เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1234 แยกโลก
บทที่ 1234 แยกโลก
“เจ้าพูดถูก ไม่มีใครคาดคิดหรอก” ซูอันกล่าว “จักรพรรดิครองอำนาจมายาวนานแล้ว ความปรารถนาที่จะเป็นอมตะของเขาสูงเกินไปและเต็มใจที่จะลองทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย”
“แล้วตอนนี้เราควรทำยังไงดี?” ในสถานการณ์คับขัน ปี่หลิงหลงได้สูญเสียความเฉลียวฉลาดและความเด็ดขาดของนางไปแล้ว นางยังเป็นหญิงสาวอยู่ ใคร ๆ ก็คงสับสนหลังจากผ่านอะไรมามากมายในวันเดียว
ความคิดที่ว่าสามีของนางคือพ่อสามีนั้นน่ากลัวมากจนทำให้อยากจะอาเจียน ด้วยการบ่มเพาะของจักรพรรดิที่ทรงพลังสะเทือนลั่นฟ้าดิน นางจะหนีไปที่ไหนได้?
“ออกจากมิติลับนี้ก่อน” ซูอันกล่าว “ข้าจะพาเจ้าไปที่เผ่าปีศาจทางตอนเหนือ ไม่ว่าจักรพรรดิจะทรงพลังเพียงใด อิทธิพลของเขาก็ไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้”
“เผ่าปีศาจ?” ปี่หลิงหลงตกตะลึงและส่ายหัว “ข้าไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ข้ายังมีครอบครัวอยู่ข้างหลัง สถานะของข้าจะทำให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในหมู่เผ่าปีศาจ คนในตระกูลจะต้องล้มตายเพราะข้า”
ฉู่ชูเหยียน เจิ้งตาน และคนอื่น ๆ ได้แสดงให้ซูอันเห็นแล้วถึงความรับผิดชอบที่ผู้หญิงในโลกนี้มีต่อวงศ์ตระกูล เขาพูดอย่างรวดเร็วว่า “ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าประกาศตัวตนให้โลกรู้ เราสามารถอยู่ที่นั่นอย่างสันโดษ ไม่ต้องกังวลกับสิ่งเหล่านี้แล้ว”
“อยู่อย่างสันโดษ…” ใบหน้าของปี่หลิงหลงขึ้นริ้วสีแดง ฟังดูราวกับว่ากำลังนางจะหนีไปอยู่กับเขา หัวใจของนางเริ่มเร็วขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน นางนึกถึงเมืองหลวงกับความทะเยอทะยานและความพยายามมาตลอดหลายปีที่กำลังมอดไหม้ นางรู้สึกท้อแท้อีกครั้ง
สีหน้าของซูอันและปี่หลิงหลงเปลี่ยนไป มันคือเสียงของจักรพรรดิ! ซูอันพยายามที่จะหลบหนีพร้อมกับปี่หลิงหลง แต่อากาศและพลังชี่รอบตัวดูเหมือนจะแข็งตัว เขาขยับไม่ได้เลย
ร่างอ้วนของจ้าวรุ่ยจื่อปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า และในพริบตาก็มายืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้ว
“พวกเขาอยู่ที่นั่น!” เหอหลี่พูดด้วยความประหลาดใจ เขาวิ่งมาพร้อมกับคนอื่นจากคฤหาสน์ราชันลมปราณอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเขาเห็นว่าจักรพรรดิมาถึงก่อน เขาก็เหงื่อแตกพลั่ก ปากเอ่ยวาจาสรรเสริญอย่างรวดเร็วว่า “ฝ่าบาทผู้แข็งแกร่งหาใดเทียม พระองค์มาถึงก่อนแล้ว! ข้ารับใช้ผู้นี้เต็มไปด้วยความชื่นชม”
ซูอันและปี่หลิงหลงต่างก็ขมวดคิ้ว คนเหล่านี้ได้แปรพักตร์ไปหาจักรพรรดิแล้วเหรอ? พวกเขาต่อสู้กันเพื่ออะไรในตอนนั้น? แค่พวกเขาจะเผชิญหน้ากับผู้บ่มเพาะคฤหาสน์ราชันลมปราณเหล่านี้มันก็ไม่ง่ายแล้ว นับประสาอะไรกับการมีจักรพรรดิอยู่ด้วย
หัวใจของซูอันจมลงสู่ก้นบึ้ง แต่เขาไม่ยอมแพ้ ในใจเต็มไปด้วยรู้สึกไม่ยินยอม อย่างร้ายที่สุดเขาคิดพยายามใช้ ‘คีย์บอร์ด จงมา!’ ลากจักรพรรดิไปตายด้วยกัน
ราวกับสัมผัสได้ถึงความคิดของเขา หมี่ลี่กล่าวว่า “อย่าทำอะไรวู่วาม มันยังไม่ถึงเวลา”
ซูอันถามอย่างมีความสุข “ท่านจะช่วยข้าไหม?”
