เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1292 ใครคืออันดับหนึ่ง?
บทที่ 1292 ใครคืออันดับหนึ่ง?
ซูฟูรีบตัดส่วนหนึ่งของหนวดออกไปในทันที เขาขมวดคิ้วขณะที่นำหนวดนั้นมาไว้ด้านหน้า “ประสาทสัมผัสการต่อสู้ของเจ้าสูงอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว”
ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง “ทำไมเจ้าไม่เป็นอะไรเลย?”
ซูฟูยิ้ม สายตาของเขาเปลี่ยนไปที่กริชสีดำสนิทในมือของซูอัน “ตอนนี้ข้ารู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง คนอื่นอาจตายทันทีหลังจากถูกกริชนี้แทง แต่ข้าต่างออกไป ข้าละทิ้งร่างมนุษย์ไปแล้วและเป็นหนึ่งเดียวกับสระเลือดนี้ โดยธรรมชาติแล้วกริชของเจ้าไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อข้ามากนัก”
ซูอันไม่ยอมเสียเวลา เขาเรียกหงส์หิมะออกมาและใช้กระบี่เกล็ดหิมะ ชั้นน้ำแข็งบาง ๆ ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือสระโลหิต หลังจากนั้นเขาก็เรียกหงส์ไฟทันทีเพื่อสร้างปฏิกิริยาระหว่างไฟและน้ำแข็งที่ทรงพลัง อยากรู้ว่าจะสามารถทำให้สระโลหิตระเหยไปได้หรือไม่
สระโลหิตเริ่มเดือด แต่ไม่มีทีท่าว่าจะระเหย ซูฟูหัวเราะ “ข้าใช้วิธีลับจากทะเลเป็นรากฐาน ใช้หญิงพรหมจรรย์สามพันคนและผู้บ่มเพาะอีกหลายคนมาสังเวย กลอุบายของเจ้าจะทำลายมันได้ง่าย ๆ ได้ยังไง?”
“ทำไมเจ้าถึงอยากได้ความเป็นอมตะมากขนาดนี้ ถ้าเจ้าเป็นคนที่ไม่มีวันตายอยู่แล้วจริง ๆ” ซูอันปฏิเสธที่จะยอมแพ้และโจมตีอีกครั้ง น่าเสียดายที่ความแตกต่างในความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมากเกินไป เขาถูกกระแทกลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้งและกระเด็นออกมาอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ปี่หลิงหลงออกวิ่งเมื่อเห็นซูอันถูกกระแทกลงกับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายของเขาโชกไปด้วยเลือด ทันใดนั้น หนวดพลันกระหวัดรัดดึงนางออกจากพื้นและทุ่มลงไปเช่นกัน เพียงแค่แรงกระแทกนั้นเพียงอย่างเดียวก็เกือบจะฆ่านางได้แล้ว การบ่มเพาะของซูฟูนั้นยอดเยี่ยมเกินไป จนนางไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้ด้วยได้
ดวงตาของนางเริ่มเต็มไปด้วยน้ำตาขณะที่เฝ้าดูการต่อสู้อันขมขื่นและไร้ประโยชน์ของซูอัน “อาซู หยุดเถอะ! เราชนะมันไม่ได้หรอก! ข้าจะตายไปพร้อมกับเจ้า เราจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป…” นางพูดด้วยเสียงสะอื้น
ซูอันกระอักเลือดและคำราม สีหน้าของเขาหนักแน่น “ร่างกายสามารถถูกทุบตีได้ แต่เจตจำนงไม่สามารถลบล้างได้ ข้าจะยอมแพ้ทั้งที่ยังไม่จบได้ยังไง?”
