เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1286 หมึกยักษ์
บทที่ 1286 หมึกยักษ์
มนุษย์โลหิตค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองดูนาง “ไม่เจอกันนาน ฝ่าบาท”
ซูอันรู้สึกหนังศีรษะชาวาบเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น มนุษย์โลหิตคนนี้คือซูฟู? นี่คือซูฟูที่ควรจะตามหายาอายุวัฒนะเพื่อถวายจักรพรรดิ!
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าหัวหน้าคนสุดท้ายของผนึกจะเป็นปฐมจักรพรรดิ แต่สุดท้ายกลับเป็นบุคคลที่แตกต่างไปจากที่คิดอย่างสิ้นเชิง?
จ้าวรุ่ยจื่อรู้สึกสับสนอย่างสมบูรณ์ ซูฟูคือใคร? ทำไมถึงเรียกผู้หญิงคนนี้ว่า ‘ฝ่าบาท’?” เขาสงบนิ่ง ตั้งใจฟังและรวบรวมข้อมูลก่อน ในเวลาเดียวกันก็ปรับสมดุลพลังชี่ไปด้วย ชายประหลาดนี้ให้ความรู้สึกที่อันตรายอย่างยิ่ง เขาจำเป็นต้องฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด
อาการปวดท้องของเขาใกล้จะหายแล้ว เหลือแต่อาการปวดตื้อ ๆ อย่างไรก็ตาม มันอยู่ในขอบเขตแห่งความอดทนของเขา พิษของวิญญาณเยือกแข็งถูกดึงกลับเข้าไป เขาสามารถขับมันออกจากร่างกายได้หากมีเวลาอีกเล็กน้อย
ส่วนที่ลำบากที่สุดคือ การบาดเจ็บจากมีดเทพสังหาร เขาครอบครองร่างของรัชทายาทด้วยส่วนหนึ่งของวิญญาณ ดังนั้นร่างกายและวิญญาณจึงไม่สอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ เมื่อถูกมีดเทพสังหารโจมตีจิตวิญญาณไปหมาด ๆ เขาย่อมไม่สามารถรักษามันได้หากไม่มีระยะเวลาพักฟื้นที่เหมาะสม และทำได้เพียงรักษาบาดแผลไว้ชั่วคราวเท่านั้น
“ทำไมเป็นเจ้า? อิ่งเจิ้งอยู่ที่ไหน” หมี่ลี่จ้องมองมนุษย์โลหิต
จ้าวรุ่ยจื่อมีประสบการณ์ในการต่อสู้เข่นฆ่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และกลายเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เขาเตรียมพร้อมไว้แล้ว ประกายแสงสีทองพัดคู่ต่อสู้ของเขากลับไป อย่างไรก็ตาม การแลกเปลี่ยนกระบวนท่าทำให้พลังชี่และโลหิตในร่างกายของเขาปั่นป่วนเช่นกัน
จ้าวรุ่ยจื่อรู้ว่าตัวเองอาจไม่สามารถเอาชนะในสภาพที่เป็นอยู่ได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ปะทะซึ่ง ๆ หน้า และหาสถานที่พักฟื้นก่อน
ในขณะที่เขากำลังจะจากไป ทั้งร่างกายก็จมดิ่งลงไป เขาก้มศีรษะลง โลหิตไหลซึมออกมาระหว่างรอยแตกเหมือนแขนยักษ์โอบรอบตัวเขาแน่นหนา
จ้าวรุ่ยจื่อคำราม แสงสีทองสว่างวาบ โลหิตกระจายไปทั่วแขน แต่ในเวลานั้น ซูฟูได้กระโจนเข้ามาจากระยะไกลแล้ว
ซูฟูไม่ได้อยู่ในร่างมนุษย์อย่างที่จ้าวรุ่ยจื่อคาดไว้ ผ่านไปครึ่งทาง เขาก็กลายเป็นหมอกสีเลือดไปแล้ว จากนั้นจึงก่อตัวเป็นหมึกยักษ์ หนวดจำนวนนับไม่ถ้วนพันรอบร่างกายของจ้าวรุ่ยจื่ออย่างแน่นหนา
แสงสีทองวูบวาบรอบตัวจ้าวรุ่ยจื่อตัดผ่านหนวดหลายเส้นที่อยู่รอบตัวในทันที น่าเสียดายที่มีหนวดจำนวนมากเกินไป เมื่อหนวดเหล่านั้นถูกตัดออก หนวดใหม่ก็เข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็วราวกับไม่มีที่สิ้นสุด
จ้าวรุ่ยจื่อรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ถ้าร่างกายอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เขาจะไม่สนใจการโจมตีเลย เขายกแขนขึ้นและยิงแสงสีทองออกมา หนวดโดยรอบทั้งหมดถูกทำลาย จากนั้นจึงรีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น หนวดที่หนามากสองเส้นก็พุ่งออกมาพันรอบแขน เขาพยายามดิ้นรน แต่หนวดหนา ๆ เหล่านั้นไม่ได้ถูกทำลายง่าย ๆ เหมือนหนวดเส้นอื่นช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นก็เพียงพอแล้วที่หนวดสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนจะพัวพันเขาอีกครั้ง จากนั้นหนวดหนาเส้นที่สามพุ่งออกมาจากหมึกยักษ์และมุ่งตรงไปที่หัวของเขา หากถูกหนวดนั้นโจมตี แม้แต่จักรพรรดิผู้ทรงพลังก็จะเสียชีวิตในทันที
จ้าวรุ่ยจื่อคำราม แขนของเขาหุบเข้าหากัน รวบหนวดทั้งหมดเข้ามา ในช่วงเวลาแห่งความเป็นตาย เขาสามารถจับหนวดที่พุ่งเข้ามาได้ หน้าผากเกิดเส้นเลือดแตก เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรหนวดเส้นนั้นได้เลย สถานการณ์จึงเหมือนเป็นการคุมเชิงกัน
คนอื่น ๆ ที่อยู่ในนั้นตกใจ ปี่หลิงหลงอดไม่ได้ที่จะหันหลังและเริ่มถอยกลับ แม้แต่หมี่ลี่ก็ขมวดคิ้ว ผู้หญิงมีความกลัวโดยธรรมชาติต่ออะไรที่น่าขนลุกเช่นนี้
ซูอันดีขึ้นเล็กน้อย แต่เขาไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง เหตุใดเจ้าหน้าที่อย่างซูฟูจึงเปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรหมึกยักษ์?
