เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1240 ความเข้าใจผิดที่ร้ายแรง
บทที่ 1240 ความเข้าใจผิดที่ร้ายแรง
ซูอันรีบถามหมี่ลี่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น หมี่ลี่คิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า “มีความเป็นไปได้สามอย่าง อย่างแรกคือ โลกยังคงอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ดังนั้นกฎของโลกจึงยังคงถูกสร้างขึ้น พลังงานจำนวนมากที่ปกติจะใช้ไม่ได้ และทักษะของเจ้าก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ประการที่สองคือ พลังของสายฟ้าที่เราเพิ่งเห็นเป็นรูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก กำจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง…”
ซูอันรู้สึกรำคาญ “ท่านเรียกทักษะของข้าว่าสิ่งชั่วร้าย?”
หมี่ลี่หัวเราะ “ทักษะที่เจ้าใช้น่าจะเป็นคำสาปชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อจิตวิญญาณ ไม่น่าแปลกใจหรอกที่สายฟ้าอันบริสุทธิ์นั้นจะลบล้างมันออกไป”
ซูอันพูดไม่ออก หมี่ลี่กล่าวต่อว่า “ความเป็นไปได้ประการที่สามคือ จักรพรรดิมีอำนาจมากเกินไป จิตวิญญาณของเขาได้มาถึงระดับที่เป็นไปไม่ได้แล้ว เขาสามารถรักษาระดับความมีเหตุผลไว้ได้แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากทักษะของเจ้าก็ตาม หลังจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เขาเชื่อว่าการพยายามฆ่าเจ้าตอนนี้มีแต่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจฆ่าเจ้าหลังจากที่โลกสงบลง”
ซูอันทำหน้าบูดบึ้งและพึมพำ “นั่นเป็นความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุด” เขาคิดอยู่เสมอว่าความสามารถของระบบคีย์บอร์ดอยู่ในระดับสูงสุด ถ้าแม้แต่ความสามารถเหล่านี้ก็ไร้ประโยชน์ในการต่อสู้กับจักรพรรดิ แล้วเขาจะทำอะไรได้อีก?
ซูอันไม่มั่นใจ เขาตัดสินใจสะกิดอีกฝ่ายอีกครั้ง ด้วยการเปล่งเสียงตะโกนว่า “เฮ้! ไอ้อ้วน!”
จ้าวรุ่ยจื่อซึ่งนั่งทำสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้เงยหน้าขึ้น เหอหลี่อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูอันเช่นกัน เด็กคนนี้ร้ายกาจจริง ๆ! เมื่อคนอื่นทำให้จักรพรรดิขุ่นเคือง ใคร ๆ ก็ต้องการที่จะอยู่ให้ไกลที่สุด แต่เด็กคนนี้กลับเยาะเย้ยจักรพรรดิ หรือว่าจะทำอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว?
ปี่หลิงหลงมองเขาด้วยความงงงวย นางไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ ทันใดนั้น ซูอันก็ก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากสีแดงของนางต่อหน้าทุกคน ริมฝีปากของนางนุ่มนวลและมีกลิ่นที่หอมหวาน สมองของปี่หลิงหลงว่างเปล่า ราวกับทุกอย่างขาวโพลนไปหมด
ผู้บ่มเพาะของคฤหาสน์ราชันลมปราณและเหอหลี่ต่างก็พูดไม่ออก เหอหลี่คิดว่า อะไรกัน? เด็กคนนี้เลยเถิดเกินไปแล้ว! แม้แต่ข้าก็ทนไม่ได้ นับประสาอะไรกับจักรพรรดิ! เขารีบหันไปมองปฏิกิริยาของจ้าวรุ่ยจื่อและเห็นว่าดวงตาของอีกฝ่ายเป็นสีแดงทั้งหมด แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวกำลังแผ่ขยายออกไป
—
ท่านยั่วยุจ้าวฮั่นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +777 +777 +777
—
แต่สิ่งที่เหอหลี่รู้สึกประหลาดใจที่สุดคือ จักรพรรดิหลับตาลงอย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชม ระดับความอดกลั้นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะมีได้
ซูอันรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน จักรพรรดิจะทนได้ถึงเพียงนี้เชียวเหรอ? ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้แล้วว่าทักษะลมปากอาจมนั้นไม่ได้ผลอย่างแน่นอน เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิยังคงสงบอยู่ได้ เขาอยากตะโกนว่า ‘ภรรยาของเจ้าช่างยอดเยี่ยม’ ออกมาเพื่อทำให้จักรพรรดิคลุ้มคลั่ง แต่ด้วยความเกรงใจต่อปี่หลิงหลง เขาจึงละทิ้งความคิดนั้นในที่สุด
ในที่สุด ปี่หลิงหลงก็ตั้งสติได้ นางผลักเขาออกไปด้วยความอับอาย แล้ววิ่งเข้าไปแอบหลังต้นไม้ด้วยความตื่นตระหนก สิ่งที่นางเพิ่งทำไปผิดหลักจรรยามารยาทอย่างยิ่ง! มีผู้ชมเหตุการณ์มากมาย นางจะทนรับไหวได้อย่างไร?