หมี่ลี่เงียบลงเมื่อเห็นฉากนี้ นางนึกถึงการพบกันครั้งแรกกับซูอัน ย้อนกลับไปในตอนนั้นซู อันถูกทุบตีจนร่างโชกไปด้วยเลือด แต่เขาไม่เคยยอมจำนนและยังคงต่อสู้ต่อไป…
ซูฟูพยักหน้าด้วยความชื่นชม “เจ้ากล้าหาญดี เด็กน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าได้เรียนรู้วิชาปฐมบทแรกเริ่มของราชวงศ์ฉิน ร่างกายของเจ้านี่ไม่เลวเลย หลังจากปรับแต่งเล็กน้อยแล้ว มันจะมีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นร่างใหม่ของข้า”
ซูอันพูดไม่ออก บัดซบอะไร? คงเป็นเรื่องหนึ่งถ้าสาวงามต้องการร่างกายของข้า แต่ทำไมสัตว์อสูรชราเหล่านี้ถึงต้องการข้า? ข้าทำบ้าอะไรถึงสมควรได้รับสิ่งนี้!
จู่ ๆ หมี่ลี่ก็พูดขึ้น “อาซู เจ้าควรพักผ่อนสักหน่อย เจ้าไม่สามารถเอาชนะเขาแบบนี้ได้ ให้ข้าสู้กับเขาเถอะ”
ซูอันตกใจมาก “ท่านดีขึ้นแล้วเหรอ?”
หมี่ลี่ไม่ตอบและพูดว่า “พาผู้หญิงคนนั้นออกไปกับเจ้า วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” จากนั้นร่างกายของนางก็ไม่สั่นไหวอีกต่อไป แต่กลับสดใสขึ้นมาก คลื่นพลังของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ซูอันคิดว่านางได้หลุดพ้นจากข้อจำกัดแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะรู้สึกมีความสุข ซูฟูกล่าวว่า “ท่านต้องการทำลายตัวเองและลากข้าตายตามไปด้วย? โชคไม่ดีที่ท่านอยู่ภายใต้การควบคุมของผนึก! แม้ว่าท่านจะทำลายตัวเอง มันก็ไม่ได้ทำอะไรกับข้ามาก ในทางกลับกัน พลังงานหยินของท่านจะถูกผนึกดูดซับเร็วขึ้นกว่าเดิม!”
หมี่ลี่กล่าวว่า “จะเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ก็พูดยาก ทำไมไม่ลองดูก่อน? ข้าเรียนรู้สิ่งนี้จากเด็กคนนั้น” นางมองซูอันด้วยรอยยิ้มหลังจากพูดเช่นนี้
ซูอันตื่นตระหนก เขารู้ว่าหมี่ลี่ได้ตัดสินใจสละชีวิตที่นี่แล้ว และตัดสินจากสิ่งที่ซูฟูพูด ดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยอะไรมากนัก เขารีบวิ่งไปหยุดนางไว้ “อาจารย์อย่าผลีผลาม! ข้ายังมีหนทาง!”
“เจ้ามีวิธีเหรอ?” หมี่ลี่ขมวดคิ้ว ทั้งสองคนรู้จักกันมานาน ดังนั้นนางจึงรู้เกี่ยวกับความสามารถทั้งหมดของซูอัน เขาสามารถนำอะไรออกมาใช้ที่นี่ได้บ้าง?
“เชื่อข้า” ซูอันจับมือนางและสบตาอย่างแน่วแน่
หมี่ลี่ตกตะลึง ด้วยเหตุผลบางประการ น้ำเสียงของเขาจึงมีความสามารถในการโน้มน้าวใจได้อย่างลึกลับ ด้วยเหตุนี้ นางจึงถอนความตั้งใจที่จะตายชั่วคราว
ซูฟูคำรามด้วยเสียงหัวเราะ “เจ้ามีวิธีอะไร? ฮ่า ๆๆ เด็กหนุ่มมักปากดีอย่างนี้ แม้ว่าใกล้จะตายก็ตาม”
หมี่ลี่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย นางตอบโดยสัญชาตญาณว่า “แน่นอนว่าเป็นอิ่งเจิ้ง”
ซูอันพยักหน้า จากนั้นจึงมองไปที่ซูฟู “แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าคิดว่าใครคืออันดับหนึ่ง?”
