เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1291 ทรยศ
บทที่ 1291 ทรยศ
หมี่ลี่ถอนหายใจ “ร่างกายหยินบริสุทธิ์ที่เจ้าเลือกคือข้า ในขณะที่ร่างกายหยางบริสุทธิ์คืออิ่งเจิ้ง เจ้ากล้าได้กล้าเสียจริง ๆ”
ซูอันคิดกับตัวเอง ไม่น่าแปลกใจที่อิ่งเจิ้งจะเก็บงำความสงสัยเอาไว้ เขารู้ว่าตัวเองมีร่างกายหยางบริสุทธิ์ และเมื่อนึกถึงร่างกายหยินบริสุทธิ์ของหมี่ลี่ มันก็ง่ายที่จะคาดเดาแรงจูงใจของซูฟู ความสงสัยทั้งหมดของซูอันได้รับการคลี่คลายแล้ว
ในตอนนั้นเขารู้สึกสับสนอย่างมากเมื่อพบหมี่ลี่เป็นครั้งแรก เหตุใดปฐมจักรพรรดิจึงผนึกนางไว้? การฆ่านางไปเลยจะไม่ง่ายกว่าเหรอ?
เหตุผลที่อิ่งเจิ้งเก็บนางไว้ก็เพื่อใช้ในการสร้างผนึกหยินหยางห้าธาตุในอนาคต! เมื่อทุกอย่างสำเร็จ อิ่งเจิ้งจะนำนางออกมาและเปิดใช้งานผนึกเพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร์ หากมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น ร่างของหมี่ลี่จะยังคงถูกซ่อนอยู่ ทำให้ทุกอย่างปลอดภัยรัดกุมมากขึ้น
“เจ้าจะได้รับชีวิตนิรันดร์ได้อย่างไรหากไม่มีความกล้า” ซูฟูหัวเราะ “ข้าบาดเจ็บสาหัสและมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อไม่เจอร่างของท่านก็ทำอะไรไม่ถูกนอกจากเปิดใช้ผนึกล่วงหน้าเท่านั้น แม้ว่าทุกอย่างจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อายุขัยของข้ายืนยาวขึ้น”
“โชคไม่ดีที่การเปิดใช้งานผนึกจำเป็นต้องมีธาตุสี่อย่างเป็นอย่างน้อย ในตอนนั้นฮั่นจงหายไป จนมาถูกพบและขังไว้ที่นี่ในภายหลังเท่านั้น ข้าไม่มีทางเลือกอื่น มีลู่เซิงสำหรับธาตุโลหะ ฝูซูสำหรับธาตุไฟ และเมิ่งเทียนสำหรับธาตุดิน ยังขาดธาตุน้ำ ดังนั้นจึงได้แต่เปลี่ยนความสนใจไปที่นาง”
หมี่ลี่หัวเราะเยาะ “เจ้าเป็นคนโหดร้ายและไร้ความปรานี จักรพรรดินีเงือกนั่นปัญญาอ่อนจริง ๆ เจ้าทรยศต่อผู้ปกครองของตัวเอง และยังเต็มใจที่จะมอบผู้หญิงที่รักให้กับคนอื่นโดยไม่ลังเล” นางไม่สงสารจักรพรรดินีเงือกเลย เงือกสาวผู้โง่เขลานั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้อาณาจักรของพวกนางล่มสลาย ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดินีเงือก ทั้งนางและอิ่งเจิ้งก็คงยังสุขสบายดี
ปี่หลิงหลงดึงแขนเสื้อของซูอันและพูดเสียงเบาว่า “เจ้าอย่าเป็นเหมือนเขานะ ตกลงไหม?” นางเห็นอกเห็นใจจักรพรรดินีเงือกที่ยอมเสียสละมากมายเพื่อความรัก แต่ท้ายที่สุดกลับได้รับผลลัพธ์ที่เลวร้ายอย่างยิ่ง
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีทางทำแบบนั้นกับผู้หญิงของตัวเองหรอก”
ปี่หลิงหลงหน้าแดง แต่นางไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงผู้หญิงคนไหน อย่างไรก็ตาม นางตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าทั้งสองคนน่าจะต้องตายตกอยู่ที่นี่ จะคิดเรื่องนี้ไปทำไม? คิดได้อย่างนี้ ปี่หลิงหลงจึงค่อย ๆ สงบลง
ซูฟูพูดอย่างไม่แสดงออกทางสีหน้าว่า “ถูกต้อง เมื่อข้าโจมตีนาง ครั้งแรกนางตกใจ จากนั้นนางก็โกรธและไม่พอใจอย่างมาก ข้าต้องการใช้ความแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุดของนางเพื่อทำพิธีให้เสร็จ”
เมื่อได้ยินเสียงที่ไร้อารมณ์ของเขา ปี่หลิงหลงก็โพล่งออกมา “เจ้าไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อยเลยเหรอ!?”
