เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1279 จับตัวประกัน
บทที่ 1279 จับตัวประกัน
ซูอันหันกลับไป จากนั้นจึงเห็นว่ามีโลงศพขนาดใหญ่อยู่ใต้ต้นไม้ เขาไม่สังเกตเห็นมาก่อนเพราะต้นไม้ต้นนี้เปลือยเปล่าและสภาพแวดล้อมก็มืดสลัว เมื่อต้นไม้ผลิดอกและมีสีสันสวยงาม สภาพแวดล้อมก็สดใสเช่นกัน ตอนนี้โลงศพปรากฏให้เห็นแล้ว
โลงศพมีชั้นนอกหนาเป็นทองสัมฤทธิ์ และมีการแกะสลักมังกรทองประดับไว้ ไม่ว่าจะในแง่ของขนาดหรือความหรูหรา มันยิ่งใหญ่กว่าโลงศพใด ๆ ที่พวกเขาเคยเห็นระหว่างทางมาที่นี่
หมี่ลี่พูดต่อ “พลังของธาตุทั้งห้ากำลังไหลไปในทิศทางนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นศูนย์กลางของผนึก บุษบาห้าฤดูนั้นน่าจะเป็นกับดักล่อลวงเรา”
“มันคือโลงศพของปฐมจักรพรรดิใช่หรือไม่?” ซูอันก็ตกใจเช่นกัน
“จริงสิ น่าจะเป็นเขา” สีหน้าของหมี่ลี่ดูขัดแย้ง “เขายอมทำทุกอย่างเพื่อชีวิตนิรันดร์ ผนึกนี้ทำให้ข้ารู้สึกแย่ ข้าไม่รู้ว่าเขาเรียนรู้มาจากไหน แต่เขาอาจต้องการฟื้นฟูตัวเองด้วยการยืมพลังของผนึกนี้”
ซูอันครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “บุษบาห้าฤดูนั้นหายากมากเสียจนเราไม่สามารถละทิ้งโอกาสนี้ได้ คำสัญญาของชายแท้มีค่าดั่งทองคำนับพันชั่ง ในเมื่อข้าตกลงที่จะช่วยท่านสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ ข้าจะเป็นคนแบบไหนถ้ามากลับคำเอาตอนนี้”
เขารีบบอกปี่หลิงหลงว่า “รอข้าตรงนี้” จักรพรรดิองค์แรกอาจฟื้นคืนชีพขึ้นมา เมื่อถึงจุดนั้นเขาไม่สามารถแม้แต่จะป้องกันตัวเอง นับประสาอะไรกับนาง มันคงปลอดภัยกว่าถ้านางอยู่ที่นี่ เขาใช้จ้าววายุทันที
ซูอันมาถึงข้างต้นไม้ ยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงกดดันจากโลงศพทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่นั้นมากขึ้นเท่านั้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้น แต่มันก็สายเกินไปที่จะคิดถึงผลที่ตามมา เขากระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ รอบตัวอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอันทรงพลังและสดชื่น
เขาไม่รู้ว่าดอกไม้มีพิษหรือไม่ และไม่รู้ว่าภูมิคุ้มกันพิษของเขาสามารถต้านทานผลกระทบของดอกไม้ประหลาดที่บานเพียงครั้งเดียวในทุก ๆ สองถึงสามพันปีหรือไม่ เขากัดฟันและหยิบมันขึ้นมา
สิ่งที่น่าแปลกใจคือไม่มีอะไรเกิดขึ้น โลงศพขนาดยักษ์ไม่ขยับเลย ไม่มีการฟื้นฟูและไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
หมี่ลี่เฝ้าดูโลงศพอย่างระมัดระวังและถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นั่นกลับทำให้นางสงสัย นางจึงพูดว่า “เจ้าควรออกไปก่อน ข้าจะเปิดโลงศพดูข้างใน”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ “ข้าจะไปกับท่านด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ อย่างน้อยข้าก็ได้ต่อสู้เคียงข้างท่าน”
หมี่ลี่เผยอปาก แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้ไล่เขาออกไป ด้วยการบ่มเพาะในปัจจุบันของซูอัน เขามีคุณสมบัติที่จะต่อสู้เคียงข้างนาง ตอนนี้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งน่าจะสามารถป้องกันตัวเองได้
หมี่ลี่ไม่ได้พูดอะไร นางเดินไปที่โลงศพขนาดยักษ์ แล้วค่อย ๆ ผลักฝาหนัก ๆ ออกไป แน่นอนว่าโลงศพด้านในเป็นคริสตัล มันใหญ่กว่าของฝูซูมาก
