เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1211 อัจฉริยะคนใหม่
บทที่ 1211 อัจฉริยะคนใหม่
แก้มของปี่หลิงหลงแดงขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ซูอันพูด เห็นได้ชัดว่าเขาพูดแบบนั้นเพื่อช่วยนาง ไม่อย่างนั้นหากคนอื่นพบว่า ไม่เพียงแต่นางไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใด ๆ แต่ยังเกือบจมน้ำหลังจากดำลงไปด้วย นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าอายเกินไป
นางมองเขาด้วยความขอบคุณ จากนั้นใช้โอกาสนี้พูดว่า “ยังไงก็ต้องขอบคุณท่านซูที่มีความแข็งแกร่งในการเผชิญหน้ากับอสรพิษหยกจันทรา ที่ข้ามีโอกาสเสนอความช่วยเหลือในสถานการณ์แบบนั้น ข้าทำได้แค่วัดดวงเท่านั้น โชคดีที่ท่านซูสามารถกำจัดอสรพิษร้ายตัวนั้นได้สำเร็จ”
ทั้งกลุ่มตะโกนสรรเสริญ “ท่านซูนั้นแข็งแกร่ง แต่องค์หญิงรัชทายาทช่างน่าทึ่งยิ่งกว่า!”
“ทรงเป็นหญิงที่กล้าหาญเหนือกว่าชายใดอย่างแท้จริง!”
“ตัวเราสั่นไปหมด มีเพียงองค์หญิงรัชทายาทเท่านั้นที่กล้ากระโดดลงไป!”
…
ปี่หลิงหลงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อนางได้ยินคำชมของทุกคน นางกังวลเกี่ยวกับการอธิบายสถานการณ์ใต้น้ำ แต่ความช่วยเหลือของซูอันทำให้นางสามารถแก้ปัญหาที่ยุ่งยากนี้ได้อย่างง่ายดาย
นางเม้มริมฝีปากและมองซูอัน เขากำลังยิ้มให้นาง ด้วยเหตุผลบางอย่าง สายตาของนางก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังปากของเขา ปี่หลิงหลงตกใจและเบือนหน้าหนีทันที
จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากระยะไกล “หลิงหลง ช่วยข้าด้วย หลิงหลง!”
ทุกคนหันกลับมาและเห็นรัชทายาทร่างอ้วนวิ่งหอบหายใจ หมาป่ายักษ์กลุ่มหนึ่งกำลังไล่ตามเขา ทหารจากวังตะวันออกทุกคนชุ่มโชกไปด้วยเลือดขณะที่พวกเขาพยายามขับไล่หมาป่ายักษ์
“นั่นคือองค์รัชทายาท!”
“รีบไปช่วยเร็ว!”
ทั้งกลุ่มรีบวิ่งไปพร้อมกับอาวุธในมือ เมื่อหมาป่ายักษ์เห็นว่ามีคนจำนวนมาก พวกมันก็หยุดทันที หลังจากวนไปวนมาสองสามครั้ง พวกมันก็ถอยกลับเข้าไปในป่าอย่างไม่เต็มใจ
ปี่หลิงหลงสั่งให้คนรักษาบาดแผลของพวกเขาในขณะที่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเจ้าถึงถูกหมาป่าขาวยักษ์ไล่ล่า?”
รัชทายาทตอบว่า “ข้าวิ่งหนีมาตอนที่ได้ยินว่างูประหลาดนั่นชอบกินคนอ้วน! แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ระหว่างทางบังเอิญเจอสัตว์อสูรทุกประเภท หลิงหลง ข้าจะไม่ทิ้งเจ้าไปอีก! พวกมันทั้งหมดหลอกข้า ข้าจะปลอดภัยเมื่ออยู่เคียงข้างเจ้าเท่านั้น”
คนอื่น ๆ มีสีหน้าแปลก ๆ ชายผู้นี้ช่างไร้ค่าจริง ๆ
เกาอิ้งไม่สามารถฟังต่อไปได้และอธิบายขึ้นหลังจากกระแอม “ในตอนนั้นทุกคนถูกอสรพิษหยกจันทราขังไว้ เราจึงรีบกลับไปขอกำลังเสริม เพราะอยู่ไปก็ช่วยอะไรใครไม่ได้”
ที่นี่มีชนชั้นสูงมากมายจากตระกูลที่มีอำนาจ พวกเขารู้ว่าคนอื่น ๆ กำลังคิดอะไรอยู่ การพูดว่าจะไปขอกำลังเสริมเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อให้ฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย แต่พวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงต้องหนีไป หากเป็นตัวเอง พวกเขาก็คงเลือกที่จะพารัชทายาทกลับไปก่อนเช่นกัน
“ใช่แล้ว… อสรพิษหยกจันทราตัวนั้นไปไหนแล้วล่ะ?” เพ่ยโยวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ทันใดนั้น สายตาของเขาก็เลื่อนไปยังซากงูขนาดใหญ่ และตกตะลึงทันที
จ้าวซีคำรามด้วยเสียงหัวเราะ “พวกเจ้าไม่อยู่ดูว่าท่านซูต่อสู้กับอสรพิษหยกจันทราอย่างกล้าหาญด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง จากนั้นเขาก็กระโดดลงไปฟัดกับงูนั่นในสระ ช่างกล้าหาญอย่างยิ่ง!”
เมิ่งผานกล่าวเสริมทันทีว่า “ต้องขอบคุณความช่วยเหลือขององค์หญิงรัชทายาท ไม่อย่างนั้นท่านซูคงจะฆ่าสัตว์อสูรระดับเก้าคนเดียวได้ยาก”
ลมหายใจของจ้าวซีหยุดลงทันที เขาสาปแช่งเมิ่งผานว่าเป็นคนเถื่อน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจ… ทำไมเขามองข้ามเรื่องนี้ไป? มันคงจะแย่จริง ๆ ถ้าเขาทำให้องค์หญิงรัชทายาทไม่พอใจเพราะเหตุนี้!