“ทำไมข้าต้องรู้สึกผิดด้วย” ซูฟูดูแสดงอาการสับสนบนใบหน้า “ข้าทำสิ่งนี้เพื่อชีวิตนิรันดร์ไม่ใช่เหรอ? ข้าจะเกิดใหม่และส่วนหนึ่งของนางจะมีชีวิตอยู่ในตัวข้า โลกจะจดจำนางตลอดไปในฐานะผู้มีส่วนช่วยเหลือผู้เป็นอมตะคนแรกของโลก! นั่นก็ความจริงอันเป็นอมตะด้วยตัวของมันเองไม่ใช่เหรอ?”
“ไร้สาระสิ้นดี! แน่นอนว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ!” ปี่หลิงหลงโกรธมาก ทั้งตัวสั่นราวกับเป็นจักรพรรดินีเงือกผู้นั้นเสียเอง
ซูฟูหัวเราะ เขาไม่ได้สนใจนางเลย แต่มองไปที่หมี่ลี่แทน “ร่างของข้าสลายไปในกองเลือดนี้ กลายเป็นหนึ่งเดียวกับมันและเข้าสู่สภาวะจำศีล รอวันที่พวกเจ้าจะมาถึง เพราะข้ารู้ว่าอิ่งเจิ้งมีแผนการแน่นอน ตอนนี้ดูเหมือนว่าการคาดเดาของข้าจะถูกต้อง ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดโดยโชคชะตา สวรรค์อนุญาตให้ข้าเป็นคนแรกของโลกที่มีชีวิตเป็นอมตะ”
หมี่ลี่ส่ายศีรษะและไม่พูดอะไร นางถูกสถานที่นี้ระงับไว้ ซูอันคนเดียวไม่สามารถเอาชนะสัตว์อสูรที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร
“เอาล่ะ ข้าบอกทุกอย่างเกี่ยวกับอดีตไปแล้ว อย่างน้อยท่านก็รู้ความจริงก่อนตาย ถึงเวลาเริ่มพิธีกรรมสุดท้ายแล้ว” ซูฟูรู้สึกพึงพอใจเพียงพอแล้วจากสีหน้าตกใจของคนทั้งหมด ได้เวลาจัดการธุระสำคัญแล้ว
ปี่หลิงหลงคว้ามือของซูอันไว้แน่น ร่างกายสั่นเทา แม้ว่าจะเตรียมใจสำหรับความตายแล้ว แต่สัญชาตญาณของร่างกายก็ปฏิเสธที่จะยอมรับแต่โดยดี
ซูอันบีบมือปลอบใจนาง จากนั้นมองไปที่ซูฟูและถามว่า “เจ้าต้องการให้เราทำอะไรในระหว่างพิธีกรรมนี้”
ปี่หลิงหลงรู้สึกชื่นชม มีผู้ชายหลายคนที่ปกติจะอวดดีและหยิ่งยโส แต่ในช่วงเวลาวิกฤตที่แท้จริงกลับลนลานและโง่ยิ่งกว่าลา แต่ซูอันแตกต่างออกไป ไม่ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิหรือซูฟูก็ยังคงสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์ เหนือสิ่งอื่นใด มันไม่ใช่ความสงบแบบเสแสร้ง แต่เป็นความสงบที่แท้จริง ราวกับว่าไม่มีความคิดเรื่องชีวิตและความตายอยู่ในใจเลย