หมี่ลี่ส่ายหัวของนาง “ตอนนี้ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเหมือนกัน”
หมี่ลี่กล่าวว่า “นี่อาจเป็นอาณาเขตของเขา พูดง่าย ๆ ก็คือ เขากำลังใช้การบ่มเพาะอันทรงพลังกำหนดกฎพลังชี่ของพื้นที่ที่กำหนดขึ้นมาใหม่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าขยับไม่ได้ รอสักครู่ เมื่อข้าแยกย่อยกฎเหล่านี้ เจ้าคงจะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระอีกครั้ง”
ซูอันยิ้มอย่างขมขื่น ผู้หญิงคนนี้ตั้งความหวังกับเขาไว้สูงจริง ๆ แม้ว่าเขาจะขยับตัวได้ แต่จะไปสู้อะไรผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังที่สุดในโลกได้! อย่างไรก็ตาม เขาโยนความคิดนั้นออกไปทันที ก็แค่สู้จนตัวตายถ้าจำเป็น! วีรบุรุษอาจเสียชีวิตได้ แต่ไม่ใช่ความภาคภูมิใจของตนเอง!
ราวกับสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของซูอัน สีหน้าตื่นตระหนกฉายผ่านดวงตาของจักรพรรดิ “หืม? ทาสชั้นต่ำอย่างเจ้าไม่เต็มใจที่จะก้มหัวให้ผู้อื่น ข้าไม่สามารถเก็บเจ้าไว้ได้”
เมื่อพูดจบ จ้าวฮั่นก็ยกนิ้วขึ้นหมายจะสังหารซูอัน เขาไม่ต้องการเสียคำพูดอีกต่อไป แต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปพร้อมกับการก้มหัวลง
เสียงกึกก้องดังออกมาจากส่วนลึกของแผ่นดิน มันดังขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด พื้นดินเริ่มแตกออก เผยให้เห็นหุบเหวที่มองไม่เห็นก้นบึ้งหลายแห่ง ผู้บ่มเพาะของคฤหาสน์ราชันลมปราณบางคนไม่สามารถหลบได้ทันและร่วงหล่นลงไปขณะที่กรีดร้องอย่างน่าสังเวช
จู่ ๆ ซูอันก็พบว่าตัวเองสามารถเคลื่อนไหวได้ สะกิดเท้าโผบินขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับปี่หลิงหลง หลบเลี่ยงร่องเหวขนาดยักษ์ที่ปรากฏบนพื้นดินอย่างต่อเนื่อง
“พี่หญิงใหญ่… อาจารย์ ท่านแยกกฎแห่งอาณาเขตของเขาได้ไหม?” ซูอันถามอย่างตื่นเต้น
หมี่ลี่ส่ายศีรษะ “ไม่ กฎของโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลง อาณาเขตของจักรพรรดิเทียบไม่ได้เลยกับพลังที่แท้จริงของโลกนี้”
—
ท่านยั่วยุจ้าวฮั่นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +777 +777 +777
—
ซูอันใจเต้นแรงเมื่อได้รับคะแนนความโกรธแค้นจากจักรพรรดิ นึกรู้ว่าความอดทนของอีกฝ่ายมาถึงขีดสุดแล้ว
พยายามนึกหาทุกทักษะที่ตัวเองมี แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร ตัวเองก็ไม่แคล้วต้องตายไม่ช้าก็เร็ว แขนของเขาโอบรอบเอวของปี่หลิงหลงแน่นหนาเมื่อตระหนักเช่นนั้น เขากดร่างของนางแนบชิดกับตัวเอง อย่างน้อยนี่จะทำให้การตายของเขามีความสุขขึ้นใช่ไหม?
