข้าควบคุมน้ำได้ในระดับหนึ่งด้วย ท่านจะให้ข้าใช้ทักษะนี้ต่อสู้กับผู้บ่มเพาะธาตุน้ำงั้นเหรอ?”
ความสามารถของทักษะนกเป็ดน้ำสีครามดูเหมือนจะเป็นความสามารถในการสนับสนุนมากกว่า เมื่อเทียบกับนกตัวอื่น พลังโจมตีของมันอ่อนแอกว่ามาก เขาคิดว่าต้องรอจนกว่าจะได้รับทักษะธาตุน้ำก่อน พลังของมันจึงจะแสดงออกมาอย่างแท้จริง ไม่เคยคิดที่จะใช้ทักษะนกเป็ดน้ำสีครามมาต่อสู้กับอสรพิษหยกจันทรา ท้ายที่สุด อสรพิษหยกจันทราเป็นสัตว์อสูรธาตุน้ำระดับเก้า การควบคุมธาตุน้ำนั้นทรงพลังกว่าทักษะนกเป็ดน้ำสีครามของเขาอย่างแน่นอน
“แน่นอน ข้ารู้ว่าเจ้าไม่สามารถควบคุมการโจมตีธาตุน้ำของมันได้” หมี่ลี่ไม่พอใจ “แต่แม้ว่าเจ้าจะไม่สามารถควบคุมธาตุน้ำที่มันใช้โจมตีได้ อย่างน้อยมันก็สามารถส่งผลต่อการโจมตีของงูนี่ใช่ไหม? บางที… อาจทำให้เส้นทางของลูกธนูน้ำพวกนี้เบี่ยงเบนไป?”
ดวงตาของซูอันสว่างขึ้น ใช่แล้ว ทำไมข้าไม่คิดถึงเรื่องนี้
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงค่อย ๆ ทำให้ม่านพลังน้ำแข็งอ่อนตัวลงและจงใจให้ลูกธนูน้ำบางส่วนสอดแทรกเข้ามา จากนั้นใช้ทักษะนกเป็ดน้ำสีครามเชื่อมโยงกับธาตุน้ำในลูกธนูน้ำเหล่านี้เพื่อเบี่ยงเบนวิถีการเคลื่อนที่ของพวกมัน อย่างไรก็ตาม ในตอนแรกเขายังใช้ทักษะไม่คล่องนัก จึงถูกธนูน้ำหลายดอกเจาะเลือดพุ่งกระฉูดในทันที
อสรพิษหยกจันทราคำรามด้วยเสียงหัวเราะ “ในที่สุดเจ้าก็ทนไม่ไหวแล้วใช่ไหม? ข้าจะทำให้หัวใจของเจ้าถูกแทงด้วยลูกธนูนับพัน จิตวิญญาณของเจ้าจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและขุ่นเคือง โอ้ ช่างเป็นหุ่นเชิดที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”
คนอื่น ๆ หันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจของมัน เมื่อเห็นร่างกายที่โชกเลือดของซูอัน สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป หลายคนเริ่มจมดิ่งสู่ความสิ้นหวัง
“อาซู!” ใบหน้าของปี่หลิงหลงซีดเผือดเมื่อเห็นว่าร่างกายของซูอันเต็มไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน หัวใจของนางเหมือนถูกบีบโดยมือที่มองไม่เห็น
นางยกมือขึ้นสัมผัสรูปดอกไม้สีแดงสดที่หว่างคิ้วด้วยสายตาที่แน่วแน่
แต่จู่ ๆ ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ซูอันปิดม่านพลังน้ำแข็ง ทำให้ลูกธนูน้ำพุ่งเข้าหาตัวโดยตรงทันที
ปี่หลิงหลงร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม นางเห็นว่าซูอันไม่สะทกสะท้าน ลูกธนูน้ำไม่สามารถโจมตีเขาและปัดผ่านร่างกายของเขาไป นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
มันไม่ใช่แค่นาง อสรพิษหยกจันทราก็งุนงงเช่นกัน เป็นเพราะมันโกรธมากเกินไปจนทำให้เป้าหมายผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า? ด้วยเหตุนี้มันจึงเรียกลูกธนูน้ำออกมามากขึ้นและยิงใส่ซูอันจากทุกมุมที่แตกต่างกัน
แม้ว่าลูกธนูเหล่านั้นจะถูกเล็งอย่างชัดเจนในตอนแรก แต่เมื่อเข้าใกล้ซูอันพวกมันก็จะเบี่ยงไปด้านข้างอย่างลึกลับ แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับซูอันที่จะหลบได้สบาย ๆ
“ท่านซู แข็งแกร่งมาก!”
“มีท่านซูอยู่ด้วย ทุกอย่างจะง่ายไปหมด!”
“ท่านซู ขอลูกให้ข้าสักคนเถอะ!”
ปี่หลิงหลงขมวดคิ้ว เจ้าต้องการให้กำเนิดลูกของอาซูงั้นเหรอ? ผู้ชายอย่างพวกเจ้ามีความสามารถนั้นหรือไง? ในที่นี้ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถทำได้ต่างหาก…
อา… ไม่! ข้ากำลังคิดอะไรอยู่?
แต่ขณะที่มองดูซูอันเดินสบาย ๆ ท่ามกลางสายฝนลูกธนู หลีกเลี่ยงการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย นางอดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเอง เขาดูหล่อเหลามากในเวลาที่จริงจังเช่นนั้น
นางรีบปรับความคิดไปที่การต่อสู้ ด้วยสิ่งที่เป็นอยู่ นางได้ออกคำสั่งทั้งหมดที่ทำได้แล้ว คนอื่น ๆ ทำงานร่วมกันอย่างมีระเบียบแบบแผน หุ่นเชิดระดับเจ็ดตายไปแล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกมันจึงไม่สามารถเทียบได้กับตอนที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ นางเข้าร่วมโจมตีอีกแรงเพื่อที่จะได้ยุติการต่อสู้อย่างรวดเร็วและนำทุกคนไปช่วยซูอัน
“มนุษย์ตัวจ้อย เจ้ากำลังใช้ทักษะประหลาดอะไรอยู่?” ดวงตาของอสรพิษหยกจันทราเบิกกว้าง อากัปกิริยาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“เจ้างูขี้เหร่ เจ้าคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร?” ซูอันถลึงตา เจ้ายังไม่ได้วิวัฒนาการเป็นมังกรด้วยซ้ำ ไปเอาความเย่อหยิ่งมาจากไหน?
‘แม้ว่าเจ้าจะเป็นมังกร แต่ทำอย่างกับข้าไม่เคยฆ่ามังกรมาก่อน! อสรพิษโง่อย่างเจ้าอวดดีไปเพื่ออะไร?’
………………..