ซูอันมองดูจ้าวรุ่ยจื่อ จากนั้นก็ไล่ตามปี่หลิงหลงไปอย่างรวดเร็ว
เหอหลี่และคนอื่น ๆ เริ่มมึนงงแล้ว ทั้งสองคนรีบวิ่งไปที่ต้นไม้ ชายหนึ่งคน และผู้หญิงหนึ่งคน ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น!? จักรพรรดิจะเฝ้าดูเหตุการณ์นี้เฉย ๆ หรือไม่? ทุกคนเห็นว่าจ้าวรุ่ยจื่อยังคงนิ่งเงียบ แต่ใบหน้ากระตุกเป็นครั้งคราว เหอหลี่เลือกที่จะไม่ก่อให้เกิดภัยพิบัติอย่างไม่มีเหตุผลโดยเด็ดขาด
ซูอันตามทันปี่หลิงหลงและถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าวิ่งทำไม?”
“นี่เจ้าถามข้าอย่างนี้จริง ๆ เหรอ? เจ้าทำ… อย่างนั้นกับข้าต่อหน้าคนทั้งหมด” ปี่หลิงหลงมองเขาด้วยความเขินอาย
ซูอันมองอย่างไม่เข้าใจในขณะที่ถามว่า “เจ้าไม่ใช่ฝ่ายที่จูบข้าก่อนเหรอ?”
“ข้าทำอย่างนั้นเพียงเพื่อให้… คนผู้นั้นโกรธ ไม่ใช่เพราะข้า… รู้สึกอะไรกับเจ้าจริง ๆ อย่าเข้าใจผิด” น้ำเสียงของปี่หลิงหลงฟังดูลุกลี้ลุกลน จากนั้นนางก็พูดเสริมว่า “ยิ่งกว่านั้น แม้ว่า… แม้ว่าจะมีอะไรจริง ๆ ก็อย่าคิดว่าข้าเป็นผู้หญิงง่าย ๆ แบบนั้น”
ซูอันหัวเราะ “เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อครู่ข้าทำแบบนั้นเพื่อให้จักรพรรดิโกรธและลงมือ ด้วยวิธีนี้ข้าสามารถใช้พลังของโลกเพื่อเอาชนะเขาได้ น่าเสียดาย ไม่คิดเลยว่าเขาจะสงบสติอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้”
“ดีแล้ว” ด้วยเหตุผลบางอย่าง ปี่หลิงหลงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของซูอัน นางหันไปทางอื่นและไม่อยากมองหน้าเขาอีกต่อไป
เมื่อเขามองไปที่ผมสีขาวราวกับหิมะของนาง ซูอันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยื่นยาให้นาง “พลังชีวิตของเจ้าได้รับความเสียหายเมื่อเจ้าใช้วิชาลับ เอานี่! ยาที่สามารถช่วยให้เจ้าฟื้นพลังชี่ ข้าจะช่วยเจ้าดูดซับยาหลังจากที่กินเข้าไป”
เขาซื้อยาจากจี้เติ้งถูมาไม่น้อย นอกจากนี้ ยังได้รับยาจำนวนมากจากฉู่โหยวเจาก่อนที่จะเข้ามาข้างในมิติลับ และยาบางตัวก็ช่วยให้พลังชี่คงที่
ปี่หลิงหลงรู้สึกว่าหัวใจของนางอ่อนยวบ เขาจำสภาพปัจจุบันของนางได้จริง ๆ นางรู้สึกอายเล็กน้อยที่ได้รับความช่วยเหลือเช่นนี้หลังจากที่แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวใส่เขาไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็นผมสีขาวของตัวเอง นางยังคงเอื้อมมือไปรับยามา “ขอบคุณ!” ผู้หญิงคนไหนที่ไม่สนใจรูปร่างหน้าตาของตนเอง? ปกตินางคงไม่กล้ากินยาที่ผู้ชายคนอื่นเสนอให้ แต่คราวนี้นางไม่ลังเลเลย ปี่หลิงหลงกินยาและนั่งลงเพื่อฟื้นฟูพลังชี่
ซูอันนั่งลงและวางมือลงบนจุดสำคัญของนาง โคจรพลังชี่จำนวนมากเข้าไปในตัวนาง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อทำเช่นนี้ เมื่อพระเอกปฏิบัติต่อผู้หญิงเช่นนี้ พวกเขาจะถอดเสื้อผ้าของนางออกเสมอ เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ข้าเป็นคนไร้เดียงสาจริง ๆ!
เห็นได้ชัดว่าปี่หลิงหลงไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ นางเริ่มย่อยพลังยาในตัวนางด้วยความช่วยเหลือของซูอัน คลื่นแห่งความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย และผิวพรรณของนางก็กลายเป็นสีชมพูระเรื่อ แม้ว่ายาเหล่านี้จะไม่เพียงพอที่จะชดเชยพลังชีวิตที่หายไป แต่พวกมันก็ยังหล่อเลี้ยงร่างกายที่อ่อนแอของนางให้คงอยู่ได้
ซูอันสังเกตเห็นผลที่เกิดขึ้นเช่นกัน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบรากวิญญาณขนาดใหญ่ออกมาและพูดว่า “รากวิญญาณพันปีนี้มีพลังงานชีวิตมากมาย ถ้าเจ้ากินเข้าไป มันควรจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเจ้าบ้าง”
ดวงตาของปี่หลิงหลงเบิกกว้างด้วยความตกใจ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าเคยให้เจ้ามาก่อนเหรอ?”
………………..