ชายในชุดคลุมมังกรนอนสงบนิ่งอยู่ข้างใน แม้ว่าตาของเขาจะปิดอยู่ แต่ใบหน้าที่ดูดุดันและดั้งจมูกที่สูง หน้าอกที่แข็งแรง และรัศมีที่สง่างามของเขาทำให้ไม่กล้าที่จะมองตรง ๆ ตามที่คาดไว้ คำอธิบายเกี่ยวกับเขาจากข้อความทางประวัติศาสตร์นั้นถูกต้อง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูอันได้เห็นชายคนนี้ เขาได้พบกับชิ้นส่วนวิญญาณของชายคนนี้ในมิติลับของเมืองจันทร์กระจ่าง แรงกดดันของชิ้นส่วนวิญญาณนั้นมากกว่าที่เขารู้สึกในตอนนี้ ร่างกายที่แท้จริงกลับดูซีดเซียวเมื่อเปรียบเทียบกัน
หมี่ลี่ได้แต่ถอนหายใจลึก ๆ “ท้ายที่สุดแล้ว ความพยายามทั้งหมดของเจ้าก็สูญเปล่า เจ้าไล่ตามความเป็นอมตะมานาน แต่ในที่สุดเจ้าก็หนีความตายไม่พ้น แต่ข้าคือคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ โชคชะตาชอบเล่นตลกกับเราจริง ๆ”
ซูอันมองดูนางอย่างเป็นกังวล แต่เขาเห็นว่าไม่มีความรักหรือความเสน่หาในดวงตาของนาง ไม่มีแม้แต่ความเกลียดชังที่รุนแรงเหลืออยู่ หลังจากเวลาผ่านไป เมื่อนางมองไปที่ศพอีกครั้ง แม้แต่ความเกลียดชังของนางก็จางหายไปแล้ว
แต่ในขณะนั้น จู่ ๆ ซูอันก็รู้สึกตื่นตระหนก เขารีบมองออกไปด้านข้างขณะที่เสียงเย็นยะเยือกกล่าวจากระยะไกล “มอบดอกไม้แห่งความเป็นอมตะในมือของเจ้าให้ข้า ไม่งั้นข้าจะฆ่านางซะ”
หมี่ลี่หันกลับมาและเห็นจ้าวรุ่ยจื่อเอามือบีบไหล่ของปี่หลิงหลงอยู่ที่ทางเข้า ด้วยการบ่มเพาะของเขา ปี่หลิงหลงจะต้องตายทันทีหากเขาออกแรงแม้แต่นิดเดียว
ในที่สุดเหอหลี่และทหารของคฤหาสน์ราชันลมปราณคนอื่นก็ตามมา เมื่อเห็นดอกไม้ในมือของซูอัน ดวงตาของพวกเขาก็สว่างขึ้น มันหมุนวนด้วยสีสันที่สดใสและเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตอันอุดมสมบูรณ์ พวกเขาสรุปอย่างรวดเร็วว่าบุษบาห้าฤดูเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ
ซูอันไม่คาดคิดว่าจ้าวรุ่ยจื่อจะมาถึงในช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมพลังของห้องธาตุดินและไฟถึงถูกกระตุ้น
ความต้องการของจักรพรรดิทำให้เขาตกที่นั่งลำบากทันที ซูอันไม่รังเกียจที่จะมอบสิ่งอื่นใดหากสามารถแลกเปลี่ยนกับปี่หลิงหลงได้ แต่บุษบาห้าฤดูผูกติดอยู่กับชะตากรรมของหมี่ลี่ พวกเขาอาจไม่มีวันพบมันได้อีกหากพลาดโอกาสนี้
หมี่ลี่ไม่ได้พูดอะไรและจ้องมองเขาด้วยความสนใจแทน สงสัยว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร
ซูอันตัดสินใจที่จะเอาใจอีกฝ่ายด้วยคำพูดก่อน “ปล่อยนางไปก่อน จะเป็นยังไงถ้าเจ้ากลับคำสัญญา การบ่มเพาะของเจ้าสูงมาก เราไม่มีพลังที่จะต่อต้านได้”
หมี่ลี่เลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของซูอัน อย่างไรก็ตามนางยังไม่ได้พูดอะไร
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระ ในตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกแล้ว ส่งมันมาให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่านางทันที” จ้าวรุ่ยจื่อพูดอย่างเย็นชา ด้วยสถานะและอารมณ์ของเขา ไม่มีใครมีสิทธิ์ต่อรองทั้งสิ้น
ปี่หลิงหลงกรีดร้อง “อาซู ไม่ต้องห่วงข้า! เขาไม่มีทางปล่อยเราแม้ว่าเจ้าจะให้ดอกไม้นั่นไป!” หลังจากอยู่ในวังหลวงมานาน นางก็รู้แล้วว่าจักรพรรดิเป็นคนอย่างไร หากซูอันไม่มอบดอกไม้ให้นางอาจยังมีโอกาสรอดชีวิต แต่ถ้าทุกอย่างกลับกัน พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“หุบปาก!” ฝ่ามือของจ้าวรุ่ยจื่อกระชับขึ้น ปี่หลิงหลงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่หัวไหล่ ร่างกายของนางถูกจำกัดโดยพลังงานลึกลับ ทำให้ไม่สามารถพูดได้อีก
ซูอันหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ฝ่าบาท เป็นไปได้ไหมว่าสมองเจ้าผิดปกติ? นางคือองค์หญิงรัชทายาท ลูกสะใภ้ของเจ้า เดี๋ยวนะ นางคือภรรยาที่เจ้าเลือกเองด้วยซ้ำ ทำไมเจ้าถึงใช้ผู้หญิงของตัวเองมาคุกคามข้า ตลกสิ้นดี!”
………………..