“หายากที่จะพบผู้เสียสละอย่างเจ้า” ซูฟูรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน “โดยธรรมชาติแล้ว ข้าต้องละลายเจ้าลงในสระเลือดนี้และรวบรวมแก่นแท้ของหยินและหยางบริสุทธิ์ แล้วรวมพลังธาตุทั้งห้า จากนั้นข้าจะได้รับชีวิตนิรันดร์”
จู่ ๆ ซูอันก็รู้สึกเขินอายและพูดว่า “แต่ข้าไม่ใช่ชายบริสุทธิ์”
ปี่หลิงหลงรู้สึกสับสน หมี่ลี่พูดไม่ออก ทั้งสองจ้องมองอย่างว่างเปล่าชั่วขณะก่อนที่จะตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นและเย้ยหยันอยู่ในใจ
ซูฟูก็ตกตะลึงเช่นกัน ครู่ต่อมา เขาคำรามด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ! นั่นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ร่างกายหยางบริสุทธิ์แตกต่างจากร่างกายหยินบริสุทธิ์ การเป็นพรหมจรรย์นั้นไม่สำคัญ ไม่อย่างนั้นในอดีตข้าคงไม่ตั้งเป้าไปที่อิ่งเจิ้ง”
“ทำไมร่างกายหยางบริสุทธิ์ถึงไม่ต้องเป็นชายพรหมจรรย์?” ซูอันค่อนข้างอารมณ์เสีย หากเป็นในโลกอดีตของเขา ความจริงดังกล่าวจะต้องถูกชาวเน็ตหญิงในเว็บบอร์ดโจมตีอย่างรุนแรงว่าไม่ยุติธรรมเลย
“ชายพรหมจรรย์…” เปลือกตาของซูฟูกระตุก
หมี่ลี่และปี่หลิงหลงยังคงไม่สะทกสะท้าน พวกนางคุ้นเคยกับวิธีการพูดของซูอันแล้ว
ซูฟูพูดตะคอกว่า “ข้าจะไม่เสียเวลาคุยกับเจ้า จักรพรรดินีก็คือจักรพรรดินี ดังนั้นนางจึงต้องได้รับความเคารพ เริ่มกันที่ตัวเจ้าก่อน” แอ่งเลือดบนพื้นขยายขนาดโดยมีหนวดหมึกสีเลือดล้อมรอบตัวซูอันไว้
ซูอันอาจดูไม่มีแผนการใด ๆ แต่จริง ๆ กลับเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว เขาใช้จ้าววายุเพื่อปิดระยะห่าง จากนั้นก็แทงกระบี่ไท่เอ๋อร์ใส่ร่างของซูฟู
ร่างของซูฟูสะบัดหลบไปด้านข้าง “หืม? นี่มันกระบี่ของจักรพรรดิฉิน เจ้าไม่มีสิทธิ์ใช้มัน เอามานี่!” เขาคว้ากระบี่หลังจากพูด ดึงมันมาอย่างแรง พลังมหาศาลพุ่งตามคมกระบี่จนไปถึงด้ามจับ
นิ้วของซูอันปวดร้าว รู้สึกว่าจับกระบี่ไท่เอ๋อร์ได้ยากขึ้นเล็กน้อย แต่เขาไม่ยึดมั่นกับมัน กริชสีดำสนิทปรากฏขึ้นในมืออย่างรวดเร็วแล้วแทงเข้าใส่หนวดเลือดที่ล้อมรอบอยู่ เขารู้ว่าด้วยการบ่มเพาะของอีกฝ่าย มันยากที่จะแทงร่างที่แท้จริงของซูฟูได้ อย่างไรก็ตาม มันจะได้ผลเช่นเดียวกันหากแท่งพิษแทงเข้าที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
………………..