ทันใดนั้น เขาก็จำได้ว่า หมี่ลี่เคยพูดถึงซูฟูว่าเขาอยู่ในทะเลเป็นเวลานานเพื่อค้นหายาอายุวัฒนะของปฐมจักรพรรดิ เขาได้ฆ่าปลายักษ์ไประหว่างทาง และยังพาจักรพรรดินีแห่งเผ่าพันธุ์เงือกกลับมาด้วยใช่ไหม? เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับทะเล ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเขาจะกลายเป็นอะไรที่ใกล้ชิดกับทะเล?
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนี้ เขาอุ้มปี่หลิงหลงไว้ด้วยแขนข้างหนึ่งและหมี่ลี่อีกข้างหนึ่ง ตัดสินใจออกจากสถานที่แห่งนี้ก่อน สัตว์อสูรสองตัวกำลังดุร้ายฟาดงวงฟาดงาอยู่ในตอนนี้ ถ้าเขาไม่ฉวยโอกาสวิ่ง เขาจะรอจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะแล้วค่อยตามเขามาทีหลังหรืออย่างไร?
หมี่ลี่ขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกว่าแขนของซูอันโอบรอบเอวของนาง อย่างไรก็ตาม นางรู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่มีเหตุผลและไม่ได้ทำอะไรตอบโต้ ตรงกันข้าม นางทำให้จิตวิญญาณของนางจับต้องได้มากขึ้นเพื่อให้ซูอันอุ้มนางได้ง่ายขึ้น
ซูอันใช้จ้าววายุหลบหนีอย่างรวดเร็ว สัตว์อสูรหมึกยักษ์ดูเหมือนจะเห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่มันยุ่งอยู่กับการจัดการกับจ้าวรุ่ยจื่อและไม่มีอิสระที่จะหยุดพวกเขา ซูอันดีใจในขณะที่มาถึงทางออกแล้ว ถึงตอนนั้นเขาไม่สนใจว่าจะเป็นซูฟูหรือจ้าวรุ่ยจื่อ ไม่มีใครสามารถตามหาเขาได้
ทันใดนั้น หมี่ลี่ก็คร่ำครวญ ซูอันหันกลับมาและเห็นว่าร่างกายของนางสั่นเทา สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“เป็นอะไรไป?” ซูอันถามด้วยความตื่นตระหนก
หมี่ลี่ขมวดคิ้ว “ผนึกทำให้ข้าติดอยู่ที่นี่ ไม่สามารถหนีไปได้ เจ้าควรพาผู้หญิงคนนั้นออกไปก่อน” แม้ว่าการบ่มเพาะจะแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้นางยังคงอยู่ในร่างวิญญาณ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีบางสิ่งที่สามารถจำกัดนางได้ ผนึกหยินหยางห้าธาตุนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ซูอันพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านจะตาย?”
หมี่ลี่กำลังถูกผนึกระงับ มันยากที่จะขยับตัว ถ้านางรั้งอยู่ข้างหลัง สิ่งเดียวที่รออยู่คือความตาย อย่างไรก็ตาม นางพูดอย่างเย็นชาว่า “หลังจากใช้ชีวิตมานาน ข้าก็ไม่ได้ผูกพันกับโลกนี้มากนัก ที่นี่มีคนรู้จักเก่ามากมาย วังนี้ข้าก็คุ้นเคย มันไม่ใช่ทางเลือกที่แย่เกินไป”
ซูอันตะคอกด้วยความโกรธ “ไร้สาระ! ท่านยังมีข้าอยู่ไม่ใช่เหรอ!?”