ปี่หลิงหลงตกตะลึง แต่รู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเขากำลังทำอะไร นางหน้าแดงก่ำ เมื่อร่างกายของพวกเขาเบียดชิดกันภายใต้ชุดที่บางเบาเช่นนี้ นางสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากผิวหนังของซูอันอย่างชัดเจน
ฉากในวังร้อยดอกไม้ปรากฏในความคิด พวกนางสองคนอยู่ด้วยกันโดยไม่สวมเสื้อผ้าสักชิ้น ปี่หลิงหลงรู้สึกว่าดวงวิญญาณสั่นสะท้าน ร่างกายอ่อนปวกเปียกไปหมด
แหงนหน้าขึ้นมองจ้าวรุ่ยจื่อที่อยู่ห่างไกล หากนี่คือตัวจ้าวรุ่ยจื่อเอง นางคงไม่อนุญาตให้ซูอันกอดนางอย่างใกล้ชิดสนิทสนมเช่นนี้ ไม่ว่าเขาจะโง่เง่าแค่ไหน เขาก็ยังเป็นสามีที่แท้จริงของนาง การเลี้ยงดูมาอย่างคุณหนูในห้องหอทำให้นางไม่อาจใกล้ชิดกับชายอื่นต่อหน้าสามีได้
แต่จ้าวรุ่ยจื่อคนปัจจุบันไม่ใช่จ้าวรุ่ยจื่อตัวจริง กล่าวได้ว่าสามีของนางตายไปแล้ว และฆาตกรคนหนึ่งเป็นผู้ควบคุมศพสามีของนาง
นอกจากนี้ จักรพรรดิยังวางแผนที่จะฆ่านางตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อคิดว่าจักรพรรดิทรงพลังเพียงใด ปี่หลิงหลงก็รู้สึกสิ้นหวัง ลืมเรื่องการแก้แค้นให้สามีไปได้เลย แม้แต่การมีชีวิตรอดของตัวเองก็เป็นไปไม่ได้
ในความสิ้นหวัง ความจองหองและความหวาดหวั่นส่วนใหญ่ที่รู้สึกอยู่เสมอได้หายไป ในเมื่อกำลังจะตายอยู่แล้ว ถ้านางทำให้คนผู้นี้โกรธก่อนตายได้ก็ดี ปี่หลิงหลงไม่เพียงแค่ไม่ต่อต้านการกระทำของซูอันเท่านั้น นางกลับเอียงซบร่างไว้ในอ้อมแขนของซูอันด้วยท่าทีที่น่ารักน่าถนอม
ซูอันตกตะลึง ไม่คิดว่านางจะผสมโรงเล่นด้วยแบบนี้ เขายิ้มอย่างรู้ทันและดึงนางเข้ามาใกล้อีกนิด
เหอหลี่รู้สึกว่าหนังศีรษะชาเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า แม้ว่าเขาจะกล่าวหาว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่ใจจริงไม่ได้คิดตามที่พูด ตัวตนขององค์หญิงรัชทายาทเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจดี ใครจะไม่รู้ว่านางเป็นแบบอย่างของกุลสตรีทั้งแผ่นดิน?
แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันจริง ๆ? ที่สำคัญยังทำตัวแบบนี้ต่อหน้าจักรพรรดิ! สองคนนี้กำลังเบื่อชีวิตหรือไม่? เขาสังเกตเห็นสีหน้าที่มืดมนของจักรพรรดิและก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว ไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วย
จ้าวรุ่ยจื่อมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่น่ากลัว “ดีมาก เจ้าสองคนทำให้ข้าโกรธสำเร็จแล้ว” หลังจากที่พูด เขาก็ยกมือขึ้น แสงสีทองส่องลงมาตรงกลางระหว่างซูอันและปี่หลิงหลง เห็นได้ชัดว่าตั้งใจที่จะแยกทั้งสองออกจากกัน
ด้วยการบ่มเพาะของปี่หลิงหลง นางไม่สามารถต้านทานได้เลย ได้แต่มองดูแสงสีทองใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
โดยปกติแม้ว่าการบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ซูอันก็ยังคงถูกกดดันจากอาณาเขตของจักรพรรดิจนกระทั่งเขาหายใจไม่ออกและไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้
แต่ตอนนี้เมื่อมิติลับทั้งสองถูกรวมเข้าด้วยกัน องค์ประกอบของโลกก็กลายเป็นความสับสนวุ่นวาย อาณาเขตของจักรพรรดิถูกทำลาย ดังนั้นจึงไม่สามารถกักขังซูอันได้อย่างสมบูรณ์
ซูอันใช้จ้าววายุดึงปี่หลิงหลงออกมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะมีเวลาหายใจ แสงสีทองก็เปลี่ยนทิศทางมาที่พวกเขา เขารีบใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันเพื่อส่งร่างปลอมไปยังสี่ทิศทางที่แตกต่างกัน แต่แน่นอนว่าแสงสีทองนั้นไม่ได้ไล่ตามร่างปลอมและยังคงไล่ตามเขาต่อไป
………………..