ซูฟูไม่พอใจ “ในตอนนั้นมันเป็นอิ่งเจิ้ง แต่ตอนนี้ข้ากลัวว่าจะเป็นตัวเอง”
หมี่ลี่หัวเราะเยาะ รู้สึกว่าอีกฝ่ายดีแต่ปาก
“ดีแล้ว” ซูอันยืนตัวตรง ร่างกายของเขาปล่อยรัศมีความสูงส่งที่แปลกประหลาดออกมา จากนั้นเขาจึงใช้ทักษะ ‘คีย์บอร์ด จงมา’!*[1]
เสียงที่สง่างามดังก้องไปทั่วทั้งสถานที่ “ข้าคืออิ่งเจิ้ง!”
ปี่หลิงหลงรู้สึกงุนงงอย่างสมบูรณ์ ไม่รู้ว่าตอนนี้ซูอันกำลังทำอะไรอยู่ เขาถามว่าพวกนางคิดว่าใครแข็งแกร่งที่สุด แล้วบอกว่าตัวเองคือคนคนนั้น? นี่หมายความว่าอย่างไร? อย่าบอกนะว่าเขาคิดว่าสิ่งนี้จะทำให้ซูฟูตกใจ?
หมี่ลี่ก็สับสนเช่นกัน แต่นางอยู่กับซูอันมานานแล้ว ดังนั้นจึงแทบไม่มีความลับระหว่างกันเลย นางจำทักษะ ‘คีย์บอร์ด จงมา!’ ได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าทักษะ ‘คีย์บอร์ด จงมา!’ จะพูดได้ว่ามีอยู่จริง แต่ผลข้างเคียงก็บ้าพอ ๆ กัน! ด้วยจิตวิญญาณปัจจุบันของซูอัน เขาสามารถใช้มันกับกลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เท่านั้น แต่ตอนนี้เขากำลังจะกลายเป็นอิ่งเจิ้ง? แม้ว่าจะสามารถฆ่าซูฟูได้จริง ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนีการสะท้อนกลับอันทรงพลังได้และอาจระเบิดเป็นเถ้าถ่านทันที…
นางกำลังจะหยุดซูอัน แต่ก็เห็นว่าเขาใช้ทักษะไปแล้ว สีหน้าของนางขัดแย้งอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าน่าจะหนีไป แต่เขาทำเช่นนี้เพียงเพราะไม่ต้องการให้ข้าเสียสละตัวเอง… แต่เขาไม่รู้หรือว่าด้วยสัญญาชีวิตและความตาย ถ้าเขาตาย ข้าก็จะตายด้วย!?
แต่หลังจากนั้นไม่นาน นางก็รู้สึกโล่งใจ ตายแบบนี้ก็ไม่เลวนะ อย่างน้อยที่สุดพวกนางก็ได้ต่อสู้จนตัวตาย
ซูฟูรู้สึกตกตะลึงในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะทันที “เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ? คิดว่าตัวเองกลายเป็นอิ่งเจิ้งจริง ๆ หลังจากพูดอย่างนั้นเหรอ?”
*[1] คำอธิบายทักษะ : ในฐานะนักรบคีย์บอร์ด ‘คีย์บอร์ด จงมา!’ เป็นทักษะที่สำคัญที่สุด จงตะโกนว่า ‘คีย์บอร์ด จงมา!’ ให้ดัง! ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียงของท่านเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ให้ผู้คนรู้ว่าการพูดถึงสิ่งที่มีอยู่จริงหมายความว่าอย่างไร! เมื่อเปิดใช้งานทักษะ ทุกคำที่ท่านพูดจะกลายเป็นจริง
หมายเหตุพิเศษ : การใช้ความสามารถนี้ต้องใช้พลังวิญญาณ ดังนั้นโปรดอย่าโอ้อวดมากเกินไป ยิ่งท่านโม้มากเท่าไร ผลสะท้อนที่จะได้รับในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
………………..