โดยมีหลิวเซียนเป็นผู้นำ คนอื่น ๆ เริ่มเล่าถึงเหตุการณ์การต่อสู้ด้วยกัน แม้ว่าทั้งหมดจะได้รับบาดเจ็บและยังไม่ได้ล้างเลือดออกจากใบหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยังตื่นเต้น
“สัตว์อสูรระดับเก้าถูกฆ่า?” เกาอิ้งและเพ่ยโยวมองซูอันด้วยความตกใจ พวกเขารู้ว่าการบ่มเพาะขององค์หญิงรัชทายาทนั้นด้อยกว่าตัวเอง แต่ถ้าพวกเขาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับเก้า ก็มีแต่จะเป็นเพียงอาหารของมันเท่านั้น ซูอันจึงน่าจะเป็นผู้ที่กำจัดอสรพิษหยกจันทราเพียงลำพัง
นี่มันอะไรกัน! เมืองหลวงจะมีอัจฉริยะกำเนิดขึ้นมาอีกคนหนึ่ง! ผู้คนจะไม่รู้สึกว่าความสำเร็จในอดีตของซูอันเป็นเรื่องบังเอิญอีกต่อไป และบรรดาขั้วอำนาจผู้ยิ่งใหญ่จะพยายามดึงเขาไปเข้าร่วมอย่างแน่นอน
ข้าได้ยินมาว่าตระกูลฉู่ได้ยุติความสัมพันธ์กับเขาแล้ว ข้าควรจะติดต่อลุงของข้าให้หาหญิงสาวที่งดงามมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับซูอัน เกาอิ้งคิด แต่เขาก็มีปัญหาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวที่งดงามที่สุดสองคนของตระกูลหลิวถูกพาตัวเข้าไปในวังแล้ว ส่วนคนอื่นดูเหมือนจะยังเด็กเกินไป
เพ่ยโยวกำลังคิดคล้ายกัน ผู้หญิงคนไหนในตระกูลเพ่ยที่ถึงวัยแต่งงานแล้ว… หืม ดูเหมือนเขาจะถามข้าเกี่ยวกับเหมียนหมาน ทั้งหน้าตาและพรสวรรค์ของนางก็ไม่ด้อยไปกว่าฉู่ชูเหยียนเลย นางเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ดูเหมือนจะเคยได้ยินท่านลุงพูดว่าได้กำหนดการแต่งงานให้นางแล้ว? ข้าต้องกลับไปถามเรื่องนี้ให้ถ่องแท้
ในขณะเดียวกัน หลิวเซียนกำลังคิดที่จะเชิญซูอันไปที่หอสู่สวรรค์เมื่อกลับไปที่เมืองหลวง อยากจะแนะนำคณิกาให้เขา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของพวกนางอาจเทียบไม่ได้กับคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ แต่ในแง่ของความเข้าใจและการรับใช้ผู้ชาย คุณหนูตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเทียบไม่ได้เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนี่จึงเป็นหนึ่งในสามสายสัมพันธ์ของสหาย หนีไปด้วยกัน สู้ด้วยกัน และไปกิน ‘อะไรอร่อย ๆ’ ด้วยกัน ฮ่า ๆ ข้าเป็นอัจฉริยะจริง ๆ!
ขณะที่คนอื่น ๆ กำลังหาทางตีหัวซูอันเข้าบ้าน เป้าหมายของบรรดานายน้อยเหล่านั้นกำลังตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุน ร่างกายของทั้งสองเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บ แต่โชคดีที่ไม่มีบาดแผลใดเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
แต่ทหารคนอื่นไม่โชคดีอย่างทั้งสอง หลังจากนับอย่างคร่าว ๆ ซูอันเห็นว่าราชองครักษ์ยี่สิบคนเมื่อแรกเข้ามาในมิติลับ ตอนนี้เหลือไม่ถึงสิบคน
ซูอันหยิบยาที่ฉู่โหยวเจาให้มารักษาพวกเขา แล้วถามว่า “พวกเจ้าออกไปแล้วกลับมาทำไมอีก?”
เผี่ยวตวนเตียวพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “ข้าไม่รู้ว่าทำไม แต่เราโชคไม่ดีอย่างยิ่ง ทั้งที่ระมัดระวังตัวแล้ว แต่กลับพบรังสัตว์อสูรมากมายระหว่างทาง”
“สัตว์อสูรที่ทำรังบนภูเขานั้นแปลกจริง ๆ ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งกว่าที่กองข่าวให้ข้อมูลไว้ ไม่มีสัตว์อสูรตัวใดอยู่ในดินแดนดั้งเดิมของพวกมัน ตรงกันข้ามกลับเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว” เจียวซือกุนกล่าว “เราถูกไล่ล่าจนหาทางไปต่อไม่ไหว ทำได้เพียงวิ่งกลับมาที่นี่ ยืมมืออสรพิษหยกจันทราไล่หมาป่าขาวยักษ์ให้หนีไป”
เผี่ยวตวนเตียวอธิบายว่า “พี่ซู เราต้องการช่วยท่าน แต่…” เขาแอบมองรัชทายาทและคนอื่น ๆ อ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ชะงัก
ซูอันตบไหล่ของเขา “อย่าเก็บมาใส่ใจ ข้ารู้ว่าพวกเจ้าลำบากแค่ไหน เจ้าสองคนไม่มีทางเลือก”
………………..